“อภิสิทธิ์” ฟิต เสร็จศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เร่งเครื่องทำงานต่อมุ่งลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี อ้อนชาวบ้านมาไรเจ็บตัวเจ็บแก้มทุกที ลั่นขอทำงานแก้วิกฤติเศรษฐกิจ ย้ำวิกฤติโลกทำกระทบทุกภาคส่วน วอนประชาชนให้ความร่วมมือแก้ปัญหา สามัคคีอย่าแตกแยก แย้มสัปดาห์หน้าเตรียมเปิดโครงการชุมชนพอเพียงหลังปรับจากนโยบายเอสเอ็มแอล เตรียมอัดฉีดงบเข้าทุกหมู่บ้านอีก ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมป่วน เจอการ์ดพันธมิตรฯ-คนเสื้อเหลืองที่มาต้อนรับสกัด หวิดปะทะ แต่ไม่เกิดเหตุรุนแรง
วันนี้ (21 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอิสรา สุนทรวัฒน์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางลงพื้นที่ วัดนามะตูม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธียกช่อฟ้าเอกศาลารวมใจภักดีแผ่นดิน โดยมีพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.และนายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจ.ชลบุรี รวมถึง ส.ส.จังหวัดชลบุรี มาให้การต้อนรับ โดยทันทีที่มาถึงนายกรัฐมนตรีได้เข้าสักการะวิหารหลวงพ่อโด่ ซึ่งมีประชาชนมาร่วมให้การต้อนรับ กว่า 2,000 คน ทั้งนี้การรักษาความปลอดภัย บริเวณงานมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 กองร้อย ทหารจากกองช่วยรบที่51 อ.เกาะจันทร์ 1 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจำนวน เนื่องจากมีกลุ่มผู้ชุมนุม คนเสื้อแดงประมาณ 200 คนมายืนดักบริเวณด้านหน้าของวัดนามะตูม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนรถของนายกรัฐมนตรีที่เดินทางมาจาก กทม.เมื่อเข้ามาถึง อ.พนัสนิคม ใกล้จะถึงถนนเส้นที่จะเข้าไปยังเป้าหมายวัดนามะตูม ก็ต้องเลี่ยงไปใช้ถนนเส้นรอง ซึ่งขบวนของนายกรัฐมนตรีต้องขับเลาะที่นา ผ่านถนน อบต.ถนนหินคลุกแล้วเข้าถนนลูกรังแดงอ้อมมาเข้าวัดอีกด้านหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตาม การอารักขาภายในบริเวณวัดเป็นไปด้วยความเข้มงวด เนื่องจากทหารตำรวจจับมือต่อกันเป็นแถวยาวเบียดชาวบ้านไม่ให้เข้ามาประชิดตัวนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ก่อนที่นายอภิสิทธิ์จะทำพิธียกช่อฟ้าเอก ได้ปราศรัยต่อประชาชนตอนหนึ่งว่า ตนมาที่ จ.ชลบุรี หลายครั้ง ซึ่งมาเป็นปกติ ไม่มีประเด็นเรื่องการรักษาความปลอดภัย แต่บังเอิญขณะนี้ว่าเวลาไปไหนมาไหนจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมออกมาต่อต้าน และยังพูดว่ามาครั้งนี้ตนต้องเจ็บตัว ซึ่งจริงๆ ตนมาทุกครั้งเจ็บตัวอยู่แล้ว ช้ำทั้งมือและแก้ม แต่เขาบอกว่าครั้งนี้จะช้ำที่ศีรษะ ซึ่งต้องขอโทษประชาชนและอยากขอร้องให้ประชาชนเข้าใจในเรื่องการรักษาความปลอดภัยด้วย ทั้งนี้การทำงานของรัฐบาล เมื่อเช้าวันนี้ (21 มี.ค.)ได้มีการลงมติไม่ไว้วางใจ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ก็ไว้วางใจตนและรัฐมนตรีทั้ง 5 คน ซึ่งทำให้งานสภาเดินหน้าต่อไปได้
ทั้งนี้ 2 วันที่มีการอภิปรายถือเป็นกระบวนการทางสภา ที่ต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ตนได้พูดตลอดว่าเป็นนักประชาธิปไตย ดังนั้น กระบวนการตรวจสอบตนก็เคารพ ซึ่งหากติดตามการอภิปรายทั้งสองวันจะเห็นได้ว่า ตนนั่งในห้องประชุมตลอด จะออกข้างนอกคือเข้าห้องน้ำรับประทานอาหารเท่านั้น เห็นได้ว่าทั้งสองวันตนทานอาหารไม่ครบทุกมื้อ แต่เมื่อผู้แทนเขามาอภิปรายและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เราก็ต้องให้เกียรติ ประเด็นอะไรที่มีข้อสงสัยก็ตอบไป และอะไรที่เป็นข้อท้วงติงตนก็พร้อมรับไว้ ส่วนอะไรที่ออกนอกลู่นอกทางตนก็นั่งฟังอย่างสงบ เพราะต้องการสร้างมาตรฐานที่ดีของประชาธิปไตย
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาปัญหาหนักคงหนีไม่พ้นเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ใช่เฉพาะคนชลบุรี หรือคนไทยเท่านั้น แต่ทั้งโลกกำลังเผชิญวิกฤตอย่างหนัก โดยเฉพาะสหรัฐและยุโรปที่มีปัญหา เกี่ยวกับสถาบันการเงินเหมือนประเทศไทยเมื่อปี 40 ทำให้มีประชาชนหลายคนตกงานและไม่มั่นใจ ไม่ซื้อของ รวมทั้งไม่เดินทาง ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐต้องแก้ไข ยืนยันว่า 3 เดือนที่ผ่านมาทำงานหนัก ซึ่งในสัปดาห์หน้าตนจะเปิดโครงการชุมชนพอเพียง ปรับมาจากโครงการเอสเอ็มแอล โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ จ.ชลบุรีเพื่อทำความเข้าใจทุกหมู่บ้าน เรื่องเงินที่จะให้กับชุมชน โดยหมู่บ้านใดที่เคยทำโครงการนี้ จะได้เงินจากรัฐบาลเพิ่มขึ้น ส่วนหมู่บ้านไหนที่พึ่งเข้าโครงการนี้ ก็จะได้เงินเพิ่มเป็นสองเท่าเบื้องต้นจะเริ่มใน 8 พันหมู่บ้านก่อน ส่วนในวันที่ 22 มี.ค.นี้ตนจะเปิดโครงการต้นกล้าอาชีพ โดยมีวงเงิน 6.9 พันล้านบาท ที่จะฝึกอบรมคนว่างงาน นักศึกษาที่จบใหม่ยังไม่มีงานทำเพื่อบรรเทาวิกฤติและช่วยผ่อนคลายปัญหาการว่างงาน
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีปัญหาร้องเรียนอะไร ตนได้กำชับกระทรวงแรงงานและส.ส.ในพื้นที่ไว้แล้ว ว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปิดถนนให้กระทบประชาชนทั่วไป เพราะอย่างไรทำหรือไม่ทำรัฐบาลก็แก้ไขปัญหาให้อยู่แล้ว ทั้งนี้ในเรื่องอ่างเก็บน้ำคลองหลวง จ.ชลบุรี ขณะนี้สภาพัฒฯได้เสนอข้อมูลและให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ ซึ่งกำลังจะเข้า ครม.เร็วๆนี้ ทั้งนี้ในส่วนของสถานีอนามัยก็จะเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลเสริมสร้างชุมชนประจำตำบลทั่วประเทศ
“ผมตั้งใจและเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ยาเสพติด สิ่งแวดล้อม และการเมือง แต่เรื่องนี้จะไม่มีทางสำเร็จได้ ถ้าประชาชนไม่ร่วมมือ ไม่สมานฉันท์ ไม่สามัคคีกัน ผมขอวิงวอนประชาชน ขอความกรุณา ผมเห็นความมุ่งมั่นของคนชลบุรี ขอให้ประชาชนใช้พลังที่มีอยู่ช่วยกันทำให้บ้านเมืองพ้นวิกฤติ เศรษฐกิจ ทำให้บ้านเมืองสงบสุข ปกป้องสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปรับปรุงการเมืองให้ดีขึ้น ถ้าทำได้เช่นนี้งานต่างๆของรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นงานของประเทศ ก็จะราบรื่น ผมยืนยันที่จะทุ่มเททำงานแบบนี้ต่อไป” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่วัดนามะตูมก่อนที่นายอภิสิทธิ์จะทำพิธียกช่อฟ้า สภาพอากาศได้มีแดดแรงทำให้ประชาชนที่เข้าร่วมให้การต้อนรับบางคนถึงกับเป็นลม และเมื่อนายอภิสิทธิ์ได้ทำพิธียกช่อสภาพอากาศกลับมืดครึ้ม และก่อนที่ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางออกจากวัดเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯได้เกิดการประทะคารมกันระหว่างกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่ใส่เสื้อเหลืองและเสื้อสีดำปักชื่อนักรบชลบุรีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่มาคอยเป็นการ์ดให้กับนายกรัฐมนตีกับกลุ่มคนเสื้อแดงหน้าวัด ซึ่งก็ถูกเจ้าหน้าที่ห้ามปรามไว้ แต่ยังไม่วายตะโกนใช้ถ้อยคำเชือดเฉือนกัน จากนั้นฝนได้ตกลงมาทำให้กลุ่มเสื้อแดงต้องชุลมุนอยู่กับการหาที่กำบังหลบฝน และบางคนได้เดินทางกลับขณะเดียวกันนั้นขบวนรถของนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากวัดนามะตูม เพื่อเดินทางกลับ กทม. จึงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นที่ จ.ลพบุรี
