ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชลบุรีระอุ เสื้อแดงเตรียมปาไข่ทำลายชื่อเสียง “นายกฯ อภิสิทธิ์” ตำรวจ-ทหารพร้อมดูแล ฝ่ายปกครองยังนิ่ง
ชลบุรี จังหวัดท่องเที่ยวทีมีพัทยา เมืองท่องเที่ยวดังก้องโลกและบางแสน ใกล้ย่อยยับเพราะกลุ่มเสื้อแดงตั้งใจป่วนคราเดียวให้เป็นข่าวตามแผนแดงทั่วแผ่นดิน สอดประสานการอภิปรายในสภา รวมทั้งจัดชุมนุมเสื้อแดงไปตามจังหวัดต่างๆ ส.ส.ชลบุรี ทนไม่ไหวโวยลั่น ผู้ว่าฯ ขัดนโยบายไปต่างประเทศบินกลับด่วน
ตามที่ นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่รัฐสภา กรุงเทพฯ ถึงการนิ่งเฉยไม่ทำงานของผู้ว่าฯ ชลบุรี ด้วยนายประมวลทราบดีว่าจะมีคนเสื้อแดงจากจังหวัดฉะเชิงเทรา จันทบุรีเข้าพื้นที่ชลบุรี จำนวน 1 พันคน ไปต่อต้านนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่จะเดินทางมาประกอบพิธียกช่อฟ้าวันที่ 21 มีนาคมที่จะถึงนี้ ที่วัดนามะตูม อ.พนัสนิคม
นายประมวลระบุกล่าวว่า เชื่อว่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดความรุนแรง และหากเกิดความรุนแรงขึ้นจะมีผลกระทบเกี่ยวกับด้านการท่องเที่ยว เพราะในสายตาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมืองพัทยาก็คือประเทศไทย เหลืออีกไม่กี่วันนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาชลบุรี แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีกลับเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเยอรมนี ไม่มีการประชุมเตรียมการเพื่อรับมือกับกลุ่มคนเสื้อแดงแต่อย่างใด
จากการให้สัมภาษณ์ของนายประมวล เอมเปีย ระบุถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ทิ้งงานไปต่างประเทศ (ซึ่งขัดนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ไว้) ทำให้บรรยากาศของสังคมทุกระดับตั้งในวงราชการ วงสังคมของเมืองทั่วๆ ไปร้อนระอุขึ้น ประชาชนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันไปทุกที่ ด้วยเมืองชลบุรีเป็นเมืองพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เสื้อเหลืองทั้งเมือง แต่ก็มีคนเมืองอื่นที่มาอาศัยชลบุรีเป็นที่ทำมาหากินและอ้างว่าเป็นคนชลบุรีออกมาเป็นกลุ่มเสื้อแดงป่วนชลบุรีมาแล้ว 2 ครั้งที่พัทยา
ล่าสุ ดกลุ่มเสื้อแดงคนภาคอีสาน เป็นสตรีคนหนึ่งเป็นน้องสาวของ ส.ส.ทางภาคอีสาน เป็นกิ๊กของนายตำรวจยศพันตำรวจโทคนหนึ่งสถานีตำรวจพัทยา สตรีคนนี้เป็นเจ้าของอาหารอีสาน เป็นหัวขบวนกลุ่มเสื้อแดงอ้างชื่อพัทยาชลบุรีทำให้คนพื้นที่โกรธแค้นอยู่ขณะนี้ สตรีคนนี้หนุนม็อบเสื้อแดง ไปเขียนป้ายประท้วงการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ที่หน้าโรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา มาแล้ว
ทางด้านฝ่ายปกครองเมื่อเจาะข่าวลึกลงไปพบว่า นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้ออกเดินทางไปยังประเทศเยอรมนี ร่วมกับคณะขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ซึ่งมีผู้ร่วมคณะหลายคน ประกอบด้วยมีคนในการท่องเที่ยวพัทยา นายกเมืองพัทยา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ร่วมเดินทางไปด้วย โดยนายสุรพลออกเดินทางตอนเย็นวันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2552 ไปยังประเทศเยอรมนี หลังการต้อนรับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้ จอมเทียน พัทยา แล้วเพื่อเข้าร่วมขบวนโรดโชว์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ซึ่งเดินทางไปเยอรมนีกับทาง ททท. สมาชิกสภาจังหวัดชลบุรี และนายกเมืองพัทยาร่วมขบวนโรดโชว์นี้ด้วย คณะโรดโชว์คณะนี้เดินทางวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคมจะกลับวันที่ 16 มีนาคมที่จะถึงนี้
แต่สถานการณ์ร้อนระอุกลุ่มเสื้อแดงที่ชลบุรีขณะนี้ ตามกำหนดการคร่าวๆ นั้น นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเดินทางมาที่วัดนามะตูม อำเภอพนัสนิคม โดยเป็นประธานในพิธียกช่อฟ้าช่วงเวลาบ่ายโมง หลังจากนั้น จะเดินทางเยี่ยมประชาชนเขตเทศบาลพนัสนิคมและเขตเทศบาลเมืองชลบุรี โดยการประสานงานของนายประมวล เอมเปีย กับน.ส.สุมนา มุทธากิจ นายกเทศมนตรีเมืองชลบุรี
สถานการณ์ร้อนระอุเสื้อแดงชลบุรีนี้ที่จะมีกลุ่มเสื้อแดงจากจังหวัดอื่นๆ ที่จะมากระทำการตามแผนแดงทั่วแผ่นดินให้สอดคล้องกับการป่วนร่วมกันทั้งในสภาและนอกสภาครั้งนี้ ฝ่ายข่าวกรองของรัฐได้ข่าวตรงกัน ข่าวที่ได้มานี้ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ฝ่ายทหารต้องทำงานหนัก ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายนี้เตรียมพร้อมมาแล้วหลายวัน ตำรวจต้องทำงานหนักติดตามสถานการณ์วันต่อวัน ซึ่งเมื่อถึงที่สุดแล้วก็จะขอความร่วมมือจากฝ่ายทหารไปคุ้มกันนายกรัฐมนตรีในวันที่ 21 มีนาคม เพื่อป้องเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ขณะที่ฝ่ายปกครองกลับไม่มีความเคลื่อนไหวประชุมหารือกันแต่อย่างใด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกที่จะมีบุคคลสำคัญเช่นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาชลบุรีวันที่ 21 มีนาคม ซึ่งเป็นเรื่องที่ล้วนรู้กันทั่วไปแต่นายสุรพล ผู้ว่าราชการกลับเดินทางไปต่างประเทศ จึงมีเสียงวิพากษ์จาก ส.ส.ชลบุรี ออกมาว่าผู้ว่าราชการจังหวัดท่านนี้จะเอาอย่างไรกันแน่ หรือจะแทงกั๊กปล่อยปัญหาเสื้อแดงไว้โดยไม่แก้ไขแต่อย่างใด ทำไมไม่ลงไปดำเนินการเอง ปล่อยให้นายอำเภอท้องที่รับผิดชอบเท่านั้นหรือ ซึ่ง เสื้อแดงพัทยาที่เป็นคนที่มาจากภาคอีสานก็ได้ทำลายภาพลักษณ์ของพัทยาเมืองท่องเที่ยวชื่อก้องโลกไปแล้วถึง 2ครั้งด้วยกัน
ส่วนเสื้อแดงแรงฤทธิ์ที่จะรวมพรรคพวกมาจากต่างจังหวัดโดยเฉพาะที่จันทบุรี ฉะเชิงเทรา และพวกคนที่มาจากภาคอีสานที่ตกงานและที่มาทำงานที่พัทยาประมาณ 1 พันคน มาร่วมไล่ปาไข่ มาต่อต้านให้นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ให้เสียหน้าตามแผนป่วนประเทศ แดงทั่วแผ่นดินครั้งนี้ รายงานของตำรวจที่ทำงานมีอยู่ครบครันว่าใครเป็นใคร หากรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะเรียกเข้าไปให้ข้อเท็จจริง เพื่อเตรียมการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะมีขึ้นตามคำกล่าวให้สัมภาษณ์ของนายประมวล เอมเปีย ส.ส.เขต 1 ทุกอย่างก็ล้วนป้องกันได้.
พฤติกรรมของพวกเสื้อแดงชลบุรี เป็นการทำงานที่สอดประสานกันเพื่อช่วงชิงอำนาจการเมืองพื้นที่ประกอบอยู่ด้วย โดยกลุ่มผู้สมัครสอบตกของพลังประชาชนส่วนหนึ่ง มีผู้สมัครสอบตกคนหนึ่งมีพื้นเพเป็นคนอำเภอพานทอง เป็นหัวกระบวนการเสื้อแดงเพราะมีความหลังฝังที่ไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ (เพราะเคยลงรับสมัครในนามพรรคนี้มาคราวหนึ่งแล้ว) มีเจ้าของอาหารอีสานย่านถนนพระยาสัจจา ชื่อ ต. ที่สำคัญก็คือยังมีนายตำรวจที่สถานีตำรวจแหลมฉบังที่มาเป็นลูกเขย คนบางพระอำเภอศรีราชา ร่วมกระบวนการด้วย
ไม่เท่านั้น หน่วยข่าวยังพบว่า นายควร ตึกคอม ยังเล่นไม่เลิกหนุนเสื้อแดงอย่างต่อเนื่อง เพราะนายควรได้ไปประชุมที่ ห้างของเขาในเขตบางแสนกับพวกเสื้อแดง นายควร ได้รับความช่วยเหลือจากหน้าเหลี่ยม เจ้ามูลเมืองมาแต่ในอดีต ทำให้ธนาคาร แฮร์คัตหนี้สินให้ จึงรอดพ้นภาวะเจ้าหนี้รุมฟ้องร้องมาได้ นายควร ตึกคอม มีโทรศัพท์สายตรงของหน้าเหลี่ยมสามารถพูดคุยกันได้โดยตรง นายควรเป็นหนี้บุญคุณหน้าเหลี่ยม จึงอุดหนุนทางการเงินให้กับกลุ่มเสื้อแดงมาโดยลำดับ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีรายงานข่าวว่า นายสุพล ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้วเมื่อคืนวันพฤหัสบดีกลางดึก ทางด้านการปกครองจะมีการเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประชุมหารือกันในวันจันทร์ที่ 16 มีนาคมจะถึงนี้
สำหรับทางด้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มเสื้อเหลืองชลบุรี ความเห็นตอนนี้หลากหลายมาก ส่วนหนึ่งก็จะไปช่วยนายกอภิสิทธิ์ ไปให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี แต่ส่วนใหญ่ ยังไม่เห็นด้วยอยากจะปล่อยให้เป็นเรื่องของ รองนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จัดการกันเอง ไม่ได้สมน้ำหน้า แต่ว่าการทำงานไม่เด็ดขาดมีอำนาจไม่ใช้ ทั้งยังมีความพยายามทำลายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยควบคู่กันไป
พันธมิตรฯ คนหนึ่งที่ไปร่วมเป็นร่วมตายในสมรภูมิ 193 วัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า พันธมิตรฯ ที่จะไปช่วยนายกรัฐมนตรีนายอภิสิทธิ์ก็ทำได้ไม่ขัดข้อง แต่ส่วนใหญ่ยังไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ทอดทิ้ง หากเข้าเมืองเขตเทศบาลชล พันธมิตรก็พร้อมปกป้อง วันนี้หากนายสุเทพ เทือกสุบรรณไม่จัดการกับข้าราชการเกียร์ว่าง ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานลูกเดียวสถานภาพของชลบุรีก็แย่เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว เอาอย่างนี้ หากเสื้อแดงมาจัดชุมนุมที่ชลบุรี โดยพวกคนที่มาจากภาคอื่นๆรับรอง ว่าการต่อต้านจะมีขึ้นอย่างแน่นอน พันธมิตรฯ ร่วมรบ 193 วัน กล่าวในที่สุด และว่าทุกอย่างรอฟัง 5 แกนนำเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ ส.ส.จังหวัดชลบุรีพรรคประชาธิปัตย์ต่างถกเถียงถึงกรณีเสื้อแดงจากจังหวัดอื่นๆ ที่จะมาต่อต้านและอาจจะมีการขว้างปาไข่ใส่นายกรัฐมนตรีในวันที่ 21 มีนาคมนี้ กันอย่างกว้างขวาง ถึงการทำงานของข้าราชการฝ่ายปกครองชลบุรี
ด้านประมวล เอมเปีย ส.ส.จังหวัดชลบุรี ให้สัมภาษณ์ฝากความถึง ผู้ว่าราชการชลบุรีว่า “คนชลบุรีรักสงบอยู่แล้ว แต่การปล่อยให้คนต่างถิ่นมารังแก ต้องรีบหามาตรการมาแก้ไข ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ควรวางแผนแต่เนิ่นๆ ในต่างประเทศ เรื่องการอารักขาผู้นำ ผู้รับผิดชอบ วางแผนกันเป็นเดือนๆ”