xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” สลด “แม้ว” หลอกแดงถ่อยตายแทน ดึง “ลูก-เมีย” หลบต่างประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” สลดพฤติกรรม “นช.แม้ว” ไม่เคยทำเพื่อชาติบ้านเมือง แฉจ้าง “แดงถ่อย” เสี่ยงตายเพื่อประโยชน์ของตัวเอง แต่กลับดึง “ลูก-เมีย” หลบภัยหนีไปต่างประเทศ ปูดซ้ำกำพืด “ม็อบเติมเงิน” สุดเถื่อน หิวแต่เบียร์-เหล้า เหตุเพราะถูกจ้างมาจากสลัมที่อยู่ใน กทม.-ปทุมธานี-นครปฐม จวกยับ “ผู้กำกับโคราช” ยืนเฉยปล่อย “เสื้อแดง” เผาโลงที่มีข้อความ “พระองค์ท่าน”

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “Good Morning Thailand”

รายการ “Good Morning Thailand” ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 06.00-07.00 น.วันจันทร์ถึงศุกร์ สำหรับวันที่ 9 เมษายน 2552 นี้ ได้นำข่าวคราวต่างๆ มาวิเคราะห์ และนำเสนออย่างหลากหลายเช่นเคย ทั้งนี้ นายสนธิได้เดินทางไปจัดรายการที่ จ.เชียงใหม่ โดยกล่าวถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ จ.เชียงใหม่ ว่าวันนี้ที่ จ.เชียงใหม่ มีนักท่องเที่ยวน้อยมาก เพราะกลายเป็นเมืองอำมหิต และเป็นเมืองที่มีกลิ่นคาวเลือด รวมทั้งเป็นเมืองที่ไม่มีธรรมนำหน้า และนี่คือความแตกแยกที่แท้จริงจริงสังคมไทย โดยไม่ได้เกิดจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเลยแม้แต่นิดเดียว

“มีพี่น้องชาวเชียงใหม่หลายคนเขาตกใจ เพราะเขานึกไม่ถึงว่าผมจะไป หลายคนไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว จ.เชียงใหม่ มีความสำคัญมาก อีกทั้งยังมีพระอริยสงฆ์ เช่น หลวงปู่แหวน ที่หลายๆ คนเคารพบูชา รวมทั้งยังพระสายป่าอยู่จำนวนมาก แต่นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับทำร้ายทำลายประเทศจนต้องระเห็จไปอยู่นอกประเทศ แต่กลับไม่สำนึก เพราะในใจมีแต่ความแค้น โดยไม่รู้จักตัวเอง หรือทบทวนตัวเองให้รู้สำนึกเรื่องชีวิตของตัวเองทำอะไรมาบ้าง ที่สำคัญยังเหิมเกริมโดยเชื่อในเรื่องที่ถูกปั้นแต่งขึ้นมา” นายสนธิ กล่าว

นายสนธิกล่าวอีกว่า นึกไม่ถึงว่าชีวิตของคนคนหนึ่งที่ลงเล่นการเมืองในนามพรรคไทยรักไทย โดย นช.ทักษิณ ไปกราบหลวงตามหาบัว ที่วัดป่าบ้านตาด โดยขอเป็นนายกฯ ซึ่งหลวงตามหาบัว เห็นเจตนาดีจึงระบุว่าจะทำให้ นช.ทักษิณ เป็นนายกฯ แต่ตอนหลังหลวงตามหาบัว ออกมาระบุว่า ท่านเสียใจที่ไม่ได้พิจารณาอย่างถ่องแท้และถี่ถ้วน เพราะเห็นว่าประเทศชาติในขณะนั้น นช.ทักษิณ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด นอกจากนี้ หลวงตามหาบัวยังรวบรวมนับล้านรายชื่อเพื่อส่งไปให้กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่กำลังพิจารณาคดีซุกหุ้น เพื่อขอความเห็นใจให้ นช.ทักษิณ ทำงาน นี่คือความเมตตาของพระอริยะสงฆ์ แต่เมื่อเขาหลุดจากคดีความ ส่วนหนึ่งซึ่ง นช.ทักษิณ จะปฏิเสธไม่ได้เลยคือ พลังใจที่คนส่วนใหญ่ในแผ่นดิน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และตน ที่ให้การสนับสนุนเพื่อให้โอกาส นช.ทักษิณ ทำงาน

“จนกระทั่งถึงวันที่ นช.ทักษิณ ถูกปฏิวัติ ซึ่งเขาพิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ได้ทำเพื่อชาติบ้านเมือง แต่เขาทำเพื่อตัวเขาเอง จนมาถึงปัจจุบันเมื่อตีความระหว่างบรรทัด และพิจารณาพฤติกรรมรอบด้าน ก็จะเห็นว่า นช.ทักษิณ กำลังหลอกให้พี่น้องเสื้อแดงออกมาตายกันเพื่อตัวเขา และในขณะที่เขาบอกให้พี่น้องเสื้อแดงออกมาสู้เพื่อลูกเพื่อหลานในสังคม แต่ นช.ทักษิณ กลับให้ลูกหลานของตัวเองหนีไปอยู่ต่างประเทศในเวลานี้ ทั้งคุณหญิงอ้อ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกสาวคนโตก็บินไปประเทศอังกฤษ ส่วน พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร บินไปที่ประเทศไต้หวันเรียบร้อยแล้ว คงเหลือเพียง นางเยาวภา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ในขณะที่ตนขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ท่ามกลางห่าระเบิด นายจิตนารถ ลิ้มทองกุล ลูกชายของตน ยังคงยืนเคียงข้าง และตนไม่เคยบอกเขาว่าให้หนีไปอยู่ต่างประเทศ ที่สำคัญตนบอกกับลูกว่า ที่เราสู้ครั้งนี้แล้วแพ้ เราจะไม่เหลืออะไรเลย แต่ลูกชายตน ยืนยันว่าจะร่วมต่อสู้ด้วย เพราะสิ่งที่ตนทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง จึงอยากถามกลับไปยังกลุ่มเสื้อแดงว่า ที่เขาจ้างให้มาชุมนุม โดยให้ลูกหลานของเขาหนีออกไปนอกประเทศนั้น คืออะไร นั่นแสดงว่าการชุมนุมในครั้งนี้อาจจะมีเหตุที่ทำให้คนตายได้ใช่หรือไม่ อีกทั้งยังเป็นการชุมนุมที่ไร้สาระโดยสิ้นเชิง เพราะมีการประกาศว่าจะมีคนเข้าร่วมชุมนุมเรือนแสนคน แต่ดูอย่างไรก็ไม่ถึง ซึ่งตรงกับสื่อ ช่อง 3 ช่อง 7 และ 9 จนทำให้กลุ่มเสื้อแดงไม่พอใจแล้วไปล้อมกรอบ โดยไปหาว่าเขาเสนอข่าวไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งๆ ที่ในสมัยที่พันธมิตรฯ ชุมนุม สื่อดังกล่าว ไม่เคยรายงานตรงกับความเป็นจริง

“ที่สำคัญ หลักฐานที่ปรากฏว่าคนที่สั่งปิดสนามบินสุวรรณภูมิในขณะนั้น ไม่ใช่พันธมิตรฯ แต่เป็นนายเสรีรัตน์ ปสุตานนท์ ผอ.สุวรรณภูมิ ซึ่งมีหลักฐานการประชุมกล่าวตำหนินายเสรีรัตน์ ที่สั่งปิดสนามบินสุวรรณภูมิ โดยไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง และสนามบินสุวรรณภูมิ ถูกสั่งปิดก่อนที่พันธมิตรฯ จะเคลื่อนขบวนไปยึดเสียด้วยซ้ำ ฉะนั้นข้อหาการก่อการร้ายสากลเลื่อนลอย จึงเป็นข้อหาที่ไร้สาระ รวมทั้งข้อหาที่ว่าเราเป็นตัวการในการปิดสนามบินนั้น เรามีหลักฐานพิสูจน์ทั้งหมด แต่เขากลับเอาเรื่องนี้มาอ้างว่าตำรวจไม่ยอมดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ แล้วที่แกนนำพันธมิตรฯ เดินทางไปมอบตัวที่สโมสรตำรวจ นั้น ไม่ใช่เป็นการดำเนินการของตำรวจหรืออย่างไร” นายสนธิ ระบุ

ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ลาออกนั้น นายสนธิกล่าวว่า การเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ ลาออกถือว่าไม่เป็นไร เพราะถ้าไม่พอใจหากนายกฯ บริหารประเทศไม่ดี แต่การเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ลาออกนั้น เห็นได้ชัดว่าถือเป็นการตีวัวกระทบคราด โดยเฉพาะ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ออกมาชี้ชัดว่า นช.ทักษิณ มีเจตนาที่จะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ทำให้เขาไปแจ้งความโดยให้คนใกล้ชิดอย่างนางวิระยา ชวกุล ผู้มีปัญหาในเรื่องของการทำโครงการเสื้อสีฟ้าของสมเด็จพระนางเจ้าฯ และเป็นผู้ที่ไม่ได้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมานานแล้ว แต่ยังเอาไปแอบอ้างวิ่งเต้นติดต่อขอตำแหน่ง ทั้งหมดนี้ นช.ทักษิณ ทำเพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยการจาบจ้วงสถาบัน

นายสนธิยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงนำเอาโลงศพที่เขียนข้อความว่า “พระองค์ท่าน... เปรม พันธมิตรฯ” ไปเผาที่หน้าอนุสาวรีย์ย่าโม จ.นครราชสีมา ว่า เดี๋ยวนี้เขากล้าหาญถึงเพียงนี้ และกล้าหาญที่จะเผาโลงศพ แต่ที่เลวทราบบัดซบที่สุดคือ ผู้กำกับตำรวจ อ.เมืองโคราช ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ กลับยืนดูเขาเผาโลงศพอยู่เฉยๆ โดยไม่ได้เข้าไปทักท้วงการกระทำของคนเสื้อแดงแต่อย่างไร วันนี้สังคมต้องมาสู่จุดแตกหัก แต่เราต้องนั่งเฉยเพื่อรวบรวมกำลังเตรียมตัวเอาไว้ โดยยังไม่ต้องทำอะไรในตอนนี้ เพราะตำรวจ ทหาร มีหน้าที่จะต้องจัดการกับคนที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และจาบจ้วงสถาบัน โดยเฉพาะองคมนตรีที่เชื่อมเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ฉะนั้น เราจะรอจนกระทั่งเขาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และถ้าหากสถาบันพระมหากษัตริย์ ตกอยู่ในอันตราย ถึงเวลานั้น ตนเชื่อว่าเราจะออกมาเพื่อปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ร่วมกัน

“สังเกตแถลงการณ์ของกลุ่มเสื้อแดงที่เรียกร้อง คือให้องคมนตรี และนายกฯ ต้องลาออกในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขหรือไม่ว่า การที่เรียกร้องให้องคมนตรีลาออกนั้น ขึ้นอยู่ที่พระราชอัธยาศัยขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งถ้าเรียกร้องมาเช่นนั้น ถือว่ากลุ่มเสื้อแดงตบปากตัวเอง ซึ่งซ่อนเงื่อนที่จะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยอ้างว่าจะมีการปรับปรุงการครองของประเทศให้เป็นไปตามหลักสากล จนทำให้สถาบันกษัตริย์ กลายเป็นเพียงสัญลักษณ์ ที่สำคัญเขายังใช้ศัพท์คอมมิวนิสต์แท้ๆ เพราะที่ปรึกษาของ นช.ทักษิณนั้น เป็นนักทฤษฎีที่ต้องการล้มสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ แต่วันนี้ทุกคนยังรักสถาบันกษัตริย์ อยู่ ซึ่งคนพวกนั้นเคยอยู่ป่ามาก่อน” นายสนธิ กล่าว

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า จริงๆ แล้ว นช.ทักษิณ ตกเป็นเครื่องมือของซ้ายอกหักมานานแล้ว จนท้ายที่สุดถอนตัวไม่ขึ้นก็เลยต้องเดินหน้าเต็มสูบ แล้วพวกซ้ายอกหักก็เอาเงินของ นช.ทักษิณ ไปซื้อคนระดับสูงเพื่อใช้เป็นสายลับในการส่งข้อมูล และป้อนข้อมูลผิดๆ ให้แก่พระองค์ท่าน ซึ่งเป็นเรื่องที่น้าเสียดายอย่างสุดซึ้ง ถ้าการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ไม่มาสามารถสร้างการเมืองใหม่ขึ้นมาได้ ไม่เช่นนั้นวันนี้จะไม่มีเสื้อแดง และจะไม่มี นช.ทักษิณ จะมีเพียงแต่การเมืองที่โปร่งใส แต่คนที่ปฏิวัติ นอกจากจะไม่สร้างการเมืองใหม่แล้ว ยังเพ้อฝันที่จะทำมาหากินกับเงิน 73,000 ล้านบาท ของ นช.ทักษิณ ซึ่งเขาใช้เงินเป็นเหยื่อล่อ จนคนปฏิวัติหลงลืมว่าต้องล้างระบอบชั่วๆ

“คนเสื้อแดงที่มาชุมนุมนั้น ส่วนใหญ่มาจากชุมชนสลัม ทั้งจาก กทม. จ.ปทุมธานี และ จ.อยุธยา โดยคนเหล่านี้ไม่เคยสนใจอะไรเลยนอกจากเหล้า และเบียร์ ซึ่งมีท่าทางที่เหมือนโจร และต้องการที่จะมีเรื่องตลอดเวลา เพราะยุทธวิธีของซ้ายจัดต้องการให้มีเลือด ที่สำคัญคือนายจตุพร พรหมพันธุ์ นั้นเป็นแค่ตลกบนเวที ไม่ได้เป็นคนคุมเกมอีกแล้ว โดยคนที่อยู่เบื้องหลังต้องการให้มีการยิงกันเกิดขึ้น แล้วเขาก็จะเกณฑ์คนเสื้อแดงเดินขบวนไปล้อมวังเพื่อถวายฎีกา โดยจะกล่าวหาว่า พล.อ.เปรม ยิงประชาชน และต้องการกดดันให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ออกมาประนีประนอม ปรองดอง หรือไม่ก็ให้จัดการกับ พล.อ.เปรม และนี้คือยุทธวิธีที่เขาวางเอาไว้” นายสนธิ กล่าว

นายสนธิยังกล่าวถึงนายจตุพรอีกว่า มารดาบอกว่าคิดถึงนายจตุพรอยู่ตลอดเวลา เพราะนายจตุพรไปกระทำการจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ รวมทั้งพี่น้องสายมารดาต่างกลุ้มอกกลุ้มใจกับการกระทำของนายจตุพร เพราะประชาชนกว่า 300 คน เดินทางไปประท้วงที่บ้านมารดา ว่าเลี้ยงลูกแบบไหนถึงเป็นอย่างนี้ นี่คือบทเรียนของคนที่ทำอะไรแล้วไม่คิดถึงญาติพี่น้อง






กำลังโหลดความคิดเห็น