หัวโจก“ม็อบแดง”โฟนอินอีกรอบ-ปลุกสาวกอย่ากลัว พ.ร.ก.

“นช.แม้ว”โฟนอินอีกรอบ ปลุกบริวารอย่ากลัว พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อ้างเป็นคนออกเอง ตัดพ้อทีสมัยรัฐบาลน้องเขย ประกาศใช้ พ.ร.ก.ไม่เห็นมีทหารออกมา อ้างวันนี้ ปชช.รวมตัวกันยิ่งใหญ่ แค่ยุบสภาไม่พอ ต้องสร้างประชาธิปไตยใหม่ด้วย บิดเบือนอีก กล่าวหา “มาร์ค”สั่งทหาร-ตำรวจใส่เสื้อนำเงินยิงประชาชน
 
 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปราศรัย 

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 12 เม.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้บงการม็อบเสื้อแดงป่วนชาติและยังหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศได้โทรศัพท์เข้ามาพูดคุยกับคนเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาล ว่า คนมีความห่วงใยพี่น้อง ซึ่งวันนี้ก็คึกคักกันดี และบอกว่าในรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (น้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ) ได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแต่ทหารไม่ทำอะไรเลย ทั้งที่มีการทำร้ายประชาชน ยิงประชาชน แต่ตอนนี้ทหารออกมาเต็มเมือง คราวที่แล้วยึดสนามบิน ทหารไม่ทำอะไรเลย แต่ ผบ.ทบ.ยังมาบอกให้นายสมชายลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ก็เห็นชัดๆ ว่าเป็นสองมาตรฐานอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามพี่น้องทหารที่มาก็เป็นลูกคนจนจึงไม่คิดทำร้ายประชาชนด้วยกัน และเป็นคนน่ารักและดีต่อประชาชนที่ออกมาชุมนุม

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า วันนี้ประชาชนได้ร่วมมือร่วมใจทั้งประเทศอย่างยิ่งใหญ่มาก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นประโยชน์ทั้งประเทศ เพราะฉะนั้นวันนี้แค่ยุบสภาก็อย่างนั้น จะต้องมีเงื่อนไขใหม่แล้ว คือคืนประชาธิปไตยที่แท้จริงให้ประชาชน เป็นประชาธิปไตยเพื่อคนทั้งแผ่นดิน อย่างวันนี้หมอลักษณ์ฟันธงแล้ว ซึ่งพวกเราก็ฟันธงกันมานานแล้วว่าเป็นประโยชน์

อดีตนายกฯ ที่มีสถานะเป็นนักโทษหนีคดี กล่าวต่อว่า ไม่ต้องตกใจเรื่องการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะ พ.ร.ก.นี้ตนเป็นคนออกเองเพื่อแก้ปัญหาในภาคใต้ แต่การจับกุมจะต้องมีการขออนุญาตศาล และขอบคุณพี่น้องประชาชนอีกครั้ง ขอให้พวกเราเข้มแข็งไว้

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังอ้างว่า วันนี้ทีวีไทยออกข่าวไม่ค่อยสมดุล เช่นข่าวกรณีที่คนขับนายกฯ ถูกทำร้าย แต่กลับไม่ถ่ายตอนไล่ชนประชาชน หรือถ่ายตอนยิงประชาชน เป็นหน้าที่ที่เราต้องอธิบายว่าข้อเท็จจริงคืออะไร อย่างกรณีเสื้อน้ำเงินก็มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่นายอภิสิทธิ์บอกไปว่าเป็นคนริเริ่มเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่กลับให้นายเนวิน เป็นคนสั่งการ ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจะได้ฟังความจริง และนำมาซึ่งประชาธิปไตยที่แท้จริง ตนคิดว่าถ้าได้มีโอกาสกลับไป ก็คงถือว่าทำให้ประเทศไทยมีความสุข และเริ่มต้นในสิ่งที่ดีขึ้น

ระหว่างนั้นสัญญาณเสียงโทรศัพท์ขัดข้อง จนเวลา 22.10 น. จึงมีเสียงมาอีกครั้ง โดย พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่า ตนเป็นห่วงการใช้กำลังกับประชาชนเมื่อวันที่ 11 เม.ย. รัฐบาลบอกว่าส่งเสริมสิทธิมนุษยชนแต่เอาตำรวจบ้างทหารบ้างมาใส่สีน้ำเงิน แล้วใช้อาวุธกับประชาชนจนบาดเจ็บหลายคน เป็นสิ่งที่ร้ายกว่าใส่เครื่องแบบตีกับประชาชนเสียอีก อันนี้เป็นการหลอกต้มประชาชน และต้มชาวโลก ตำรวจพวกนี้กลับบ้านไปเมียก็ด่าว่าทำไมทำอย่างนี้ ชัดเจนว่ารัฐบาลต้องการปราบประชาชน แต่ขี้ขลาดเลยเอาคนปลอมตัวมา

พ.ต.ท.ทักษิณยังโกหกต่อไปว่า อย่างวันนี้ใช้ปืนยิง ใช้ปืนกล กับประชาชนน่าขยะแขยงมาก รัฐบาลกำลังจะโชว์ว่ามีอำนาจ จะปราบประชาชน ความรุนแรงไม่มีอะไรดีขึ้น เหมือนดังที่ มาติน ลูเธอร์คิง กล่าวว่า “ถ้าเกลียดก็ได้เกลียด ถ้ารุนแรงก็ได้รุนแรง" มันไม่เป็นสิ่งที่ปรารถนาสำหรับคนชาติเดียวกัน ผมขอเชิญชวน ปฎิวัติประชาชนเพื่อให้อำนาจประชาชนอย่างแท้จริงเถิด

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวย้ำอีกว่า ไม่ต้องกลัว พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะใครมาจับกุมต้องเป็นความผิดที่ร้ายแรง ต้องไปขอศาล และเป็นการประทำผิดระหว่างที่ประกาศ พ.ร.ก. แต่ถ้าเป็นกระทำผิดที่เกิดก่อนประกาศใช้ พ.ร.ก.ก็จะใช้กฎหมายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแทน แต่วันนี้กฎหมายไม่ไหวแล้ว เพราะรัฐบาลปล้นอำนาจประชาชนไม่ได้เป็นรัฐบาลที่ชอบธรรมอะไร