“สนธิ” ชี้ “ทักษิณ” โฟนอินหวังแค่รักษาฐานเสียงพรรคเพื่อไทย เตือน ปชป.จับตา “ภูมิใจไทย” นอมินีหน้าเหลี่ยม หลังมีข่าว “สุดารัตน์” เตรียมเข้าสิง ห่วงพรรคทหารจับมือยี้ห้อยโดดเดี่ยว ปชป. เชื่อหลังอภิปราย “มาร์ค” กล้าตัดสินใจเพื่อให้พรรคอยู่รอด
วันนี้ (17 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณา 702 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคู่ความ คดีหมายเลขดำที่ 3675/2551 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับพวก 3 คนซึ่งเป็นผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ ASTV เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท กรณีที่นายสนธิกล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ พาดพิง พ.ต.ท.ทักษิณ ทำนองว่าต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประธานาธิบดี และใช้อำนาจก้าวล่วงการทำงานข้าราชการ
โดยวันนี้ศาลได้สอบถามนายสนธิว่าได้มีการกล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ในการปราศรัยเวทีพันธมิตรฯ หน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ตามที่ทนายโจทก์ กล่าวอ้างเพื่อจะขอให้ศาลออกหมายจับคุมขังนายสนธิจริงหรือไม่ หลังจากที่ศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเมื่อวันที่ 1 ก.ค.51 ห้ามนายสนธิกล่าวถ้อยคำพาดพิง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยนายสนธิ และนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ แถลงต่อศาลว่าไม่ได้มีการกล่าวพาดพิง พ.ต.ท.ทักษิณ ตามเนื้อหาที่ได้มีการยื่นฟ้องคดีนี้ ขณะที่นายสุวัตร ทนายความจำเลยได้แถลงต่อศาลด้วยว่า ที่ผ่านมาศาลอาญาได้มีคำพิพากษายกฟ้องคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มอบอำนาจให้ทนายความยื่นฟ้องนายสนธิ ในความผิดฐานหมิ่นประมาท จากการออกแถลงการณ์พันธมิตร 5 ฉบับ ซึ่งมูลคดีเกี่ยวพันคดีแพ่งนี้แล้ว 1 สำนวน ยังคงเหลือคดีที่ศาลอาญาจะมีคำสั่งอีกเกี่ยวกับแถลงการณ์ฉบับที่ 2-5 โดยศาลพิจารณาแล้วจึงได้ตักเตือนนายสนธิให้ระวังการกล่าวถ้อยคำพาดพิง พ.ต.ท.ทักษิณ ซ้ำอีก พร้อมกับนัดคู่ความอีกครั้งในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. เพื่อรอฟังคำสั่งว่าศาลจะมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราวเพื่อรอฟังผลคำพิพากษาในคดีอาญาหรือไม่
ภายหลังนายสนธิกล่าวถึงการโฟนอินที่ถี่ครั้งขึ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงนี้ว่า น่าจะมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาฐานเสียงพรรคเพื่อไทยไว้ หลังจากเห็นได้ว่ากลุ่ม ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย พร้อมจะย้ายไปอยู่ที่อื่นตลอดเวลา โดยขณะนี้พรรคที่มีแนวโน้มว่าจะมาแทนพรรคเพื่อไทย คือ พรรคภูมิใจไทย จึงควรต้องจับตามองไว้ เพราะมีกลุ่ม ส.ส.ไทยรักไทยเดิมไปสังกัดอยู่จำนวนมาก ขณะเดียวกันมีข่าวว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (1 ใน 111 อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทยซึ่งถูกตัดสิทธิการเมือง) เข้าให้การสนับสนุน รวมทั้งพรรคทหารของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กำลังจะร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งจะทำให้วันหนึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ตื่นขึ้นมาแล้วจะรู้สึกว่าไม่มีใครอยู่ข้างกายเลย นอกจากนี้ยังมองว่าพรรคภูมิใจไทยดูเหมือนจะเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทยที่ไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ด้วย
นายสนธิยังกล่าวถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วยว่า หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลแล้ว เชื่อว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ จะมีความกล้าตัดสินใจอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งมากขึ้นเพื่อให้พรรคอยู่รอด แต่ถ้ายังไม่ตัดสินใจอะไรก็น่าเป็นห่วงพรรคประชาธิปัตย์