xs
xsm
sm
md
lg

“นช.ทักษิณ”เล่นเกมแรง ป่วนชาติแลกนิรโทษกรรม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง


การชุมนุมใหญ่ของ “คนเสื้อแดง”-แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ที่ปิดล้อมทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ศูนย์กลางอำนาจรัฐ บนการประกาศของแกนนำ นปช.ว่า

สงครามครั้งนี้ คนเสื้อแดงจะปักหลักชุมนุมขับไล่รัฐบาลด้วยการล้อมทำเนียบรัฐบาลให้นานที่สุด

แน่นอนว่า การชุมนุมเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ไฮไลท์สำคัญที่สุดที่หลายฝ่ายเฝ้าติดตามก็คือการที่ทักษิณ ชินวัตร จะเปิดเผยชื่อ

“ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ”

ว่าบุคคลผู้นี้คือใคร

รวมถึงข้อมูลลึกๆ ทางการเมืองหลายเรื่องที่หลายคนไม่เคยรู้ อันจะทำให้เห็นชัดกันเสียทีว่าสงครามการเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานครั้งนี้

“ทักษิณรบกับใคร”!

ทีมข่าวการเมือง ASTV ผู้จัดการรายวัน ขอบอกไว้ว่า เราไม่ได้ตื่นเต้นกับกลเกมที่ทักษิณ-นปช.-คนเสื้อแดงวางไว้ เพราะก็รู้อยู่แล้วว่า ยามนี้ทักษิณเข้าตาจน และหลังชนฝา ไม่มีอะไรจะสูญเสีย

ดังนั้นการจะเดินหน้าป้ายสี ใส่ความหรือท้ารบกับใครเพื่อหวังให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย ปลุกระดม สร้างความเกลียดชัง

สั่งให้กองกำลังในสังกัดเคลื่อนไหวทำลายชาติบ้านเมือง จึงจะต้องเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เพราะเมื่อดูจากคำประกาศ”แผนการรบ”ของแกนนำ นปช.หลายคนบนเวทีหน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 26 มีนาคม พบว่ามีการเอ่ยถึงศัตรูการเมืองที่ทักษิณและคนเสื้อแดงหวังโค่นล้มทำลายด้วยการสับปะยุทธ์ทั้งบนดินและใต้ดิน ออกเป็น 5 กลุ่มหลัก

1.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

การชุมนุมของคนเสื้อแดงมีการยกระดับการชุมนุม จากที่เคยเรียกร้องให้รัฐบาลรับเงื่อนไขต่างๆเช่นการปลด กษิต ภิรมย์ จากตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ แต่เมื่อไม่สามารถปลุกกระแสการเคลื่อนไหวให้คนหมู่มากเห็นด้วยได้ จึงหันมาเดินขบวนขับไล่อภิสิทธิ์ ภายใต้เหตุผลเดียวคือล้มอภิสิทธิ์ได้ พลพรรคทักษิณก็มีโอกาสจะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง

2.กองทัพ

เมื่อทักษิณ-เสื้อแดงให้ฉายารัฐบาลอภิสิทธิ์ว่าเป็นรัฐบาลราบ 11 คือตั้งรัฐบาลกันในกองพันทหารราบ 11 ย่านถนนวิภาวดีรังสิต มันจึงเป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าทักษิณ-นปช.ย่อมเห็นว่าทหาร คือกำลังสำคัญที่ช่วยค้ำเก้าอี้อภิสิทธิ์ให้มั่นคง

ดังนั้นหากจะล้มรัฐบาล ก็ต้องประกาศเป็นศัตรูกับกองทัพ และผู้นำเหล่าทัพอย่างซึ่งๆ หน้า

การโค่นผู้นำเหล่าทัพของเสื้อแดง เป็นเป้าหมายอันดับต้นๆของทักษิณ ที่หากคิดจะให้เป้าหมายสำเร็จ ก็ต้องจัดการกองทัพให้แหลกคามือ

3.องค์กรอิสระ

การล่มสลายของระบอบทักษิณ พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช
และรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ล้วนเกิดจากการใช้อำนาจขององค์กรอิสระทั้งสิ้น

และยามนี้คนเสื้อแดง มีแนวโน้มจะดาวกระจายไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.แน่นอนหากว่า ท้ายสุด กกต.ไม่ตอบรับในการสอบสวนคดีไซฟอนเงิน 258 ล้านของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเพื่อไทยและทักษิณหวังผลกับเรื่องนี้มาก แต่เมื่อไม่สามารถแทรกแซงกกต.เพื่อให้รีบรับสำนวนนี้ไปสรุปผลโดยเร็ว จึงทำให้คนเสื้อแดง มีเป้าหมายเพื่อกดดันองค์กรอิสระหลายแห่ง

โดยเป้าหมายเฉพาะหน้าก็คือ กกต.จากนั้นก็คือศาลรัฐธรรมนูญ บนเดิมพันสำคัญคือให้ยุบประชาธิปัตย์

4.สื่อมวลชน

โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน

ข้อนี้เราคงให้สังคมเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะบทบาทการทำหน้าที่สื่อของหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ แสดงให้สังคมประจักษ์ชัดแล้วว่า เราทำหน้าที่ตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา

ไม่ว่า จะเป็นรัฐบาลทักษิณหรือรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์และรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และยืนหยัดบนการรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม

เพียงแต่สิ่งที่ทักษิณ-คนเสื้อแดงหยิบยกมาอ้าง ก็เพราะไม่พอใจที่ถูกสื่อมวลชนส่วนหนึ่งอย่างเช่น “ASTVผู้จัดการ”ที่ทำหน้าที่รายงานข่าวอย่างตรงไปตรงมา

คนเสื้อแดงจึงนำสื่อมาเป็นศัตรูเพื่อหวังทำลายให้สิ้นซากด้วย ซึ่งบทเรียนที่ผ่านมาหลายครั้งก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ายามเมื่ออำนาจการเมืองที่ใช้อย่างไม่เป็นธรรม รังแกสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา บทสรุปสุดท้าย ความไม่ชอบธรรมก็ต้องพ่ายแพ้ทุกครั้งไป

5.โค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย

เจตนาหวังให้คนที่ขาดการรับรู้ข่าวสารรอบด้าน คิดว่าประเทศนี้มีระบอบอำมาตยาธิปไตยจริงๆ อย่างที่ทักษิณและแกนนำคนเสื้อแดงพยายามส่งสารให้ผู้คนเกิดความเข้าใจผิด จนไม่ยอมรับรัฐบาลอภิสิทธิ์เพราะคิดว่าเป็นหุ่นเชิดของระบอบอำมาตยาธิปไตย ทั้งที่ข้อเท็จจริงก็เห็นอยู่ว่าโครงสร้างประเทศไทยตามระบอบประชาธิปไตย ที่มีอำนาจ 3 ส่วนคือบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ ล้วนขับเคลื่อนไปด้วยกลไกของตัวเอง

หาได้มีระบอบอำมาตยาธิปไตย อย่างที่แกนนำคนเสื้อแดงพูดความเท็จบนเวที

ทั้งหมดที่เราชำแหละให้ผู้อ่านได้เห็น ก็คือหัวใจสำคัญของปฏิบัติการลับ“แผนตากสิน”ที่ทักษิณและคนเสื้อแดงวางไว้ บนการสร้างเงื่อนไข”ระเบิดเวลา”เพื่อทำลาย ศัตรูการเมือง 5 กลุ่มดังกล่าวข้างต้น

และมุ่งหวังให้เกิดสภาพการณ์ กลียุคการเมือง อำนาจรัฐล้มเหลวในการปกครอง

ระเบิดเวลา 3 ลูกที่เป็นหัวใจหลักของแผนตากสิน ก็คือ

1.การชุมนุมของคนเสื้อแดง


แน่นอนแล้วว่า จะชุมนุมยืดเยื้อยาวนานเพื่อหวังกดดันรัฐบาลให้ถึงที่สุด และยุทธวิธีหลายอย่างก็เริ่มส่อให้เห็นถึงการจะนำไปสู่เหตุรุนแรงได้ เช่นการพยายามปิดล้อมทุกประตูทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อกดดันให้ตำรวจ-ทหาร เปิดทาง เพื่อนำไปสู่การปะทะกับประชาชนอันจะทำให้เกิดเหตุรุนแรง และเป็นผลเสียต่อรัฐบาลและกองทัพ นอกจากนี้จะใช้คนเสื้อแดงเป็นโล่มนุษย์ในการดำเนินการเพื่อทำลาย 5 กลุ่มศัตรูการเมือง เช่นการทำดาวกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ อาทิบ้านพักพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีเพื่อให้เกิดแรงกดดันจนนำมาสู่การสลายการชุมนุมเหมือนกับที่ นปช.เคยทำมาแล้วในวันเคลื่อนขบวนไปหน้าบ้านพลเอกเปรมเมื่อสองปีก่อน

2.วีดีโอลิงค์-โฟนอินทักษิณ

เป็นแผนขั้นที่ 2 หลังจากกองทัพเสื้อแดงล้อมทำเนียบสำเร็จ ก็จะใช้การโฟนอิน-วีดีลิงค์ของทักษิณ เป็น”จุดขาย-เรียกคน”เข้ามายังหน้าทำเนียบให้มากที่สุดในยามค่ำคืน ด้วยการให้ทักษิณโฟนอินเข้ามายังเวทีกลางของนปช.ทุกคืนในช่วง 19.00 น.-20.00 น.ของทุกวันตลอดการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล

อันเชื่อได้ว่า การโฟนอินของทักษิณทุกวันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน หลังจากเขาได้ทำการชี้เป้าให้พลพรรคเสื้อแดง Red Army ทั่วประเทศได้รับรู้ว่าทักษิณมีความคับข้องใจกับบุคคลเหล่านี้เช่นพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ และ นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ สององคมนตรี จนทำให้เกิดความรู้สึกร่วมและเกลียดชังบุคคลที่ถูกทักษิณเอ่ยชื่อถึง อันอาจนำไปสู่การปลุกเร้าให้การชุมนุมเป็นไปอย่างร้อนแรง จนไม่อาจประเมินได้ว่า จะมีสิ่งใดตามมาหลังจากนั้น

3.เกมป่วนในรัฐสภา

เห็นได้ชัดจากกรณีล่าสุดกับการเสนอร่างพรบ.ว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติพ.ศ…. ที่มี ส.ส.จากทั้งฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลรวม149 คนร่วมกันลงชื่อหนุนกม.ฉบับนี้

อันมีสาระสำคัญคือฟอกผิดทักษิณ ชินวัตรให้ทักษิณหลุดพ้นคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ รวมถึงนักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจจำนวนมาก ที่ร่วมกันทุจริตในคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส.สอบสวนและคดีอยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลฎีกาฯ -ปล่อยผีนักโทษการเมืองในคดียุบพรรคทั้งหมด-อุ้มผู้เกี่ยวข้องกับการสั่งการสลายการชุมนุม 7 ตุลาฯทมิฬ

อย่างไรก็ตาม ก็พยายามหาแนวร่วมเช่น กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และบุคคลในซีกฝ่ายบริหาร เช่น กษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ –สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ที่คณะบุคคลที่เสนอร่างกฎหมายนี้หวังเอามาเป็นแนวร่วมด้วยการจะยกความผิดกรณีที่ตำรวจกำลังสอบสวนดำเนินคดีข้อหาบุกทำเนียบรัฐบาล และยึดสนามบินสุวรรณภูมิ

ทั้งที่แกนนำพันธมิตรฯทุกคนต่างประกาศพร้อมยอม “ติดคุก”และไม่ต้องการให้มีการออกมาตรการใดๆเพื่อช่วยเหลือ เพราะพันธมิตรฯเชื่อมั่นว่า สิ่งที่กระทำไปทำโดยเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและส่วนรวม

การเสนอกม.ที่หลายฝ่ายมองว่ามีวาระซ่อนเร้น เป็นระเบิดเวลาเพื่อหวังให้เกิดประเด็นความขัดแย้งขึ้นในสังคมอย่างรุนแรง ทั้งที่เพื่อไทยก็ประเมินได้อยู่แล้วว่า โอกาสจะผลักดันให้ผ่านรัฐสภามันยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา

เพราะต้องเจอแรงต้านสารพัดโดยเฉพาะแรงต้านนอกรัฐสภา ซึ่งวาระซ่อนเร้นที่เห็นชัดก็เช่นระยะเวลาที่กำหนดว่าจะนิรโทษกรรม คือ ตั้งแต่ 19 กันยายน 2549 ถึง 5 พฤษภาคม 2552 ที่นักกม.เห็นว่าขัดกับหลักการ

เนื่องจากการนิรโทษกรรมคือการเขียนกฎหมายให้มีผลย้อนหลัง ไม่อาจเขียนไปข้างหน้าได้ จนถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเขียนกฎหมายเพื่อจะให้ไม่มีการเอาผิดคนเสื้อแดงหากมีการทำอะไรที่เกิดความรุนแรงในช่วงการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล

เบื้องหลังของการเสนอกฎหมายฉบับนี้ แม้โดยกระบวนการแล้วยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะมีผลบังคับใช้ บนการวิเคราะห์จากหลายฝ่ายชี้ว่า สาเหตุที่เพื่อไทยรีบเร่งเข็นกฎหมายฉบับนี้จ่อให้สภาฯพิจารณา แท้จริงแล้วเป็นการเคลื่อนไหวที่สอดรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง ที่ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล

เป็นการเดินแผนขนาบตีสองด้าน

ต้องการจะกดดันวิปรัฐบาลให้รับกฎหมายฉบับนี้ไปพิจารณาในสภาฯเพื่อแลกกับการยกเลิกการชุมนุม ซึ่งแน่นอนว่า ประชาธิปัตย์คงไม่ยอมแน่นอน

แม้ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลประมาณ 6 เสียงไปร่วมลงชื่อหนุนกม.ฉบับนี้บนกระแสข่าวว่าได้รับไฟเขียวจากแกนนำพรรคต้นสังกัด เพื่อหวังช่วยนักการเมืองหลายคนให้พ้นจากโทษแบน 5 ปี และเป็นการส่งสัญญาณให้ ปชป.รู้ว่างูเห่าในพรรคร่วมรัฐบาลเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หากผลประโยชน์ไม่ลงตัวก็พร้อมสวิงกลับไปอยู่กับซีกเพื่อไทย

อันมีผลทำให้พรรคร่วมฯเริ่มมีปัญหาเรื่องเสถียรภาพขึ้นมาอีกรอบ หลังจากล่าสุดวิปรัฐบาลมีท่าทีไม่ตอบรับกฎหมายฉบับนี้ โดยยืนยันจะไม่สนับสนุนให้เข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาฯ

แต่ก็เชื่อว่าแผนตากสินของทักษิณ-เสื้อแดง ที่ใช้กลไกในสภาฯคงไม่หมดมุขแค่นี้แน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น