ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาควง รมช.พาณิชย์ เปิดประชุมนานาชาติ “เศรษฐกิจสร้างสรรค์ภาคเหนือประเทศไทย:โอกาสและความท้าทายในสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ” ฉลองก้าวสู่ปีที่ 60 แห่งการก่อตั้งสถานกงสุลสหรัฐอเมริกา ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ชูภาคเหนือมีพื้นฐานพร้อมรองรับการเติบโตขยายตัวของธุรกิจ IT
วันนี้ (18 ก.พ.53) ที่โรงแรมแชงกรีล่า จังหวัดเชียงใหม่ นายเอริค จี.จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย พร้อมด้วยนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมพิธีเปิดการประชุมนานาชาติในหัวข้อ “เศรษฐกิจสร้างสรรค์ภาคเหนือประเทศไทย:โอกาสและความท้าทายในสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ” (Northern Thailand’s Creative Economy Conference:Opportunities and Challenges in IT Sector) ซึ่งกงสุลใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกา ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ในความร่วมมือของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ.53
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระก้าวสู่ปีที่ 60 แห่งการก่อตั้งสถานกงสุลสหรัฐอเมริกา ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐฯ และภาคเหนือของไทยแล้ว ยังหวังว่าจะช่วยดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรม IT จากกรุงเทพฯ และต่างประเทศมายังภูมิภาคด้วย อันจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้เศรษฐกิจของภูมิภาค นอกเหนือจากรายได้หลักที่มาจากการท่องเที่ยวและภาคการเกษตร ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการประชุมประมาณ 200 คน จากภาคเอกชน ภาครัฐ และภาควิชาการ รวมทั้งผู้แทนจากบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศรายใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น Microsoft Oracle SAS Software และ IBM เป็นต้น
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ได้กล่าวชื่นชมความพยายามของประเทศไทยในการส่งเสริมการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมว่า ประเทศไทยกำลังพัฒนายุทธศาสตร์ที่สำคัญ
เช่น การสร้างระบบโทรคมนาคมที่ทันสมัย โดยเร่งผลักดัน 3G การปรับปรุงและยกระดับการคุ้มครองสินทรัพย์ทางปัญญา การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมผ่านระบบการศึกษาไทย และการส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติโดยมาตรการจูงใจต่างๆ การพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน และระเบียบข้อบังคับที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งกล่าวถึงภาคเหนือว่ามีลักษณะเฉพาะตัว โดยตั้งอยู่ในฐานการเติบโตของเทคโนโลยีสารสนเทศ เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีมหาวิทยาลัยจำนวนมาก ซึ่งเป็นฐานกำลังในการผลิตทุนทรัพยากรบุคคลที่เป็นตัวขับเคลื่อนนวัตกรรม
ด้านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ IT นั้น เป็นหนึ่งในเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่รัฐบาลกำลังสนับสนุนและผลักดันอย่างเต็มที่ให้เกิดการพัฒนาและขยายตัว ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มสัดส่วนต่อ GDP ของธุรกิจสร้างสรรค์ จากปัจจุบันที่มีประมาณ 10-12% ให้เป็น 20% ให้ได้ในปี 2555
ขณะเดียวกันจะพยายามผลักดันให้ประเทศไทย ก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้อีกด้วย ซึ่งเชื่อมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน