“เพื่อไทย” หวั่นเจอสกัด แจ้นร้อง สตง.สอบงบ 1,000 ล้าน ที่ ครม.อนุมัติให้ กอ.รมน.เผยแพร่เศรษฐกิจพอเพียง อ้างเอื้อประโยชน์ให้ “สีเขียว” สนองประโยชน์การเมือง ชี้ มุ่งสลายคนเสื้อแดง อ้างผิดหลักเกณฑ์งบประมาณชัดเจน ส่อทุจริต
วันนี้ (27 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อ ขอให้ตรวจสอบการใช้เงินงบประมาณ 1,000 ล้านบาท ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ในการเผยแพร่เศรษฐกิจพอเพียงให้กับชุมชนทั่วประเทศ ว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 23 มี.ค.2552 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณ 1,000 ล้านบาท ในโครงการสู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามที่ กอ.รมน.เสนอโดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแลโครงการนี้ ซึ่งงบดังกล่าวแสดงถึงความไม่โปร่งใส ส่อไปในทางทุจริตของผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วินัยทางงบประมาณ และการคลัง และมีระยะเวลาดำเนินการไปตามหมู่บ้านชุมนุมช่วงเดือน มี.ค.ถึง เม.ย.เป็นเวลาสั้นมาก แต่วัตถุประสงค์โครงการแอบแฝงเพื่อหวังประโยชน์ทางการเมืองอย่างชัดเจน
“โดยเฉพาะโครงการนี้อ้างถึงการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่กลับเสนอผ่าน กอ.รมน.แต่เป็นการรับสนองนโยบายทางการเมืองของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างชัดเจน โดยการใช้เงินนี้ไปสลายมวลชนที่เห็นตรงข้ามกับรัฐบาลโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง ทั้งๆที่ในหมู่บ้าน ชุมชนต่างๆก็มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดูแลให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว หากรัฐบาลเห็นว่าควรจะสนับสนุนท่องถิ่นให้ทำเรื่องใดก็ควรสนับสนุนงบให้ท้องถิ่นนั้นๆ แต่กลับใช้หน่วยงานด้านความมั่นคงซึ่งไม่มีความรอบรู้ทางเศรษฐกิจในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชุมชน” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังระบุอีกว่า ในการจะของบประมาณของหน่วยงานต่างๆ จะต้องมีแผนการดำเนินการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เพื่อเสนอให้สำนักงบประมาณพิจารณาแต่ กอ.รมน.กลับเสนอแผนดังกล่าว เป็นแผนเร่งด่วน ทั้งที่โดยเนื้อหาโครงการ ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แต่อย่างใด ดังนั้น การที่ กอ.รมน.ใช้งบประมาณดังกล่าวจากงบกลาง ในรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นนั้น จึงขัดต่อเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณและวัตถุประสงค์งบสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพราะงบประมาณส่วนนี้จะกันไว้เฉพาะกรณีฉุกเฉิน และจำเป็นเร่งด่วนจริงๆ เท่านั้น แต่กรณีดังกล่าวมีการอนุมัติงบประมาณอย่างง่ายดาย เอื้อประโยชน์ทางการเมือง เปิดช่องให้มีการทุจริตได้ง่าย
“ขณะนี้เริ่มข่าวจะมีการทุจริตในโครงการ เพราะการอนุมัติงบส่วนนี้ให้รองนายกฯสุเทพ เป็นผู้ดูแล เอื้อประโยชน์ให้พวกสีเขียว เอื้อนักการเมืองระดับชาติคนหนึ่งที่ชื่อ “ส.” มีส่วนได้เสียในงบประมาณดังกล่าว ในรูปแบบการใช่งบของ กอ.รมน.ในการจ้างบริษัทของพวกพ้องไปรับงานไปดำเนินการตามชุมชนและหมู่บ้านต่างๆ แล้วหักค่าคอมมิชชัน หรือค่าหัวคิวให้แก่ผู้ใหญ่บางคนที่รับผิดชอบโครงการ จริงๆ มีการประเมินโครงนี้เพียง 500 ล้านบาท แต่ตั้งงบไว้ 1,000 ล้านบาท จึงขอให้ สตง.ได้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณและตรวจสอบโครงการดังกล่าวตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยรวมต่อไป” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
