“เพื่อแม้ว” เตรียมแผนป่วนหลังสงกรานต์ ขึ้นคัตเอาต์ผลงานพร้อมกันทุกจังหวัด เตรียมการเลือกตั้ง ยุส่ง ส.ส.ขึ้นเวทีม็อบเสื้อแดง พร้อมแจกสมุดปกขาวใส่ไฟ ปชป. ปลุกผีซาก ทรท.-พปช.ร่วมเดินเกมนอกสภา เล่นมุก “ล้มอำมาตยาธิปไตย” ถือฤกษ์ขึ้นเวทีพร้อมกัน 37 คน ศุกร์นี้ เผย “ชายกระโปรง” ถกวางกลยุทธ์บนตึกชินฯ 3 บอกหมดเวลานั่งๆ นอนๆ แล้ว รีบทวง รธน.40 คืน
แหล่งข่าวจากที่ประชุมพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในที่ประชุมพรรคเมื่อวันที่ 31 มี.ค. ในช่วงพิจารณาระเบียบวาระอื่นๆ ได้มีการหยิบยกกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื่อแดงขึ้นมาหารือ โดยที่ประชุมได้สรุปเอาว่าขณะนี้คนเสื้อแดงทั่วประเทศรู้ทันกระแสใน กทม.เร็วกว่า ส.ส. ดังนั้น เชื่อว่าทหารหรือรัฐบาล หากสั่งทำเกินกว่าเหตุเชื่อว่าม็อบเสื้อแดงจากทั่วประเทศจะลุกฮือขึ้นมาชุมนุมใน กทม.แน่นอน
ที่ประชุมยังมีมติเปิดโอกาสให้ ส.ส.ร่วมชุมนุมและขึ้นเวทีปราศรัยของคนเสื้อแดงได้ และยังมีการประเมินเอาว่าการชุมนุมครั้งนี้จะทำให้รัฐบาลตัดสินใจยุบสภาแน่นอน เพราะถ้าไม่ยุบจะทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ยกเว้นว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยังตะแบงอยู่ในอำนาจต่อไปโดยไม่ได้คำนึงถึงความเสียหาย
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังแจ้งต่อ ส.ส.ว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีการขึ้นคัตเอาต์พร้อมกันทุกจังหวัด เพื่อโปรโมตผลงานของพรรคในอดีต เป็นการโหมโรงเพื่อเข้าสู่บรรยากาศการเลือกตั้ง
มีรายงานอีกว่า ในการประชุม ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ ได้แจกสมุดปกขาวเล่มใหญ่ใช้ชื่อว่า “พรรคประชาธิปัตย์ ทำอะไรใครๆ ก็รู้” มีความหนา 96 หน้า จำนวน 3 เล่ม ให้ ส.ส.ของพรรค ซึ่งเป็นการรวบรวมเนื้อหาคำอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ประธาน ส.ส.พรรค ได้นำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ โดยเฉพาะรายละเอียด ข้อมูล หลักฐานต่างๆ ในส่วนของผู้บริหารระดับสูงของพรรคประชาธิปัตย์ ปกปิด การรับเงินสนับสนุนทางการเมืองจากบริษัท ทีพีไอฯ จำนวน 27 ครั้ง เป็นเงิน 261,436,000 ล้านบาท และเงินที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นเงิน 29 ล้านบาท นำไปใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ เพื่อให้ ส.ส.นำไปเผยแพร่ให้ประชาชนในพื้นที่
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐทนตรีที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศได้ประกาศผ่านวีดีโอลิงก์หน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 28 มี.ค.เชิญชวนอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน 37 คนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองจากคดียุบพรรค ให้ไปขึ้นเวทีรวมกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ทำเนียบรัฐบาลแล้วนั้น เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่อาคารชินวัตร 3 ชั้น 33 เวลา 10.00 น.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีและน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เรียกอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ร่วมประชุมกว่า 40 คน เช่น นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล นายอดิศร เพียงเกษ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายจำลอง ครุฑขุนทด น.ต.ศิธา ทิวารี นายสิทธิชัย กิตติธเนศวร นายสุพร อัตถาวงศ์ นายพันธ์เลิศ ใบหยก นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ นายนพดล ปัทมะ ได้เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาในการหารือกว่า 5 ชั่วโมง
แหล่งข่าวในที่ประชุมเปิดเผยว่า นายสมชายได้นั่งเป็นประธานการประชุม โดยได้กล่าวว่า ประชาชนได้ตื่นตัวอย่างมาก ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่แปลกที่ประชาชนมารวมตัวกัน โดยที่ไม่มี ส.ส.หรือแกนนำคนใดระดมประชาชนมาชุมนุมที่ทำเนียบ ดังนั้น แกนนำ 111 คนควรจะออกมาช่วยกันให้กำลังใจ เพื่อเรียกร้องเอารัฐธรรมนูญปี 40 กลับมา แต่ตนไม่ได้บังคับ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ทุกคนควรจะออกมา เพราะประชาชนออกมาสู้แล้ว เพราะฉะนั้น 111 คนก็ควรออกมาช่วยด้วย จะมานั่งนอนหลับอยู่ไม่ได้ และการออกมาก็เป็นการสอดคล้องกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อยากให้ 111 ออกมาร่วมในครั้งนี้ เพื่อเป็นกำลังเสริมให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง ถ้ามีข้อมูลก็ให้ส่งกับแกนนำ นปช.หรือถ้าจะขอขึ้นเวทีปราศรัยเองก็ได้ ทั้งนี้ก็จะมีการผลัดเปลี่ยนขึ้นเวที
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในที่ประชุมยังได้มีการวิเคราะห์ร่วมกันว่า การเรียกร้องครั้งนี้ สิ่งที่ต้องการคือ ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้เอารัฐธรรมนูญปี 40 กลับคืนมา แล้วหลังจากนั้นคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยการยุบสภา ถึงแม้จะคิดว่ารัฐบาลคงไม่ยุบสภาโดยง่าย แต่ประชาชนก็มีสิทธิเรียกร้อง ดังนั้นจึงคิดว่า การเรียกร้องของประชาชนจะชนะ และเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ และที่ประชุมก็ได้เห็นสอดคล้องกันว่า หากรัฐธรรมนูญปี 40 กลับเข้ามา ระบอบอำมาตยาธิปไตยก็จะหายไป บนเวทีเวลานี้ด่าพล.อ.เปรมอย่างเดียว จากนี้คงต้องมีการพูดว่า มีวิธีทำอย่างไรให้ระบอบอำมาตยาธิปไตยหายไปได้
“การออกมาของประชาชนคนเสื้อแดงที่ออกมาพร้อมกัน 42 จังหวัด ทำให้ได้เรียนรู้ และการที่นายปีย์ มาลากุล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และสิ่งที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล พูดเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดทำให้เห็นว่าองคมนตรีปกป้องตัวเอง ไม่ได้ปกป้องสถาบัน ดังนั้น ควรที่ร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงเดินหน้าต่อ จัดกิจกรรมในการชุมนุมในช่วงวันหยุดจักรี วันหยุดสงกรานต์ ดังนั้น 111 ควรออกมาให้มากที่สุด ต้องทำให้เห็นว่า เวทีนี้เป็นของเรา คือไม่เอาระบอบอำมาตยาธิปไตย และไม่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เราเชิดชูพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ที่หวังความเป็นกลาง และได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์จะกลัวอะไรกับการยุบสภา ถ้าประชาชนไม่เอากับคนเสื้อแดง ไม่ใช่เป็นประชาธิปไตยแบบคนอมโรคแบบนี้” นายสมชายกล่าว
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 3 เม.ย.มีการนัดกันแล้ว อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน 37 คน จะขึ้นเวทีพร้อมกันในเวลา 19.00 น.ซึ่งการปรากฏตัวครั้งนี้อาจจะมีบางคนเปิดบางประเด็น ที่เป็นประเด็นใหม่ออกมา ก็จะมีการหารือกันอีกครั้งหนึ่ง และหลังจากนี้จะมีการหารือกันทุกสัปดาห์