ครม.เทงบ 1,000 ล.หนุน กอ.รมน.สกัดม็อบป่วน

“สุเทพ” เจ๋งจริง เสนอโครงการของบสู้วิกฤตเศรษฐกิจตามหลักปรัชญาพอเพียงให้ กอ.รมน.ทุ่มงบเข้าหมู่บ้านหวังสกัดม็อบป่วน ด้าน ครม.ก็ใจดีผ่านงบให้ถึง 1,000 ล้าน

วันที่ 24 มี.ค. นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณ 1,000 ล้านบาทในโครงการสู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)เสนอ โดยมีนายสุเทพ เทพสุบรรณ รองนายกฯดูแลโครงการ

นายปณิธานกล่าวว่าโครงการนี้จะช่วยบรรเทาวิกฤตเศรษฐกิจโดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจเข้ามาเพื่อให้ชุมชนทั่วประเทศ นำไปปรับใช้ให้เหมาะสม เพื่อลดผลกระทบจากเศรษฐกิจทุนนิยมโครงการนี้จะเริ่มขึ้นในเดือนมี.ค.-เม.ย.เป็นต้นไป จะมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนในชุมชนร่วมกันสู้วิกฤตเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ขอให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบการดำเนินงานโครงการสู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการดังกล่าว จำนวน 1,000 ล้านบาท

สาระสำคัญของเรื่อง คือ ทาง กอ.รมน.รายงานว่า กอ.รมน.ได้มีหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรีขอรับความเห็นชอบและขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการดำเนินงานโครงการสู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

“ซึ่งโครงการดังกล่าวมีความมุ่งหมายเพื่อนำศักยภาพของกองทัพไทยในยามปกติมาช่วยเสริมส่วนราชการพลเรือนในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง รวมทั้งมีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติทุกมิติ และมีแนวโน้มจะดำรงต่อไปอีกเป็นระยะเวลานาน และยังสอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการฯ รวม 6 เดือนและมีค่าใช้จ่ายต่างๆ จำนวน 8 รายการ ภายในวงเงิน 1,000 ล้านบาท”

ขณะที่สำนักงบประมาณ ระบุว่า ในการจัดสรรงบประมาณที่ผ่านมาส่วนราชการต่างๆ มีแผนดำเนินงานเพื่อสนับสนุนให้สังคมไทยมีการพัฒนาอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ประชาชนมีความสุขในการดำรงชีพตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นลำดับ สำหรับ กอ.รมน.ได้จัดทำแผนกการดำเนินโครงการสู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยนำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนดำเนินการ รวมทั้งเสริมสร้างความเข้าใจ ความสมานฉันท์ของคนในชาติ

“โดยมีสถาบันหลักของชาติเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวและเป็นศูนย์รวมทางด้านจิตใจ อีกทั้งสร้างจิตสำนึกของประชาชนให้มีความจงรักภักดี เทิดทูน ปกป้องสถาบันมิให้มีการล่วงละเมิดพระบรมเดชานุภาพ”

นอกจากนี้ เนื่องจาก กอ.รมน.ไม่สามารถปรับแผนฯ เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวได้ แต่มีความจำเป็นต้องสนองนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน จึงเห็นควรที่นายกรัฐมนตรีจะให้ความเห็นชอบให้ใช้จ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงิน 1,000,000,000 บาท (หนึ่งพันล้านบาทถ้วน) เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ ขอให้ กอ.รมน.พิจารณาติดตามประเมินผลการดำเนินการโครงการ เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบในโอกาสต่อไปด้วย

จากกรณีดังกล่าวเป็นการอนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินเกินกว่า 100 ล้านบาท จะต้องนำเสนอครม.พิจารณาอนุมัติตามแนวทางปฏิบัติกรณีการขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และหากได้รับการอนุมัติหลักการจาก ครม.แล้ว ขอให้ กอ.รมน. และหน่วยงานปฏิบัติขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ.2548 ต่อไป

ส่วนมติ ครม.ที่อนุมัติงบประมาณ1,000 ล้านบาทในโครงการสู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้น แหล่งข่าวกล่าวว่า ครม.ส่วนใหญ่เห็นชอบ โดยเห็นว่ามีความจำเป็นและเป็นประโยชน์กับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะการลงพื้นที่ตรวจราชการต่างจังหวัดตามที่นายกฯ สั่งให้ ครม.ดำเนินการนั้น รัฐมนตรีได้พบประชาชนบางส่วนที่ใช้ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้และประสบความสำเร็จ ก็อยากให้ประชาชนส่วนใหญ่นำทฤษฎีนี้ไปใช้ด้วย

นายปณิธาน กล่าวด้วยว่า การอนุมัติงบประมาณดังกล่าวไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนเสื้อแดง แต่เป็นการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านในชุมชน และเป็นการสร้างความสามัคคีในชุนชน และไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ทางกลุ่มคนเสื้อแดงออกมากล่าวอ้างก่อนหน้านี้ เพราะตรงนี้มีรายละเอียดชัดเจน ซึ่งไม่ว่าเสื้อสีไหนก็พอใจแน่

แหล่งข่าวในประชุม ครม.ระบุว่า นัยของโครงการนี้นั้น น่าจะมีการนำไปใช้กับมวลชนให้เข้าใจการทำงานของรัฐบาลโดย กอ.รมน.จะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งนัยของโครงการนี้จะนำไปใช้ทำความเข้าใจกับมวลชนบางส่วน(นปช.และคนเสื้อแดง)ที่ยังต่อต้านรัฐบาลชุดนี้

แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯได้กล่าวกับ ครม.ในเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ ว่า ขอบคุณ ครม.ที่ไปให้กำลังใจและช่วยฟังการอภิปรายฯ และช่วยชี้แจงในบางเรื่อง รวมทั้ง ครม.หลายคนที่ไม่ถูกอภิปรายฯ ได้นำข้อมูลมาให้รัฐมนตรีที่โดนอภิปรายฯ มามอบให้รัฐมนตรีที่โดนอภิปราย จนทำให้พรรคฝ่ายค้านเเละประชาชนเข้าใจ ข้อท้วงติงและข้อแนะนำของพรรคเพื่อไทยที่เป็นประโยชน์นั้นขอให้ครม.นำไปพิจารณาประกอบในการทำงานด้วย

ส่วนการชุมนุมของ นปช.ในวันที่ 26 มี.ค.ที่จะมาปิดล้อมทำเนียบฯรวมทั้งการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนั้น ครม.ไม่ได้พูดถึงแต่อย่างใด

สำหรับรายละเอียดโครงการสู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้น จากการตรวจสอบเอกสารในการประชุม ครม.ปรากฏว่า กอ.รมน.ได้ระบุเหตุผลของการของบในโครงการดังกล่าวว่า มีความมุ่งหมายในการนำศักยภาพของกองทัพไทยในยามปกติมาช่วยเสริมส่วนราชการพลเรือนในการแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง รวมทั้งมีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติทุกมิติ และมีแนวโน้มจะดำรงต่อไปอีกเป็นระยะเวลานาน และยังสอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้แถลงไว้ต่อสภา โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการรวม 6 เดือน และมีค่าใช้จ่ายต่างๆจำนวน 8 รายการ ภายในวงเงิน 1 พันล้านบาท

ประกอบด้วย 1.ค่าใช้จ่ายในการอำนวยการ 27,758,100 บาท 2.ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ 24,600,000 บาท 3.ค่าใช้จ่ายการติดตามประเมินผล 4.6 ล้านบาท 4.ค่าใช้จ่ายการปฏิบัติการ แบ่งเป็นปฏิบัติหมู่บ้าน 783,593,100 บาท และชุมชนจำนวน 34,428,800 บาท 5.ค่าใช้จ่ายงานสนับสนุนโครงการ 3,440,000 บาท 6.ค่าใช้จ่ายการปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือน แบ่งเป็น งานการฝึกอบรม 5,091,730 บาท งานการจัดกิจกรรมและขยายผลโครงการ 9,908,270 บาท 7.ค่าใช้จ่ายการรณรงค์และเสริมสร้างความเข้าใจหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 100 ล้านบาท และ 8.งบการปฏิบัติการข่าวสาร 3,540,000 บาท

นอกจากนี้ในเอกสาร ครม.ยังระบุถึงความเร่งด่วนของเรื่องนี้ด้วยว่า เนื่องจากระยะเวลาการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2552 คงเหลือเพียง 6 เดือน ซึ่งมีผลกระทบต่อการช่วยเหลือและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภาพรวม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบเอกสาร ครม.พบว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้ระบุระยะช่วงเวลาที่แน่ชัดว่าจะเริ่มดำเนินการวันใดและสิ้นสุดวันใด ระบุเพียงแค่ว่าจะดำเนินโครงการ 6 เดือนเท่านั้น