xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” โผล่จอหน้าทำเนียบอีก ปั่นหัวรากหญ้าลุกฮือบีบ “มาร์ค” ทั่วประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“นช.แม้ว” เดินหน้าป่วนชาติ โผล่จอหน้าทำเนียบปั่นหัวสาวกต่อเป็นวันที่ 2 อ้างคำหรู ประชาธิปไตยเท่านั้นจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ แนะใช้เงินทุนสำรองมาลงทุนสร้างงาน ไม่ต้องกู้ต่างประเทศ แต่อ้าง “มาร์ค” ทำไม่ได้ ต้องให้รัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งทำ ปลุกรากหญ้าที่เคยได้ประโยชน์จากประชานิยม ออกมาร่วมคนเสื้อแดง บีบแก้ รธน.-ยุบสภา

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พ.ต.ทักษิณ ชินวัตร ปราศรัย

เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.วันที่ 28 มี.ค. พ.ต.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีอาญาอยู่ต่างประเทศ ได้กล่าวปราศรัยผ่านระบบวิดีโอลิงค์มายังที่ชุมนุมของคนเสื้อแดงหน้าทำเนียบรัฐบาลติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยได้กล่าวโจมตีการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าต้องเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย 100% เท่านั้น จึงจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ เหมือนตอนที่ตนเป็นนายกฯ ที่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล ซึ่งเป็นประชาธิปไตย ทำให้ตนสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศหลังเกิดวิกฤติได้ โดยไม่ต้องกู้เงิน และสามารถคืนเงินไอเอ็มเอฟก่อนกำหนด 2 ปี

ขณะที่รัฐบาลชุดนี้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจด้วยการกู้เงิน และกำลังจะมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อขยายเพดาเงินกู้ให้สามารถกู้ได้เกิน 60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และจะแก้ไขกฎหมายให้รัฐบาลสามารถจัดงบประมาณขาดดุลได้เกินหว่าร้อยละ 4.5 ซึ่งจะทำให้ประเทศมีหนี้เกินตัวจนไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ เพราะการส่งออกมียอดลดลงลงถึงร้อยละ 15 เท่ากับเงินหายไป 5 แสนล้าน ขณะที่การเก็บภาษีก็ทำไม่ได้ตามเป้า

พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่า การแก้ปัญหาที่ถูกต้องนั้นจะต้องรู้จักดูตัวเลข และมองปัญหาซึ่งหากรายได้มีน้อยลงจะต้องลดงบประมาณที่ไม่จำเป็น แล้วเอางบประมาณที่มีอยู่ไปสร้างงานสร้างรายได้ ไม่ใช่เอาไปแจก อย่างที่ทำอยู่ ซึ่งหวังว่าจะได้คะแนนนิยม แต่ไม่กี่วันคนก็ลืม เพราะไม่มีเงินมาแจกไปตลอด

พ.ต.ท.ทักษิณอ้างอีกว่า รัฐบาลสามารถหาเงินมาสร้างงานได้โดยไม่ต้องกู้เงินต่างประเทศ เพราะประเทศไทยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่หนี้เรามีแค่ 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลสามารถเอาเงินสำรองมาใช้ได้ เป็นการกู้เงินตัวเอง เอาเงินกระเป๋าซ้ายมาใส่กระเป๋าขวา เงินส่วนนี้สามารถเอามาทำเมกะโปรเจกต์ที่ตนเคยวางไว้สมัยเป็นนายกฯ แต่รัฐบาลนี้คงทำไม่ได้ และไม่ได้ทำ

“ก่อนที่จะทำ ต้องเอาประชาธิปไตยคืนมา ไม่ให้มาร์คทำ แต่ต้องเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยที่ประชาชนยอมรับ แน่จริงให้ยุบสภา ถ้าเก่งให้บอกเลยว่าจะทำให้ได้แล้วยุบสภา ให้ประชาชนเขาเลือกกลับไปใหม่ แต่คิดว่าคงทำไม่เป้น เพราะป่านนี้แล้วก็ยังมะงุมมะงาหราอยู่” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณพูดย้ำอีกครั้งว่า เงินที่จะเอามาใช้บริโภคเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นต้องเป็นเงินจากรายได้ ไม่ใช่เงินกู้ รัฐบาลต้องหยุดกู้เงิน ไม่เช่นนั้นจะทำให้เครดิตประเทศลด รัฐบาลต้องกู้เงินในอดีตราดอกเบี้ยสูงขึ้น เอกชนก็เช่นเดียวกัน แต่ถ้าจะกู้ต้องกู้ตัวเอง และอย่ากู้มากเพื่อกินเปอร์เซ็นต์ เพราะมีปัญหา ป.ป.ช.เป็น ปชป. ตั้งมาตั้งแต่ปี 2542 มีคนยื่นร้อง 2 หมื่นกว่าเรื่อง ส่งฟ้องแค่ 600 เรื่อง เพราะ ป.ป.ช.มัวแต่ไปเล่นการเมือง และไปทำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เรื่องใหญ่ๆ ไม่ทำ อย่างเรื่องยาพารา จนหมดอายุความไปแล้ว และกำลังจะมีเรื่องตำราเรียนอีก

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตลาดหลักของเราในสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น กำลังหดตัว ความสามารถในการบริโภคเหลืออยู่แค่ในเอเชีย และมีตลาดใหม่ในแอฟริกา รัฐบาลต้องปรับยุทธศาสตร์ นายกต้องมานั่งหัวโต๊ะร่วมกันคิดกับภาคเอกชน และอย่าทำอย่างเก่า เราต้องมาดูว่าจะผลิตอะไรที่เป็นจุดแข็งของเราและส่งเสริมไปที่ตรงนั้น เพื่อให้คนมีงานทำ โดยเฉพาะภาคเกษตร สินค้าอาหาร ซึ่งขณะรี้มีกำลังซื้อจากประเทศเกิดใหม่ในแอฟริกา

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้กล่าวถึงกองทุนความมั่นคงทางอาหาร (Food Security Fund) ที่นักธุรกิจในตะวันออกกลางตั้งขึ้นมาเพื่อนำเงินไปลงทุนผลิตอาหารในประเทศต่างๆ เพื่อส่งไปขายทั่วโลก ซึ่งกองทุนนี้เป็นอีกแหล่งที่จะชักชวนมาลงทุน คนเหล่าจะลงทุนสัก 2-3 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นเรื่องง่ายมาก เพราะตอนนี้กลุ่มอาบูดาบีถือหุ้นใหญ่ในเดมเลอร์-เบนซ์ ในบาเคลย์แบงก์แล้ว เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องติดถึงเรื่องเศรษฐกิจ อย่ามัวแต่ไล่ล่าตนคนเดียว

ในส่วนของการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่า ต้องพัฒนาภาคการเกษตร สินค้าโอท็อป เอิสเอ็มอี ต้องใส่ใจปัญหาธนาคารไม่ปล่อยกู้ ต้องพัฒนาโลจิสติกส์ ทำรถไฟเชื่อมกรุงเทพฯกับเมืองใหญ่ ต้องลงทุนเพื่อการศึกษา ระบบรักษาสุขภาพต้องกระจายศูนย์รักษาโรคเฉพาะทางให้ทุกภาค บ้านราคาถูกเพ่อคนจนต้องทำ แลนด์บริดจ์ในภาคใต้ ถ้ากลุ่มดูไบไม่ทำก็ต้องทำเอง

“ส่วนการท่องเที่ยวเจ๊งหมด ตั้งแต่มีการปิดสนามบินโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร้านอาหารในโรงแรมปิดกันเป็นแถว มี 4 ร้านเปิดได้แค่ 2 ร้าน เด็กในร้านก็ตกงานเป็นแถว อุตสาหกรรมท่องเที่ยวพัง เขาเคยคิดว่ามาเมืองไทยแล้วจะมีความสุข เพราะคนไทยยิ้มแย้มบริการดี แต่ตอนนี้เขากลัว ว่ามาแล้วจะกลับไม่ได้ เพราะหัวหน้าคนปิดสนามบินได้เป็นรัฐมนตรี” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

อดีตนายกฯ ที่อยู่ระหว่างหนีโทษจำคุก กล่าวต่อว่า เมื่อความไม่ไว้วางใจมีสูง ต้องคืนประชาธิปไตยกลับมา ถ้าไม่คืนก็ไม่รู้ว่าความน่าเชื่อถืออยู่ตรงไหน จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย นอกจากนั้น มีเรื่องที่ตนทำไว้ยังไม่เสร็จ คือการจัดสรรที่ดินให้ประชาชนทุกครัวเรือนมีเอกสารสิทธิในที่ดิน เพราะที่รกร้างมีอยู่เยอะ หวงไว้ทำไม เอามาใช้ในการผลิตจะมีประโยชน์กว่า เพราะฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่จะมีการปฏิรูปการเมือง ให้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และจะต้องปฏิรูปกฎหมายที่ทำให้ประเทศไทยล้าหลังทั้งหลาย นอกจากนั้นต้องปฏิรูปวัฒนธรรมทางการเมือง ถ้ายังมีเอสเอ็มอีทางการเมืองหรือเขียวไข่กาทางการเมืองอยู่อย่างนี้

พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่า ตนเดินทางมาทั่วโลก เห็นโอกาสมากมาย ไม่มีอะไรที่ดีกว่าการเป็นประชาธิปไตยและเคารพอำนาจของประชาชน และผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ กล้านำ กล้าทำ หาเงินเป็น ไม่ใช่กู้เงินเป็น โลกทั้งโลกเป็นตลาดของเรา ตนไปอาฟริกามีประเทศเกิดใหม่เยอะ เขายังล้าหลัง ตนเอาเศรษฐกิจพอเพียงและเศรษฐกิจทฤษฎีใหม่ไปเผยแพร่ พวกเขาพอใจมาก

“เขาขอทีมงานผมไปช่วยหน่อยเถอะ บางประเทศบอกว่ายูมาอยู่เลย รับรองจะไม่มีใครมาแตะ ให้มาอยู่ มาช่วยหน่อย”

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณไม่ระบุว่าเป็นประเทศใด โดยบอกเพียงว่าไม่รู้ว่ามีประเทศอะไรบ้างเพราะเดินทางทั้งวัน และตนกำลังเรียนรู้ความสำเร็จความล้มเหลว เพื่อหาช่องทาง หาโอกาส หาสตางค์ อยู่ที่ไหนในโลกนี้ก็ตาม เพื่อเอามาใช้ในประเทศไทย

“ผมห่วงประเทศไทย ผมห่วงพี่น้องของผม ใครจะรักผมหรือไม่รักก็ไม่เป็นไร แต่ผมถือว่าเราเป็นพี่น้องร่วมชาติกันแล้ว ถ้าผมไม่โดนปฏิวัติ จนถึงสิ้นปี 2552 ประเทศไทยจะไม่มีคนจนเหลืออยู่แล้ว”

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า ปัญหาเศรษฐกิจ การตกงานจะแก้ยาก ถ้าปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ แต่ถ้าคืนประชาธิปไตยกลับมา ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลตนก็พร้อมให้คำปรึกษา แต่ถ้าพี่น้องบอกให้ทักษิณกลับมาทำเองเลย ตนก็พร้อมที่จะทำ ขอเหนื่อยตอนอายุ 60 ปี เพื่อให้พี่น้องไม่ต้องมาเข้าแถวรอรับ 500 บาท

“พี่น้องที่เคยได้รับผลประโยชน์จากประชาธิปไตยที่กินได้ในยุคที่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล ประชาธิปไตยที่ประชาชนมอบอำนาจให้อย่างแท้จริง มันดีแค่ไหน คนที่เคยได้รับประโยชน์จาก 30 บาทรักษาทุกโรค ได้ลูกคืนมาจากการปราบปรามยาเสพติด ที่สามารถทำมาหากินจากการที่ผมปราบมาเฟีย เคยได้ทุนการศึกษาจากหวยบนดิน ได้รับประโยชน์จากธนาคารประชาชน จากกองทุนหมู่บ้าน โอทอป คนที่ได้ประโยชน์จากการพักหนี้เกษตรกร ขอให้ลุกขึ้นมาให้หมดทั้งประเทศไทย มาร่วมกับคนเสื้อแดงเพื่อเอาประชาธิปไตยคืนมา

ท่านไม่ต้องมากรุงเทพฯ แต่ขอให้ชุมนุมโดยสันติทั่วประเทศ เพื่อบอกว่าเราหวงแหนประชาธิปไตย ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยเท่านั้นที่ทำให้เรามีความสุข นักการเมืองที่เคยร่วมอุดมการณ์กับผมให้ออกมาร่วมกัน พี่น้องไม่ต้องห่วงผม แต่ผมห่วงพี่น้อง ขอให้พี่น้องเพียงแต่เอาข้าวหม้อแกงหม้อมาช่วยคนเสื้อแดงให้อยู่ได้นานๆ เราต้องการมีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่อยู่คู่ประชาธิปไตย ไม่ชอบให้ใครมาเกะกะกับการเมือง

ผมพร้อมที่จะเดินเข้าประเทศไทย เพื่อบอกว่าประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่เราต้องการ เราไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้เลย จะให้เราได้หรือไม่ ขอเรียกร้องคนไทยทั้งชาติ ประชาธิปไตยเป็นสิ่งสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ การต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อคนใดคนหนึ่ง แต่เพื่อประเทศไทยที่รักของเรา ขออย่าเห็นแก่ตัว ขอให้ทุกท่านเสียสละ ขอให้ออกมาต่อสู้ ขอให้นักต่อสู้ทุกคนประสบความสำเร็จ” พ.ต.ท.ทักษิณปลุกระดมทิ้งท้าย






กำลังโหลดความคิดเห็น