โฆษก ทบ.สวน “แม้ว” โฟนอินหวังชิงพื้นที่ข่าว-ปัด ผบ.ทบ.ร่วมแผนปฏิวัติ

โฆษก ทบ.ยัน “บิ๊กป๊อก” ไม่เคยร่วมวางแผนทำปฏิวัติ 19 ก.ย.หรือลอบสังหาร “แม้ว” ตามที่โดนกล่าวหา หยัน “โฟนอิน” อดีตนายกฯ หนีคุก แค่หวังชิงพื้นที่สื่อ จะส่งผลลบต่อคนทำมากกว่า วอนประชาชนใช้วิจารณญาณในการฟัง ไม่หวั่นคำขู่แฉเอกสารลับ 26 มี.ค.ยันทหารไม่เคยยุ่งจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 23 มี.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ได้กล่าวปราศรัยผ่านระบบวิดีโอลิงกืกับคนเสื้อแดงที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 มี.ค.โดยกล่าวพาดพิงกองทัพ ว่า ได้วางแผนลอบสังหารเขาก่อนที่จะยึดอำนาจในวันที่ 19 ก.ย.2549 ว่า ทั้งสองเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกัน เรื่องคดีลอบสังหารเท็จจริงอย่างไร ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องที่ตำรวจต้องว่ากันต่อไป มีน้ำหนักเพียงพอที่จะส่งฟ้องหรือไม่ ก็ต้องว่ากันต่อไป ซึ่งขณะนี้ทุกคนติดตามกันอยู่ และกองทัพไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้

ส่วนเรื่องการปฏิรูปการปกครอง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.เคยเรียนชี้แจงให้ทราบแล้วว่า การปฏิรูปการปกครอง ท่านคิดกับฝ่ายเสธ ของท่านเพียง 2-3 คนเท่านั้น ท่านไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ดังนั้น 2 เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกัน

ความจริงเรื่องการโฟนอินเป็นการแย่งชิงพื้นที่ข่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ท่านสามารถทำได้ แต่ต้องมองว่าสิ่งที่ปรากฏออกมาในสังคมเมื่อได้พื้นที่ข่าวแล้ว และประชาชนได้รับทราบข้อมูลแล้ว มีความคิดเห็นอย่างไรต่อเรื่องทั้งหลาย ซึ่งมุมมองของกองทัพ มองว่าน่าจะส่งผลในทางลบต่อตัวท่านเองมากกว่า เพราะขัดกับข้อเท็จจริง ตนไม่อยากให้ไปดูหมิ่นความคิดเห็นของประชาชน เพราะนานวันไปเมื่อข้อมูลมีมากขึ้น ประชาชนจะสามารถวิเคราะห์ และใช้วิจารณญาณได้ว่าสิ่งทั้งหลายข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า ขอเรียนซ้ำว่า กองทัพไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร ซึ่ง พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.กอ.รมน.ได้เรียนให้ทราบแล้วว่าไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ การลอบสังหารต้องดูข้อเท็จจริง ว่า เมื่อเราไม่เคยมีความคิดแบบนี้ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องผูกโยงไปในลักษณะอื่น ท่านลองคิดง่ายๆ การลอบสังหารกับการปฏิรูปการปกครอง สิ่งไหนง่ายกว่ากัน ดังนั้น จึงไม่เป็นความจริง กองทัพไม่เคยมีความคิดลอบสังหาร ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดก็แล้วแต่ กองทัพเป็นสุภาพบุรุษมาโดยตลอด เป็นเรื่องที่คนเป็นทหารไม่เคยคิดเรื่องลักษณะแบบนี้ ทั้งนี้ ยืนยันว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวางแผนการปฏิวัติ ท่านเป็นกำลังพลผู้ปฏิบัติที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาเท่านั้น ทั้งนี้ ยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ ว่า พล.อ.อนุพงษ์ ไม่เคยมีการพูดคุยกันเรื่องวางแผนกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี ในการวางแผนการปฏิวัติ ไม่เคยคุย และไม่เคยพบกัน

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดพาดพิง พล.อ.อนุพงษ์ จะดำเนินการอย่างไร พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ต้องตรวจสอบ แต่หากเราคิดเล็กคิดน้อยมุ่งแต่เรื่องคดีความ คงไม่เกิดประโยชน์อะไร เชื่อว่า วันนี้ประชาชนน่าจะใช้วิจารณญาณได้ ว่า สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นในลักษณะอย่างไร ซึ่งหลายคนพยายามผูกโยงกองทัพกับเรื่องการเมือง โดยเฉพาะตัว ผบ.ทบ.ตนจึงต้องเรียนซ้ำเหมือนเดิมว่าท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่เราห้ามไม่ได้ที่จะให้นักการเมืองมาถามท่าน และเมื่อนักการเมืองมาถามท่านก็ตอบได้ ในลักษณะของบุคคลทั่วไปว่า ส.ส.จะคิดอ่านประการใด ก็ต้องว่ากันไปในฐานะที่เป็นคนหนึ่งในส่วนราชการ ขอให้ทุกคนคิดถึงประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติเป็นที่ตั้ง การที่หลายฝ่ายพยายามผูกโยง ว่า ท่านอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังนั้นสุดแล้วแต่

เมื่อถามว่า กองทัพต้องทนต่อเสียงเร่งเร้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่เฉพาะกองทัพเพียงอย่างเดียว ทุกฝ่ายต้องใช้วิจารณญาณ และความอดทน และอยากฝากวิงวอนทุกฝ่าย ว่า วันนี้บ้านเมืองต้องการความรัก ความสามัคคี อย่างมากในช่วงที่ยังอยู่ในช่วงวิกฤต และหัวเลี้ยวหัวต่อ ถ้าทุกคนพยายามพูดไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ อย่างน้อยก็มีส่วนทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

ส่วนกรณีแผนตากสิน นั้น ผบ.ทบ.เล่าให้ฟังว่า ความจริงเป็นเรื่องที่การเมืองหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา ท่านได้มอบหมายให้ฝ่ายเสนาธิการที่เกี่ยวข้องไปลองตรวจสอบ ว่า สิ่งที่กล่าวอ้างในแผนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีความสอดคล้อง หรือเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ยืนยันได้ว่า อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นเรื่องความมั่นคง และเป็นหน้าที่ของกองทัพที่จะต้องดูแล ผบ.ทบ.ได้สั่งการกำชับกับทุกหน่วยว่าขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่บนพื้นฐานของการดูแลความมั่นคง ผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้ง ผบ.ทบ.ยังไม่ได้ยอมรับว่า มีแผนตากสิน แต่เมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ท่านจึงได้ให้ฝ่ายเสนาธิการตรวจสอบว่าเป็นไปได้หรือไม่

เมื่อถามถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ผบ.ทบ.ได้สั่งให้ติดตามสถานการณ์อย่างไร พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า อะไรก็ตามที่บ่อยเกินไป ก็จะเป็นไปตามวิสัยของคนไทยที่จะรู้สึกเฝือ แต่อย่างไรก็ตาม กองทัพคงต้องติดตามเรื่องนี้ รวมถึงการเตรียมการเรื่องการชุมนุมคงไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะฝ่ายไหนชุมนุมเราคงปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม และใช้แผนเดิมในการดูแลความสงบ และไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากครั้งที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะนำเอกสารลับมาเปิดเผย โดยเฉพาะการที่ทหารเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล ที่กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่ต้องมีการเตรียมตัวอะไร ไม่ว่าจะถามตน ผบ.ทบ.หรือนักการเมืองที่ได้มาปรึกษาหารือกับท่าน ทุกคนต้องตอบเสียงเดียวกันเป็นแบบนี้ เพราะต้องเท็จจริงเป็นแบบนี้ ไม่ต้องเตรียมการอะไร ข้อเท็จจริงสามารถพิสูจน์ได้ ยืนยันว่า ไม่มีคลิปวิดีโอในการสนทนาหารือในการจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.หวั่นหรือไม่ที่จะถูกแฉเกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า คนที่กลัวในเรื่องของการถูกแฉ แสดงว่า ตัวเองมีบาดแผล ผบ.ทบ.ไม่เคยมีบาดแผล ดังนั้น ท่านไม่กลัวว่าจะมีการแฉหรือไม่แฉ อะไรที่เป็นสิ่งที่บิดเบือนจากความเป็นจริงในสังคม ท่านก็พยายามให้ตน หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวท่านเองได้ชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ