รมต.สำนักฯ ตอกย้ำผลงานชิ้นโบแดงเปลี่ยนโลโก้เอ็นบีทีใช้งบแค่ 1 แสนต่อการประกวด โต้เสื้อแดงอย่าปากพล่อยดึง “ป๋า” มาเกี่ยวข้อง เหน็บ “พัลลภ” แค่เบี้ยในกระดาน “นช.แม้ว” บ้อท่าตัดสัญญาณวิดีโอลิงก์หวั่นเรียกแขกให้เสื้อแดง
วันนี้ (6 เม.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีการใช้เงินภาษีของประชาชนกว่า 10 ล้านบาท เพื่อทำการเปลี่ยนโลโก้ และผังรายการว่า พรรคเพื่อไทยรู้ได้อย่างไรว่าใช้เงิน 10 ล้าน เพราะยังไม่ใช้สักบาทเดียว เพราะมีเงินรางวัล 1 แสนบาท ในการให้เป็นรางวัลกับผู้ชนะการประกวดออกแบบโลโก้ หากพรรคเพื่อไทยจะยื่นก็ควรที่จะยื่นเรื่องที่เขาออกมาเรียกร้อง ท่อน้ำเลี้ยงจากพรรคไปเลี้ยงกลุ่มผู้ชุมนุมมากกว่า ซึ่งตรงนี้ผิดกฏหมายพรรคการเมือง คือ ยุบพรรค ฉะนั้นจึงควรไปยื่นเรื่องนี้ของตัวเองเสียก่อน ตนคิดว่าคงมีใครให้ข้อมูลผิดพลาดกับโฆษกพรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยเอง เมื่อใครให้ข้อมูลอะไรมาก็เชื่อหมด แต่ถ้าจะเปรียบเทียบกับการเปลี่ยนแปลง ช่อง 9 อสมท เป็นโมเดิร์นไนน์ทีวี สมัยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่มีการใช้งบประมาณมากกว่ากันเยอะ
ส่วนกรณีการวิจารณ์ว่าเปลี่ยนโลโก้เป็นรูปหอยสังข์สีม่วง คล้ายกับอักษร ป. เป็นการเอาใจผู้ใหญ่นั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า เป็นความตั้งใจ กระทบไปยัง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีมากว่า ขอร้องว่าอย่าไปใส่ความท่านเลย เพราะท่านไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร และเป็นเรื่องการดำเนินการของกรมประชาสัมพันธ์
“ผมเป็นคนเซ็นตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแล การจัดแข่งขันประกวดโลโก้ ซึ่งคณะกรรมการจัดการกันเองหมด ผมรู้เอาตอนวันที่จะตัดสินว่ามีอยู่ 2 พันกว่าราย ถ้าถามความเห็นส่วนตัว ผมชอบอีกแบบหนึ่งมากกว่า โดยเฉพาะรูปลายกนกลายไทยที่เป็นเลขหนึ่ง แต่กรรมการตัดสินอย่างนี้ เราก็ต้องเคารพ การตัดสินของกรรมการ ซึ่งคนที่ออกแบบ อธิบายเลยว่าเป็นสังข์ของพระอินทร์ เป็นรูปแบบที่ดูทันสมัยขึ้น ไม่ใช่อักษร ป.ปลา เพื่อเอาใจผู้ใหญ่ ตามที่พรรคเพื่อไทยกล่าวอ้าง ถ้าไม่ใช้โลโก้นี้จะให้ใช้อักษร พ.หรือ ท.ตามที่พรรคเพื่อไทยชอบคงไม่ได้” นายสาทิตย์กล่าว
นายสาทิตย์ยังกล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในวันที่ 8 เม.ย.ว่า คงไม่ใช่การชุมนุมวันสุดท้ายที่จะสามารถเผด็จศึกรัฐบาลได้ เพราะเขาสู้ไปพลางและประเมินสถานการณ์ไปด้วย เพราะคนเกิดความสงสัยว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือล้มล้าง สถาบันหรือไม่ หรืออย่างกรณี พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี หลายคนก็สงสัยในจุดยืนของท่าน เพราะวันหนึ่ง ยืนอยู่อีกข้างก็พูดอย่างหนึ่ง แต่วันนี้กลับมาพูดอีกอย่าง ดังนั้น พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ถือ เป็นเบี้ยตัวหนึ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณใช้ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวเขาเอง ถ้าเป็นละครก็ต้องขึ้น อักษร น.ให้ใช้ดุลพินิจใจการฟัง
นอกจากนี้ การวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในระยะหลัง ตนมีข้อสังเกตว่าไม่ค่อยเชื่อว่า เป็นการใช้สัญญาณผ่านดาวเทียม เพราะไม่ค่อยมีเสียงดีเลย์เลย เหมือนกับการเปิดแผ่นซีดี มากกว่า อย่างไรก็ตาม มีเสียงเรียกร้องว่าทำไมไม่ตัดสัญญาณดีสเตชั่น ในทางกฎหมายคงไม่สามารถทำได้ และรัฐบาลก็ต้องคิดเหมือนกัน เพราะถ้ายิ่งไปปิดจะยิ่งไปเติมจำนานคน เหมือนกับกรณีที่มีการสั่งปิดเอเอสทีวีแล้วมีคนร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อเหลืองมากขึ้น ยอมรับว่ารัฐบาลอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง มีการแบ่งขั้วความคิดอย่างรุนแรง รัฐบาลก็ต้องพยายามลดเงื่อนไข ไม่ไปเพิ่มความขัดแย้ง อะไรที่รัฐบาลสมัยสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ทำเราก็จะไม่ทำ เช่น การใช้กำลังไปปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม