xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ยันยึดมั่นในอุดมการณ์ นัด ผบ.เหล่าทัพถกสถานการณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
“อภิสิทธิ์” ลั่นอุดมการณ์พรรค 64 ปี ไม่ล้าสมัย ย้อนอดีต ปชป.ร่วมคลี่คลายวิกฤตประเทศมาตลอด ยืนยันยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ไม่แทรกแซงองค์อิสระอย่างเช่นรัฐบาลในอดีต ระบุ 3 เดือนเศษผ่านมาหน้าตาประเทศดีขึ้น เตรียมถกสถานการณ์บ้านเมืองผู้นำเหล่าทัพบ่ายนี้

วันนี้ (6 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ปราศรัยในวันครบรอบ 63 ปี ก้าวสู่ปีที่ 64 ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ขอบคุณเพื่อนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และประชาชนจำนวนมาก รวมถึงพรรคการเมืองอื่นที่มาร่วมแสดงความยินดีกับพรรคประชาธิปัตย์ ขณะนี้มีภาระหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินหลังจากที่สภาฯ ได้ลงมติเลือกให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นเมื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ได้เดินหน้าทำงานในหน้าที่อย่างดีที่สุด คนที่เคยคุ้นประวัติความเป็นมาของพรรคหลายเมื่อครั้งที่ประสบวิกฤต พรรคประชาธิปัตย์จะมีบทบาทในการคลี่คลายสถานการณ์ ครั้งนี้เช่นเดียวกัน ส.ส.ส่วนใหญ่ได้เชื่อใจให้พรรคเรามาบริหารประเทศ เพราะบ้านเมืองวิกฤตอย่างรุนแรง มีขัดแย้งในประเทศ ส่งผลกระทบในหลายๆ ด้าน ทั้งความเป็นอยู่และเศรษฐกิจก็วิกฤตหนักที่สุดในรอบ 70 ปี

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พวกเราประชาธิปัตย์ทราบสถานการณ์ดี ที่เข้ามารับผิดชอบเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก แต่สิ่งที่ทำให้มั่นใจในการทำงาน คือ อุดมการณ์ของพรรคที่มีมานาน ในการบริหารบ้านเมือง 3 เดือนเศษนี้เป็น 3 เดือนที่คนในพรรคทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจและเวลาทั้งหมดเพื่อพลิกฟื้นบ้านเมือง เวลา 3 เดือนอาจจะสั้นเกินไปในการคลี่คลายปัญหาทุกอย่าง แต่มั่นใจว่า 3 เดือนที่ผ่านมาสร้างความแตกต่างอย่างมาก เช่น หน้าตาประเทศดีขึ้น ตนได้ทำหน้าที่ในการพบปะประชาคมโลกและยืนยันว่าไทยจะฝ่าฟันวิกฤตคืนมาสู่ความมั่นคง ยึดการปกครองด้วยกฎหมาย 3 เดือนนี้มั่นใจว่าต่างประเทศได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเรา ในการประชุมสุดยอดอาเซียน เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และอาเซียนบวก 3+6 ที่จะจัดขึ้นถือเป็นโอกาสอันดีที่จะเรียกความเชื่อมั่นของประเทศ

“หลายคนวิตกกับการชุมนุม รัฐบาลมีความมั่นใจในแนวทางและอุดมการณ์ที่จะทำให้ผ่านไปได้ แม้จะมีการต่อว่ารัฐบาลว่าไม่เป็นประชาธิปไตย คนที่ว่าต้องไปทบทวนใหม่ เพราะเราให้ความสำคัญต่อระบบรัฐสภา ทั้งการตอบกระทู้ และการให้ตรวจสอบ อย่างไม่เคยมีปรากฏมาก่อนในช่วงเวลา 7-8 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่รัฐบาลยึดถือ คือ จิตสำนึกของผู้แทนราษฎรในการรับฟังปัญหาของประชาชน และให้ใช้สิทธิเสรีภาพอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมหากข้อเรียกร้องใดมีเหตุผล เราไม่เคยปฏิเสธ และในบางข้อก็ได้พยายามที่จะดำเนินการ เช่น การปฏิรูปการเมืองที่ต้องการให้ทุกคนมีส่วนร่วมและไม่ต้องการให้การแก้ไขเป็นเพียงเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดท่ามกลางความขัดแย้งจะมีเสียงเรียกร้องว่าทำไมรัฐบาลไม่ใช้อำนาจหน้าที่ขั้นเด็ดขาด ตนบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้สืบสานการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นั่นคือการเคารพกฎหมาย ที่ผ่านมาได้มีการละเมิดสิทธิแทรกแซงองค์กรอิสระ จนเป็นที่มาทำให้ประชาธิปไตยล้มลุกคลุกคลาน ฉะนั้นเราเป็นรัฐบาล เราจะใช้อำนาจในระบอบประชาธิปไตยที่พึงใช้ได้ เพื่อจะฝ่าฟันวิกฤตและเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย จะไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย แต่อะไรที่กระทบต่อความมั่นคงและสถาบันก็จะมีการดำเนินการ สำหรับแนวทางในการฝ่าฟันวิกฤต ขอให้มั่นใจนโยบายหรือแนวทางของพรรคแล้วเราจะพบทางออก

“อยากเรียนว่าจะเดินหน้ากอบกู้วิกฤตให้สำเร็จ แต่ต้องอาศัยการชี้แจงทำความเข้าใจ ซึ่งหวังว่าสมาชิกของพรรคจะช่วยกันทำหน้าที่นี้ต่อไป ผมและ ครม.ทำงานย่อมมีข้อบกพร่องผิดพลาด เสียงสะท้อนของประชาชนจะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก อย่าเกรงใจให้สะท้อนอย่างตรงไปตรงมา เพื่อจะสื่อสารกับประชาชนให้ตรงจุดตรงใจ เรายืนมาอยู่ตรงนี้เข้าสู่ปีที่ 64 ยืนมาได้ด้วยการยึดมั่นอุดมการณ์ของพรรคที่มีตั้งแต่ พ.ศ.2489 ซึ่งไม่เคยล้าสมัย เช่น เรื่องการส่งเสริมประชาธิปไตย ช่วยเหลือผู้ด้วยโอกาส กระจายรายได้ ปกป้องอธิปไตย และสถาบัน สิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนแปลง ผมมั่นใจว่าอุดมการณ์ไม่เคยล้าสมัย และจะเป็นสิ่งนำทางที่ดีที่สุด” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายนงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังกระทรวงกลาโหม เพื่อหารือถึงสถานการณ์บ้านเมืองร่วมกับผู้นำเหล่าทัพ
กำลังโหลดความคิดเห็น