“ไพบูลย์” เผยมติกลุ่ม 40 ส.ว.ไม่เห็นด้วยร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ชี้ เนื้อหามีแต่การนิรโทษกรรม ตั้งแต่ 19 ก.ย.รวมถึงเรื่องการสลายเหตุชุมนุม 7 ตุลา จวกสังคมจะยอมรับได้หรือ เชื่อไม่ผ่านวุฒิสภาแน่
วันนี้ (27 มี.ค.) ที่รัฐสภา กลุ่ม 40 ส.ว.นำโดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.สรรหา นายสาย กังกะเวคิน ส.ว.ระยอง ร่วมกันแถลงคัดค้านการเสนอร่างพ.ร.บ.ความปรองดองแห่งชาติ ที่พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ
นายไพบูลย์ กล่าวว่า กลุ่ม 40 ส.ว.มีมติร่วมกันว่าไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เนื่องจากการศึกษาในเนื้อหา พบว่า ล้วนเป็นกฎหมายนิรโทษกรรม ที่จะนิรโทรษกรรมล่วงหน้าไปจนถึง 5 พ.ค.ร่วมไปถึงการนิโทษกรรมย้อนหลังไปถึงก่อน 19 ก.ย.2549 โดยไม่ระบุวันที่ชัดเจน ซึ่งอดคิดไม่ได้ว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะจงใจนิรโทษกรรมในส่วนของความผิดทั้งในส่วนขององค์กรอิสระ โดยคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหากแก่รัฐ(คตส.) ที่มีการเพิกถอนคำพิพากษาของศาล ในส่วนของคดีที่ดินย่านรัชดาฯ และรวมไปถึงคดีที่คตส.ได้ตรวจสอบและได้ส่งไปยังศาลแล้ว ซึ่งจะทำให้เสียการถ่วงดุลระหว่างนิติบัญญัติและตุลาการ
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ร่าง กม.ฉบับนี้จะยังนิรโทษไปยังอดีตนายกฯ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 ซึ่งประเด็นที่ว่านี้ ถ้าหากเกิดการนิรโทษขึ้นจริงสังคมจะยอมรับได้หรือไม่ จะเกิดความขัดแย้งต่อสังคมไทยในวงกว้าง ดังนั้น ตนของฝากเตือนไปยังกลุ่มคนเสื้อแดงที่กำลังชุมนุมล้อมทำเนียบอยู่ว่า กลุ่ม 40 ส.ว.ขอคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้อย่างเต็มที่ และขออย่าให้กลุ่มเสื้อแดง พลั้งเผลอก่อเหตุความรุนแรง เพราะจะไม่ได้รับประโยชน์จากการนิรโทษกรรมจากกฎหมายฉบับนี้แน่นอน
ขณะที่ นายสาย กล่าวว่า มั่นใจว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้คงไม่ผ่านสภาได้ง่ายๆ เพราะเนื้อหาขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนหรือถ้าผ่านสภามาได้ และเข้ามาสู่วุฒิสมาชิก กฎหมายฉบับนี้ก็คงไม่ได้รับความเห็นชอบผ่านการกลั่นกรองแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่ม 40 ส.ว.ไม่เห็นด้วยแน่นอน
วันนี้ (27 มี.ค.) ที่รัฐสภา กลุ่ม 40 ส.ว.นำโดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.สรรหา นายสาย กังกะเวคิน ส.ว.ระยอง ร่วมกันแถลงคัดค้านการเสนอร่างพ.ร.บ.ความปรองดองแห่งชาติ ที่พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ
นายไพบูลย์ กล่าวว่า กลุ่ม 40 ส.ว.มีมติร่วมกันว่าไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เนื่องจากการศึกษาในเนื้อหา พบว่า ล้วนเป็นกฎหมายนิรโทษกรรม ที่จะนิรโทรษกรรมล่วงหน้าไปจนถึง 5 พ.ค.ร่วมไปถึงการนิโทษกรรมย้อนหลังไปถึงก่อน 19 ก.ย.2549 โดยไม่ระบุวันที่ชัดเจน ซึ่งอดคิดไม่ได้ว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะจงใจนิรโทษกรรมในส่วนของความผิดทั้งในส่วนขององค์กรอิสระ โดยคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหากแก่รัฐ(คตส.) ที่มีการเพิกถอนคำพิพากษาของศาล ในส่วนของคดีที่ดินย่านรัชดาฯ และรวมไปถึงคดีที่คตส.ได้ตรวจสอบและได้ส่งไปยังศาลแล้ว ซึ่งจะทำให้เสียการถ่วงดุลระหว่างนิติบัญญัติและตุลาการ
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ร่าง กม.ฉบับนี้จะยังนิรโทษไปยังอดีตนายกฯ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 ซึ่งประเด็นที่ว่านี้ ถ้าหากเกิดการนิรโทษขึ้นจริงสังคมจะยอมรับได้หรือไม่ จะเกิดความขัดแย้งต่อสังคมไทยในวงกว้าง ดังนั้น ตนของฝากเตือนไปยังกลุ่มคนเสื้อแดงที่กำลังชุมนุมล้อมทำเนียบอยู่ว่า กลุ่ม 40 ส.ว.ขอคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้อย่างเต็มที่ และขออย่าให้กลุ่มเสื้อแดง พลั้งเผลอก่อเหตุความรุนแรง เพราะจะไม่ได้รับประโยชน์จากการนิรโทษกรรมจากกฎหมายฉบับนี้แน่นอน
ขณะที่ นายสาย กล่าวว่า มั่นใจว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้คงไม่ผ่านสภาได้ง่ายๆ เพราะเนื้อหาขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนหรือถ้าผ่านสภามาได้ และเข้ามาสู่วุฒิสมาชิก กฎหมายฉบับนี้ก็คงไม่ได้รับความเห็นชอบผ่านการกลั่นกรองแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่ม 40 ส.ว.ไม่เห็นด้วยแน่นอน
