xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ซัด “แม้ว” จ้องล้มสถาบัน-ทำชาติฉิบหาย! เชื่อพบจุดจบไม่เกิน 30 วัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” อัดยับ “นช.แม้ว” เป็นตัวการทำประเทศชาติฉิบหาย เหตุปลุกระดม “แดงถ่อย” ลุกฮือทำสงครามประชาชน แฉซ้ำอดีตนายกฯ ทุ่มเงินหลอกชาวบ้านให้เข้าร่วมชุมนุมเพื่อทวงคืนอำนาจให้กับตัวเอง ก่อนยกกรณี “เนวิน” กลับตัว ตบหน้า “เทพเทือก” เหตุบ้อท่า-ไร้ปัญญาปกป้อง “ชวน-อภิสิทธิ์”


 
 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “Good Morning Thailand”  

รายการ “Good Morning Thailand” ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 06.00-07.00 น.วันจันทร์ถึงศุกร์ สำหรับวันที่ 8 เมษายน 2552 นี้ ได้นำข่าวคราวต่างๆ มาวิเคราะห์ และนำเสนออย่างหลากหลายเช่นเคย โดยนายสนธิ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงจำนวนมากชุมนุมใหญ่เพื่อโค่นล้มรัฐบาลว่า วันนี้เป็นวันเริ่มต้นของการจบ ส่วนที่ระบุว่าใกล้จะต้องจบแน่นอนนั้น เพราะคงจะปล่อยให้คนมาเกเรชาติบ้านเมืองอย่างนี้ต่อไปอีกไม่ได้ แต่ถ้าระดมคนไปชุมนุมประท้วงด้วยเหตุด้วยผล เรียกร้องหลักการ หรือสู้เพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จริงๆ หรือเรียกร้องไม่ให้มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ก็ย่อมศักดิ์สิทธิ์ แต่นี่กำลังเอาคนไปตายเพื่อเรียกร้องให้กับนักโทษชาย (นช.) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“ที่สำคัญ แม้กระทั่งคำว่าประชาธิปไตย คนเสื้อแดง และ นช.ทักษิณ ก็ไม่เข้าใจ ถึงกับหลุดปากออกมาว่าขอให้พ่อแม่พี่น้องเอาประชาธิปไตยมาคืนผม จะเห็นได้ว่าคนคนเดียวสามารถที่จะทำให้ประเทศชาติฉิบหายได้ เมื่อเปรียบกลุ่มเสื้อแดงกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะเห็นว่าพันธมิตรฯ เคยหรือไม่ที่จะเอาก้อนหินไปทุบรถยนต์ที่หน้าสภาหรือไม่ หรือไปกระชากคนขับรถของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ซึ่งไปประชุมที่พัทยา” นายสนธิ ระบุ

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า การชุมนุมของเสื้อแดงทุกๆ ครั้ง เขาจะบอกว่าไม่มีการจ่ายเงิน เพราะผู้ชุมนุมมาด้วยใจ แต่ ว่าที่ร้อยตรีพงพันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย พูดก่อนการประชุมพรรคว่า “ที่ จ.หนองคาย มีประชาชนทยอยเดินทางเข้า กทม.โดยรถบัสขนาดใหญ่จำนวน 10 คัน และรถกระบะอีก 60 คัน แต่ถูกตำรวจสกัดเพื่อตรวจตราความปลอดภัย โดยไม่ได้สกัดกั้นแต่อย่างใด และใน 19 จังหวัดภาคอีสาน คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางเข้าร่วมชุมนุมจังหวัดละ 1,000 คน โดยยืนยันว่าการชุมนุมไม่ได้มีการจัดตั้ง หรือจ่ายเบี้ยเลี้ยงเหมือนครั้งที่ผ่านมา”

“ถ้าครั้งที่ผ่านมามีการให้เบี้ยเลี้ยง ครั้งนี้ก็คงจะจ่ายเงินเหมือนกัน โดยรถกระบะ 1 คัน เจ้าของรถได้ 1 หมื่นบาท ส่วนคนที่โดยสารมาจำนวน 6-7 คน จะได้รับเงินคนละ 2,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องอยู่ร่วมชุมนุมให้ครบ 3 วัน เพราะเขาต้องการให้มีเรื่องภายใน 3 วัน ฉะนั้น การปลุกระดมครั้งนี้เนื่องจากต้องการให้เกิดเรื่อง ฉะนั้นจึงไม่มีใครที่บ้าอำนาจ อยากจะกลับไปมีอำนาจ แล้วจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ซึ่งคนที่ไม่รู้เรื่องจะตายเป็นเบือ เพราะถูกหลอกให้เข้าร่วมชุมนุม” นายสนธิ กล่าว

นายสนธิกล่าวต่อว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการเคลื่อนขบวนของพันธมิตรฯ สิ่งที่เราเน้นที่สุด คือ ความปลอดภัย โดยเราจะพูดเสมอในหมู่แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนว่า ถ้าที่ใดมีอันตราย หรือมีเหตุที่จะต้องปะทะกัน เราก็จะไม่ไป ที่เราทำเช่นนั้นเพราะเราเคารพและรักในชีวิตของพ่อแม่พี่น้อง ซึ่งแตกต่างจากคนบางคนที่พร้อมจะใช้การตายของคนซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่ นึกว่าไปช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่แท้ที่จริงแล้วถูกหลอกให้เข้าร่วมชุมนุม

“เมื่อวานนี้ นช.ทักษิณ ออกวิดีโอลิงก์โดยระบุว่าวันนี้บุญเขาจะดีมาก เพราะประชาชนจะมากันครบทุกจังหวัด ซึ่งท้ายที่สุดตัวตนที่แท้จริงของ นช.ทักษิณ ก็หลุดออกมา ถามว่า นช.ทักษิณ เข้าใจอะไรผิดหรือไม่ เพราะจากวันนี้เป็นต้นไปอีกไม่เกิน 30 วัน จะเป็นจุดจบของ นช.ทักษิณ เนื่องจากทำร้ายทำลายประเทศชาติอย่างแสนสาหัส โดยเฉพาะ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี และนายเนวิน ชิดชอบ ก็พิสูจน์ชัดเจนว่า นช.ทักษิณ มีเจตนาและวางแผนที่จะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ซึ่งตรงกันข้ามกับที่ นช.ทักษิณ ระบุว่าจงรักภักดี ที่สำคัญคนเลวบางคนที่มีพฤติกรรมฉ้อฉล แต่ถึงที่สุดแล้วยังคงรักสถาบันกษัตริย์ ก็ยังพอให้อภัยได้ ไหนๆ นายเนวินจะกลับตัว ก็ขอให้สั่งพรรคพวกที่วางเอาไว้ให้ทำงานอย่างโปร่งใส และการแสดงความจริงใจในการรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว

นายสนธิกล่าวต่อว่า การที่ นช.ทักษิณ ระบุว่าตัวเองเป็นอาจารย์ใหญ่นั้น ในทางการแพทย์เขาถือว่าเป็นศพที่ให้นักศึกษาตรวจอวัยวะ ส่วนที่ นช.ทักษิณ ออกมาด่านายเนวินว่าเล่นละครน้ำเน่า แถมเอาผู้ร้ายมาเล่นเป็นพระเอก นอกจากนี้ นช.ทักษิณ ยังพาดพิงถึงพระเจ้าอยู่หัว โดยด่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษนั้นเลว โดยระบุว่าเมื่อ 2 วันก่อน เข้าใจว่าที่ พล.อ.เปรม ไปพูดเรื่องความดีและความเลวนั้น ความเป็นจริงก็คือ ระบอบการเมืองของเรานั้น ความดีคือ การสร้างความมั่งคั่งและความผาสุกให้กับประชาชน และให้สิทธิเสรีภาพเพื่อประชาชนจริงๆ ทั้งนี้เมื่อฟังเสียงของ นช.ทักษิณ แล้วจะพบว่า ทุกๆ ครั้งที่เขาพูด จะพูดความจริงเพียงเสี้ยวเดียว ที่เหลือเป็นความเท็จ เพราะเอาเงินเป็นตัวตั้งให้กับประเทศไทย

“สังคมทุกวันนี้ที่มันล่มสลาย เพราะคนแสวงหาความมั่งคั่งโดยไม่รู้จักผิด-ชอบ ชั่ว-ดี โดยพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย เป็นผู้สร้างตัวอย่างของความมั่งคั่งโดยไร้จริยธรรม โดยใช้เงินไปซื้อคนทั้งหมด ซื้อแม้กระทั่งข้าราชบริพาลที่ใกล้ชิดกับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ และซื้อแม้กระทั่งผู้ใหญ่บางคนในสำนักพระราชวัง ซึ่งให้ผลประโยชน์ตอบแทน หรือแม้กระทั่งประชาชนที่เดินทางมาฟังเรื่องโกหก ก็ยังถูกซื้อด้วยเงินจำนวน 2,000 บาท จาก นช.ทักษิณ ฉะนั้น ประเทศจะเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ เพราะความดีต้องเริ่มที่จริยธรรม ถึงจะมีคุณงามความดี” นายสนธิ ระบุ

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยล้วนแล้วแต่ต้องการให้ประชาชนมีความมั่งคั่งทั้งสิ้น แต่ นช.ทักษิณ กลับออกมาโม้ว่า หากกลับมาได้จะสร้างความมั่งคั่งให้กับพี่น้องประชาชน ฉะนั้นเราจึงเห็นได้ว่า สังคมหนึ่งเห็นแก่เงิน แต่มีคนอยู่เพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่มั่งคั่ง แล้วมียุคไหนบ้างที่มีการให้ประชาชนผ่อนบ้าน ผ่อนรถ จนสังคมเป็นหนี้ แล้ว นช.ทักษิณ ก็อ้างว่า นั่นคือความมั่งคั่ง แต่อีกสังคมหนึ่ง คือ สังคมพอมีพอกิน ไม่เดือดร้อน ลูกหลานเรียนหนังสือได้ และค้ารักษาพยาบาลไม่แพง ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ และมีการลงทุนด้วยเหตุด้วยผล ซึ่งไม่ใช่ไปทำมาหากินกับสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งต้นทุนไม่เกิน 1 แสนบ้านบาท แต่พอสร้างจริงกลับกลายเป็น 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งเกิดขึ้นในสมัย นช.ทักษิณ ทั้งสิ้น

“ฉะนั้น ถ้าเราอยู่อย่างพออยู่พอกิน รู้จักผิดชอบชั่วดี รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ รู้ว่าสถาบันกษัตริย์ เป็นของสังคมไทย รู้ว่า พล.อ.เปรม ในฐานะประธานองคมนตรี ซึ่งเป็นคนให้คำปรึกษากับสถาบันกษัตริย์ รู้ว่าพ่อแม่เป็นคนที่เราต้องเคารพ ฉะนั้นระหว่าง 2 สังคม นี้ พ่อแม่พี่น้องจะเลือกสังคมใด วันนี้ นช.ทักษิณ พาคนเสื้อแดงมา แล้วบอกว่า เสื้อแดงเอ้ย นี่คือสังคมที่ผมจะให้คุณ คือ สังคมแห่งความมั่งคั่งอย่างรวดเร็ว แต่ในสมัยก่อน นช.ทักษิณ เป็นคนพูดว่าจะแก้ปัญหาการจราจรภายใน 6 เดือนให้เรียบร้อย แล้วตัวเองเป็นนายกฯ 6-7 ปี แล้วแก้ปัญหารถติดได้หรือไม่ ที่สำคัญตอนเป็น นช.ทักษิณ เป็นนายกฯ แต่ชาวนา และเกษตรกร ไม่สามรถขายพืชผักได้ เพราะ นช.ทักษิณ เอาพืชผักผลไม้ของประเทศจีนเข้ามา สุดท้ายราคาพืชผักก็ตกต่ำเหมือนเดิม หรือกรณีที่วาดฝันขายอีลิทการ์ด ทำให้รัฐบาลขาดทุนนับหมื่นล้านบาท” แกนนำพันธมิตรฯ ระบุ

นายสนธิกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นช.ทักษิณ ซึ่งในอดีตยังเป็นรัฐบาลอยู่ แจกเงินจนถังแตก จนต้องออกหวยบนดินเพื่อดูดเงินจากคนจน และพวกคนเสื้อแดงเหล่านั้น จากนั้นขาย ปตท. และการไฟฟ้า เพื่อเอาไปกินกัน ฉะนั้นขอให้ นช.ทักษิณ อย่ากลับมาประเทศไทยเลย เพราะถือว่าเป็นบุญของประเทศ แต่ถ้าจะทำให้คนเขาซาบซึ้งในบุญคุณ ก็ขอให้ฆ่าตัวตาย แล้วจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้ 1 พรรษา เพราะประชาธิปไตยแบบเพี้ยนของ นช.ทักษิณ ก็คือหนีคุก แล้วมาอ้างว่าไม่เป็นประชาธิปไตย อีกทั้งยังอ้างว่าการปฏิวัติถือเป็นการเสื่อมเสีย ถามว่าน่าอายตรงไหน เพราะถ้าเป็นตนปฏิวัติ คงจะไม่ใส่เกียร์ว่างเหมือนพวกซื่อบื้อ ที่ใช้อำนาจไม่เป็น เพราะหวังแต่ส่วนแบ่งเงิน 76,000 ล้านบาท

“จากนี้ไปทุกเช้าเราจะต้องตื่นตอนตี 5 เพื่อล้างหน้าล้างตา มาทำวัตร สวดมนต์ เดินรอบบ้านไปกับพ่อไปกับแม่ ทานข้าวเช้ากันก่อนที่จะออกไปทำงาน เราจะปฏิวัติการใช้จ่าย โดยลูกต้องหยุดซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมา ให้เลือกเอารุ่นไหน แล้วใช้จนกว่าจะพังแล้วค่อยซื้อใหม่ นี่คือการปฏิวัติระดับครอบครัว ส่วนการปฏิวัติระดับบริษัท ก็คือการคาดโทษไม่ให้มาสายเกิน 3 ครั้ง และห้ามเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ฉะนั้นการปฏิวัติก็คือ การเปลี่ยนใหม่หมดทุกอย่าง เพื่อให้ทุกคนเริ่มต้นกันใหม่ เหมือนเมื่อชาติบ้านเมืองมันเละ เพราะมีการเข้าไปครอบครององค์กรอิสระ หรือครอบงำกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งสร้างเผด็จการรัฐสภา และยังบังคับให้ลูกกำนันเปาะ เอาลูกเข้าพรรค ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดี แต่ท้ายที่สุดกำนันเปาะ ก็โดนหลอก เพราะศาลพิพากษาดำเนินคดี ที่สำคัญหากชาติบ้านเมืองเมื่อจำเป็นต้องปฏิวัติ ก็ต้องปฏิวัติ ไม่เสียหายอะไร แต่หากปฏิวัติแล้ว จะทำอย่างไรให้ชาติบ้านเมืองดีกว่าก่อนปฏิวัติ” นายสนธิ กล่าว

ส่วนเหตุการณ์ทุบรถของนายอภิสิทธิ์นั้น นายสนธิกล่าวว่า นัยตรงนี้ คือ หลักนิติรัฐที่นายกฯ ต้องการให้มีนั้น จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ส่วนอีกหนึ่งนัยยะคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เพราะไม่สามารถที่จะจัดตำรวจให้รับใช้รัฐบาลได้ และการที่ตำรวจมีน้อยมากนั้น พิสูจน์ชัดเจนว่า ผลประโยชน์ อำนาจ และอิทธิพล ยังมีอยู่เหมือนเดิม ส่วนคนเสื้อแดงที่ไปชุมนุมทุบรถนายกฯ นั้น เป็นคนจาก จ.จันทบุรี แล้วทำไม่ตำรวจจันทบุรี ไม่บล็อกคนเสื้อแดงเอาไว้ก่อน แต่กลับกลัวว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แล้วทีตำรวจฆ่าประชาชนนั้น ไม่ใช่การละเมิดสิทธิ์ประชาชนหรืออย่างไร

“นายชวน หลีกภัย โดนขว้างไข่ นายอภิสิทธิ์ ขว้างของ อีกทั้งคนขับรถนายกฯ ยังโดนกระชากลงมา ถามว่าเป็นไปได้อย่างไร ทั้งหมดนี้นายสุเทพต้องรับผิดชอบ รวมทั้งกรณีที่ช่อง 11 เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้นั้น เพราะนายสุเทพ สั่งให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ทำอย่างค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ฉะนั้นการกระทำของนายสุเทพ จึงเป็นบทพิสูจน์ว่า แท้ที่จริงแล้วมันเป็นเช่นนั้น ไม่ทราบว่านายสุเพท กลับตัวทันแล้วหรือยัง กรณีที่จะพร้อมไปเจรจากับ นช.ทักษิณ แต่นายกฯ ของคุณระบุว่า นช.ทักษิณ ต้องติดคุกก่อน ไม่เหมือนกับนายเนวิน ซึ่งดีๆ ชั่วๆ แต่อย่างน้อยเขาก็กล้าแสดงจุดยืนที่ชัดเจน โดยการออกมาด่า นช.ทักษิณ นี่หรือคน จ.สุราษฎรธานี ที่พ่อแม่พี่น้องเลือกเข้ามา” นายสนธิ กล่าว





กำลังโหลดความคิดเห็น