“องคมนตรี พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์” ตั้งข้อสงสัยทำไมไม่มีการจัดการเด็ดขาด กับ “ทักษิณ” อย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก แต่ไม่ยอมรับโทษ งง อ้างความมีสิทธิพิเศษในเรื่องใด ซ้ำยังจาบจ้วงเบื้องสูง และการนำเงินจำนวนมากไปฝากไว้ตามเกาะที่มีชื่อ เรื่องการฟอกเงิน แนะควรมีการติดตามเรื่องทั้งหมด เพื่อนำข้อเท็จจริงออกมาตีแผ่ให้ ปชช.รู้ ขณะเดียวกัน เผย คณะองคมนตรีประชุมทุกอังคาร ยันไม่มีความคิดเห็นแตกต่างกันตามที่มีนักวิชาการบางคนออกมากล่าว และไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ชี้ชัด“ทักษิณ” เคยจัดพิธีทำบุญประเทศภายในพระอุโบสถวัดพระแก้ว สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อีกทั้งยังเป็นการละเมิดพระราชอำนาจ จี้รบ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
วันนี้ (3 เม.ย.) พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี เปิดเผยภายหลังถูกเอ่ยชื่อถึงบนเวที นปช.ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยตั้งข้อสงสัยถึงเรื่องราวที่ผ่านมาว่า เหตุใดการที่อดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ถูกศาลพิพากษาจำคุกแล้ว แต่ไม่ยินยอมรับโทษนั้น อ้างความมีสิทธิพิเศษในเรื่องใด หรือการกล่าวถึงสถาบันเบื้องสูงด้วยถ้อยคำที่ไม่ถูกไม่ควร เหตุใดจึงไม่มีผู้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการนำเงินจำนวนมากไปฝากในเกาะที่มีชื่อเรื่องการฟอกเงิน ทำไมจึงไม่มีการติดตามเรื่องเหล่านี้เพื่อนำข้อเท็จจริงให้ปรากฏออกมาให้ประชาชนได้รับทราบ
พล.อ.พิจิตร กล่าวยืนยันว่า ในปัจจุบันนี้ คณะองคมนตรี ไม่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน ตามที่มีนักวิชาการบางคนออกมากล่าว ซึ่งตนเองและคณะประชุมร่วมกันทุกวันอังคาร โดยมี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธาน อย่างสม่ำเสมอ และยืนยันอีกด้วยว่า ไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของการเมือง ตามที่มีผู้กล่าวอ้าง
วันเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบทุนมูลนิธิพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษกให้กับนักเรียนร่มเกล้าเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ว่า ตนเป็นทหารอาชีพ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องปกป้อง ประเทศไทยอยู่รอดมาได้เพราะมหากษัตริย์ทรงปรีชาสามารถตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคม สถานการณ์การเมืองที่เป็นแบบนี้เพราะเราไม่ได้สร้างคนสร้างแต่วัตถุดังนั้นเราต้องสร้างคน
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นองคมนตรีเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองอย่างไร พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า เราต้องสร้างคนตั้งแต่เด็กอย่าเน้นวัตถุ ทุกวันนี้พระแก้วมรกตเยาวชนยังไม่รู้ อีกหน่อยจะเหมือนเขาพระวิหารใครเอาไปก็ไม่มีความห่วงแหน เพราะไม่ได้รับรู้ความสำคัญของพระแก้วมรกด
พล.อ.พิจิตร กล่าวด้วยว่า การกระทำและคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยจัดพิธีทำบุญประเทศภายในพระอุโบสถวัดพระแก้วมรกต ในขณะที่ยังเป็นนายกรัฐมนตรี นั้นเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ พร้อมทั้งยังเป็นการละเมิดพระราชอำนาจ รวมถึงการพูดปราศรัยที่เอ่ยถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นการกระทำที่มิบังควรอย่างยิ่ง ทั้งนี้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะเร่งดำเนินการกับเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวคงจะไม่มีอะไรที่จะฝากถึง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อยากจะฝากให้ประชาชนได้พิจารณาข้อมูลที่ได้รับมา
“ไม่อยากฝากเพราะผมเป็นองคมนตรี แต่สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ล่วงล้ำพระราชอำนาจอย่างไร การทำบุญในวัดพระแก้วทำได้หรือไม่ เราเป็นคนไทยเรากราบพระแก้วมรกตได้ แต่ทำบุญในวัดพระแก้วไม่ได้ ทำไม่ถูก และเมื่อพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว และโทรศัพท์มาพูดออกผ่านทีวีว่า ถ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โทรศัพท์มากระซิบข้างหูก็จะกลับมา ผมถามว่าพระองค์ท่านเป็นเพื่อนเล่นของเขาหรือ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การกระทำดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงใช่หรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า ใช่ สิ่งนี้ทำไมไม่มีใครเอาเรื่อง ถือเป็นการกระทำที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพแล้ว รับราชการเป็นถึงนายกรัฐมนตรีทำอย่างนี้ได้อย่างไร
ทั้งนี้ยังมีกรณีอื่น พวกคุณที่เป็นนักข่าว เคยได้ยินเกาะคีย์แมน ซึ่งนายราล์ฟ แอล. บอยซ์ จูเนียร์ (H.E. Mr. Ralph L. Boyce, Jr.) อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย มาพบกับตน และประโยคแรกที่ถาม นายกรัฐมนตรีของไทย (พ.ต.ท.ทักษิณ) ไปยุ่งอะไรกับเกาะเคย์แมน
ทั้งนี้ตนพอทราบมาบ้างจึงถามกลับไปว่าเกาะนี้เป็นเกาะอะไร นายราล์ฟ กล่าวว่า เป็นเกาะที่ฟอกเงินไม่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศนั้น และมีนายกรัฐมนตรีของชาติอื่นด้วย อย่างนายกรัฐมนตรีของอิตาลีเป็นเจ้าของบ่อนคาสิโน เมื่อเขาสืบรู้ก็ต้องลาออก ดังนั้นเมื่อนายราล์ฟ รู้ ทำไมคนอเมริกันส่วนใหญ่ทำไมคนไทยจะไม่รู้ ทั้งนี้สื่อต้องไปตรวจสอบดูว่าเกาะคีย์แมนเป็นอย่างไร เขาเอาเงินไปฝากไว้ทำไม ลองคิดดูทำงานมาแค่ 5-6 ปีมีเงินฝากถึง 1 แสนล้านได้อย่างไร
เมื่อถามว่า หน่วยงานของรัฐย่อหย่อนในการดำเนินการเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า ลองคิดเอาเอง เมื่อถามว่ารัฐบาลควรจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องนำมาแฉให้ประชาชนรับรู้ให้ได้ สืบมาว่ามันคืออะไร และหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือไม่ การบอกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโทรศัพท์มากระซิบข้างหู
ต่อข้อถามที่ว่า การต่อสู้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการจ้องล้มสถาบันกษัตริย์หรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า แน่นอน ทั้งนี้ทำไมคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบไม่ไปดำเนินการ ซึ่งการทำงานรัฐบาลในการดำเนินการเรื่องนี้ช้าไป การพูดว่ามากระซิบข้าง ๆ หูเป็นเพื่อนเล่นเขาหรือ พูดแบบนี้ได้อย่างไร
เมื่อถามว่า ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์มีความเป็นห่วงกับสถานการณ์บ้านเมืองอย่างไร พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า ก็แป็นเรื่องที่เราต้องสร้างคน ต้องสร้างให้คนรักหวง และห่วงแผ่นดิน
“ปัญญาชนต้องคิดตรอง และไปเชื่อเขาได้อย่างไร ผมเป็นทหารชั่วชีวิตใช้ไปรบที่ไหนก็ไป แต่เคยไปร่วมงานศพอยู่หน้าเชิงตะกอน และก็ยืนปลง คนเรามีแค่นี้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ร่างเอาไปไม่ได้ สตางค์สักบาทก็ยังเอาไปไม่ได้เลย กระดูกก็เอาไปไม่ได้ แล้วจะโลภโมโทสันกันไปทำไม ทั้งนี้ยอมรับว่าองคมนตรีได้มีการพูดคุยถึงสถานการณ์บ้านเมืองทุกอาทิตย์" พล.อ.พิจิตร กล่าว
เมื่อถามว่า ปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในเวลานี้เป็นเพราะตัวอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวใช่หรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า ไม่อยากพูด แต่สื่อลองไปคิดดูเอาเอง เมื่อถามว่า เสียงขององคมนตรีที่มี 18 เสียงจะสามารถสู้เสียงของกลุ่มคนเสื้อแดงได้หรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า ต้องจี้ให้คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบทำ การกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือไม่
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการดูแลความปลอดภัย พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะไปปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ ว่า เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ แต่ พล.อ.เปรม เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองจะต้องดูแลกัน เพราะท่านเป็นรัฐบุรุษที่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติมานาน ส่วนทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน หากตำรวจทำไม่ไหวก็ขอร้องมา
เมื่อถามว่า ขณะนี้ได้มีการประเมินสถานการณ์ว่าจะรุนแรงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง เพราะเราไม่ได้ไปรบกัน ถ้าไม่พอใจก็สามารถพูดจากัน เพราะทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้คิดอะไรรุนแรง เพียงแต่ดูแลรักษาสถานที่ราชการ อย่างไรก็ตาม ทหารไม่ได้เป็นศัตรูกับคนเสื้อแดง กองทัพจะเป็นศัตรูกับประชาชนได้อย่างไร เพราะทหารคือประชาชนที่มาสวมเครื่องแบบ
เมื่อถามว่า กลุ่มเสื้อแดงมีความคิดเมื่อกลุ่มเสื้อเหลืองทำอะไรทางกลุ่มเสื้อแดงก็สามารถทำได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องเลิกคิด เพราะขณะนั้นตนไม่ได้อยู่ด้วย แต่มาวันนี้ ตนมาอยู่ตรงนี้ก็จะบอกกับทหารว่า จะต้องอยู่ในสถานที่ตั้งและทำตามกฎหมาย ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งตนได้บอกกับ ผบ.เหล่าทัพไปแล้ว เมื่อถามว่า ทางกลุ่มเสื้อแดงยอมทำผิดกฎหมายโดยไม่สนใจความวุ่นวาย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้าทำผิดต้องดำเนินการตามกฎหมาย