“มาร์ค” ปัดเงื่อนไขแดงถ่อย - สับสนจะให้ยุบสภาหรือลาออก

“มาร์ค” ปัดเงื่อนไข “เสื้อแดง” ชี้เป็นข้อเรียกร้องที่สับสน จะให้ยุบสภาหรือลาออก ระบุหากต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริงให้มาร่วมกันปฏิรูปการเมือง ท้าบอกชื่อนัก ปชต.ที่จะเอามาแทนคือใคร มั่นใจคุมสถานการณ์ได้โดยไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ดักคอ นปช.ยกระดับการชุมนุมใช้ความรุนแรง ไม่ใช่ประชาธิปไตย ย้ำประชุมอาเซียนพัทยาเดินหน้า

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์

เวลา 18.30 น.วันที่ 8 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เดินลงจากห้องประชุมชั้น 2 ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับแกนนำพรรคที่ร่วมประชุมในวอร์รูมประเมินสถานการณ์ เพื่อเดินทางกลับบ้านพักภายในซอยสุขุมวิท 31 พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงว่า ยังไม่มีอะไร ทำงานปกติ

เมื่อถามถึงแถลงการณ์กลุ่มเสื้อแดงที่ระบุให้นายกฯ ลาออกแล้วให้นักประชาธิปไตยเข้ามาเพื่อปฏิรูปการเมือง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็เป็นการยืนยันสิ่งที่ตนพูดก่อนหน้านี้ถึงความสับสน เพราะเดิมก็บอกให้ยุบสภา ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นเรื่องให้ลาออก และไม่มีความชัดเจนว่ากระบวนการปฏิรูปจะเดินอย่างไร ฉะนั้นเรื่องการปฏิรูป ถ้าเป็นหัวใจหลักในข้อเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย รัฐบาลและกระบวนการรัฐสภามีทางทำอยู่แล้ว ก็เข้ามาทำเท่านั้นเอง จึงมองไม่เห็นว่าตกลงจะเอาอย่างไรกันแน่

เมื่อถามว่า ข้อเรียกร้องที่เป็นไปไม่ได้จะนำไปสู่เงื่อนไขที่รุนแรงมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงไม่ เพียงแต่ทำความเข้าใจกับประชาชนว่า เป็นข้อเรียกร้องที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะนำไปสู่เป้าหมายที่อ้างอยู่ในเรื่องประชาธิปไตยได้อย่างไร ตนก็ยืนยันว่าถ้าสนใจที่จะพัฒนาประชาธิปไตย ก็มาทำด้วยกัน เพราะตนไม่ได้ปิดกั้นอยู่แล้ว

ส่วนกรณีรอง ผบช.น.ระบุมีมือที่ 3 จะเข้ามาสร้างสถานการณ์โดยการใช้ระเบิดเพลิงนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราก็พยายามติดตามเบาะแสข่าวสารทั้งหมด เพื่อความไม่ประมาท และเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ไว้เท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า หากเกิดเหตุรุนแรงขึ้น นายกฯ พร้อมประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินมันยังไม่มีเงื่อนไข จะออกก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ ซึ่งเบื้องต้นที่เคยซักซ้อมกันยังมั่นใจว่าสามารถแก้ไขสถานการณ์ต่างๆได้ ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ แต่เราไม่ประมาท จะมีการจับตาติดตามตลอดเวลา และต้องเตรียมพร้อม

เมื่อถามว่า กลุ่มเสื้อแดงขีดเส้นตาย 24 ชั่วโมงให้นายกฯ ตัดสินใจตามข้อเรียกร้องในแถลงการณ์ นายกฯ ย้อนถามว่า “ใครตอบ แล้ว 24 ชั่วโมงเขาตอบผมได้หรือไม่ว่า นักประชาธิปไตยของเขาคือใคร”

เมื่อถามถึงกระแสข่าวคนในตระกูลชินวัตร เดินทางออกนอกประเทศ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เข้าใจว่าคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และลูกๆ ออกไปแล้ว รวมทั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ด้วย ส่วนจะเป็นส่งสัญญาณอะไรนั้นไม่ทราบ ต้องถามคนที่ตัดสินใจ

เมื่อถามว่า การที่ครอบครัวชินวัตรเดินทางออกนอกประเทศดังกล่าวมีอะไรที่ผิดปกติหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ตนเคยตั้งข้อสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ทำไมต้องทำอย่างนั้น

ถามว่าผู้นำประเทศต่างๆ ที่จะเดินทางมาร่วมประชุมอาเซียนที่จะถึงนี้ได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์อย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ตอนนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความั่นคง กำลังซักซ้อมเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและมั่นใจมากยิ่งขึ้น ได้หารือกันช่วงบ่ายวันเดียวกันว่า ให้ไปดูให้เป็นที่รัดกุม และมั่นใจ ส่วนจำเป็นต้องใช้กำลังทหารช่วยตำรวจในการดูแลความปลอดภัยการประชุมหรือไม่นั้น ก็ตามปกติ เพราะในการประชุมที่หัวหินที่ผ่านมา ก็มีการดำเนินการตามปกติ เป็นเรื่องปกติมาก เพราะมาตรฐานรักษาความปลอดภัยผู้นำในการประชุมระดับนี้ กับที่ดูแลตนอย่างกรณีที่เกิดขึ้นวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา มันคนละเรื่องกันอยู่แล้ว เพราะการปฏิบัติหน้าที่ภายในของตน ตนก็ไปแบบง่ายๆ แต่เวลามีการประชุม มาตรฐานจะคนละเรื่องกัน ยืนยันว่าจะไม่มีลักษณะที่เกิดขึ้นกับตนกับผู้นำประเทศอื่นเด็ดขาด และจะมีไม่ได้ ยืนยันว่าไม่มีผู้นำประเทศไหนเป็นห่วง และได้พูดคุยกันแล้ว

เมื่อถามถึงกระแสข่าว สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกฯ กัมพูชาอาจไม่เดินทางมาร่วมประชุม นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าวเลย เรื่องการเดินทางมาร่วมประชุมของผู้นำประเทศต่างๆ นั้น นายสุเทพ และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ประสานอยู่ และยังไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนกระแสข่าวจีนมีความกังวลนั้น คงไม่ เพราะตอนนี้ได้มีการประสานกันแล้ว และไม่คิดว่ากลุ่มเสื้อแดงจะเคลื่อนไปพัทยา เพราะในที่สุดก็ต้องพูดถึงประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้าข้อเรียกร้องเป็นเรื่องประชาธิปไตย เป็นผลประโยชน์ชาติ ก็มาคุยกัน แต่สิ่งที่เป็นข้อเรียกร้องอื่นที่พ่วงเข้ามาทั้งหลาย ตนยังไม่เข้าใจว่าต้องการจะทำอะไร เพื่อใคร ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณประกาศจะโฟนอินมายังการชุมนุมต่อเนื่องนั้น คงไม่มีอะไรใหม่ ส่วนจะสามารถปลุกเร้าให้รุนแรงขึ้นหรือไม่นั้น คิดว่านับวันคนก็เห็นชัดเจนขึ้น ว่าอะไรเป็นอะไร

เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรไปยังประชาชนที่ติดตามข่าวสารอยู่ที่บ้านด้วยความกังวลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ให้มีความสบายใจระดับหนึ่งว่า รัฐบาลได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ทุกหน่อยงานมีความพร้อมที่จะดูแลสถานการณ์ และขอความร่วมมือช่วยเป็นหูเป็นตา แจ้งเจ้าหน้าที่ในเรื่องต่างๆ

เมื่อถามว่า ท่ามกลางสถานการณ์ขณะนี้แนวทางในการพูดคุยสมานฉันท์เพื่อขอร้อง กับกลุ่มเสื้อแดงยังจะทำได้อยู่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “กับผู้ชุมนุม ยืนยันว่าเราปฏิบัติในลักษณะให้สิทธิเสรีภาพตามสมควรอย่างชัดเจน และไม่มีความคิดจะใช้ความรุนแรงกับกลุ่มชุมนุมเลย นี่แหละคือวิถีทางของประชาธิปไตย ที่คนที่มีอำนาจพึงปฏิบัติกับคนที่มีข้อรียกร้อง ฉะนั้นอย่าทำอะไรที่เกินเลย เพราะมีการบันทึกภาพและเสียงไว้ทั้งหมด อะไรที่ผิดกฎหมายก็จะดำเนินการ”

เมื่อถามว่า กลุ่มเสื้อแดงยื่นคำขาดว่าหากนายกฯ และประธานองคมนตรีไม่ลาออกจะยกระดับการชุมนุมให้รุนแรงขึ้น นายกฯ กล่าวว่า เราไม่ทราบว่าหมายถึงอะไร แต่คนที่เรียกร้องประชาธิปไตยก็ต้องยึดถือเรื่องการเคารพสิทธิเสรีภาพและกฎหมาย ไม่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องของประชาธิปไตย