xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” จี้ “เทพเทือก” ย้าย “พัชรวาท” เข้ากรุ-เย้ย “เป็ดเหลิม” ซักฟอกสีสันเลอะเทอะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” เชื่ออภิปรายไร้ผล เหตุพรรคร่วมฯ ทอนตังค์กันเรียบร้อยแล้ว จวกซ้ำ “พัชรวาท” ทำโอดครวญเสียกำลังใจ หลังโดน ป.ป.ช.กล่าวหา “7 ตุลาฯ” ถามกลับจะให้ตำรวจฆ่าคนตายโดยไม่ผิดหรือ ยันรับพฤติกรรม ผบ.ตร.คนนี้ไมได้ พร้อมจี้ “สุเทพ” ย้ายเข้ากรุ กรณีพัวพันทุจริตและโดนชี้มูลไว้แล้ว เย้ย “เป็ดเหลิม” แค่นักโต้วาที ขาดตรรกะ แค่สร้างสีสันเลอะเทอะ สอน “มาร์ค” หยุดหนุนส่งออกชั่วคราว เหตุตลาดไม่มีกำลังซื้อ เอาเงินไปปล่อยกู้ธุรกิจกลาง-เล็กในประเทศดีกว่า


 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "Good Morning Thailand" 

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ “Good Morning Thailand” ทางเอเอสทีวี ช่วงเวลา 06.00-07.00 น. เช้าวันนี้(18 มี.ค.)ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่จะเริ่มต้นในวันที่ 19 นี้ คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น รัฐบาลคงได้คะแนนเสียงเต็มที่เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพิ่งจะอนุมัติงบประมาณขยายสนามบินสุวรรณภูมิเหมือนเป็นจ่ายค่าตัวประกันว่าจะลงคะแนนเสียงให้ และคิดว่างานนี้กลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ คงไม่เบี้ยว ถ้าเบี้ยวคงไม่มีโอกาส ได้ดูแลงบประมาณอีกต่อไป เป็นการทอนสตางค์กันของนักการเมือง ซึ่งน่าเห็นใจนายอภิสิทธิ์ไม่รู้ว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหน

ต่อมานายสนธิกล่าวถึงการเดินทางไปศาลแพ่งเมื่อวานนี้ว่าเป็นการไปชี้แจงต่อศาลในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่หนีคดีไปต่างประเทศ ยื่นฟ้องตนในข้อหาหมิ่นประมาท และทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณได้ยื่นร้องต่อศาลให้มีคำสั่งคุ้มครองห้ามไม่ให้ตนพูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งตนได้ไปชี้แจงว่า ไม่ได้พูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณในบริบทที่ศาลเคยสั่งห้ามไว้ แต่เป็นการพูดถึงตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ และในช่วงที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณก็พูดอะไรออกมามาตลอด ศาลก็เมตตาเพียงตักเตือนให้ระมัดระวัง และกำลังดูว่าจะจำหน่ายคดีหรือไม่ เนื่องจากมีลักษณะคล้ายๆ กับที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้ฟ้องว่าตนหมิ่นประมาทโดยผ่านแถลงการณ์พันธมิตรฯ ฉบับที่ 1-5 ซึ่งศาลได้จำหน่ายคดีแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ไปแล้ว

นายสนธิกล่าวต่อว่า ประเด็นของเรื่องนี้อยู่ที่ว่า คนเราถ้าเคารพกติกา มีเรื่องถึงศาลก็ต้องขึ้นศาล อย่าหนีศาล ตนไม่เคยหนีศาล พร้อมสู้ตลอด และศาลพิพากษาอย่างไรก็จะยอมรับ ถ้าถึงขั้นศาลฎีกาสั่งให้ติดคุกก็จะติด เพราะแค่เปลี่ยนที่นอนเท่านั้นเอง พวกเราไม่เคยหนีคดีเหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือนายใจ อึ๊งภากรณ์ และลิ่วล้อของทักษิณ เช่น นายสุชาติ นาคบางไทร นายชูชีพ ชีวะสุทธิ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกที่คนของพวกทักษิณชอบหนีศาลแล้วมาเที่ยวด่าว่าศาลว่าไม่มีความยุติธรรม แต่ตัวเองก็ชอบใช้ศาลมาฟ้องร้องพันธมิตรฯ

“เป็นการฟ้องร้องที่น่าเกลียดมาก ผมไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการฟ้องร้อง ก็ยังไม่บ่น คือเขามอบอำนาจให้ทนายมาฟ้อง ไม่รู้ว่าใบมอบอำนาจจริงหรือปลอม แล้วคนที่ได้รับมอบอำนาจเมื่อถึงเวลาก็มาขึ้นศาลเพื่อเป้นพยาน สิทธิในฐานะผมเป็นจำเลย ผมซักค้านได้ แต่ว่าเขาไม่มา แล้วมีหลายกรณีที่ศาลพิพากษาโดยไม่คำนึงถึงข้อนี้ แต่ผมก็ไม่บ่น พิพากษามายังไงก็ยังงั้น แต่ผมน่าจะได้รับสิทธิในการต่อสู้เต็มที่ แต่ก็ไม่ได้รับสิทธิ”

นายสนธิกล่าวต่อว่า ศาลก็เป็นมนุษย์ มีลูกมีเมีย ชอบไปตีกอล์ฟ กกต.บางคนเป็นอดีตผู้พิพากษาก็มีพรรคพวกในศาล พอโดนตนต่อว่าก็ยกหูไปบอกว่าเอามันเสียหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าต้องติดคุกเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ก็ยอม

รับไมได้ “พัชรวาท” ครวญ ตร.เสียกำลังใจ

กรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาแก้ตัว กรณีถูกกล่าวหาจาก ป.ป.ช.ในเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ ว่ามีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจนั้น นายสนธิ กล่าวว่า ไม่เข่าใจว่า พล.ต.อ.พัชรวาทได้ยศ พล.ต.อ.มาได้อย่างไร เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาฯ และหลังจากนั้นมีประชาชนตายไป 11 คน บาดเจ็บและพิการอีกจำนวนมาก คนที่แขนขาดขาขาดไม่ใช่โดนฟ้าผ่า แต่มาจากอาวุธของตำรวจ

“ท่านพูดได้ยังไงว่าที่ท่านถูกกล่าวหานั้น กระทบขวัญกำลังใจของตำรวจ ท่านหมายความว่า ให้ตำรวจฆ่าคนได้โดยไม่ผิด โดยไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ไม่ถูกสอบสวน ตำรวจถึงจะมีขวัญกำลังใจใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นให้ญาติพี่น้องของท่านลองถูกฆ่าบ้างไหม

ท่านยังอ้างว่า ในวันนั้นตำรวจไม่ได้ใช้ความรุนแรง ก็อย่างที่ผมเรียน คนที่ตาย ตายเพราะลูกเห็บหรือไง ผมว่ามันเลอะเทอะ ผมถึงบอกว่าวันนี้เราพึ่งพาใครไม่ได้ พึ่งไม่ได้จริงๆ จึงอยากให้พี่น้องรวบรวมกำลังจิตใจกันเอาไว้ มีแต่เราเท่านั้นที่จะช่วยตัวเองได้”

นายสนธิกล่าวต่อว่า กรณีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท อ้างว่า การปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 7 ต.ค.เป็นการทำตามคำสั่งที่มีลายลักษณ์อักษรนั้น ในคำสั่งไม่ได้บอกให้ฆ่าคน เป็นแค่คำสั่งกว้างๆ ให้สลายการชุมนุม ซึ่งการสลายการชุมนุมก็มีหลายขั้นตอน คือเตือนก่อน แล้วใช้โล่ดัน หลังจากนั้นจึงใช้น้ำฉีด แล้วจึงใช้แก๊สน้ำตา ซึ่งต้องไม่ใช้แก๊สน้ำตาที่หมดอายุ ที่อื่นเขาใช้แก๊สน้ำตาแล้วไม่มีคนตาย ทำไมเมืองไทยมีคนตาย พฤติกรรมแบบนี้รับไม่ได้ โดยเฉพาะพฤติกรรมของ พล.ต.อ.พัชรวาท เรารับไม่ได้ เพราะเรามีผู้นำตำรวจที่ไม่ให้ความยุติธรรมกับประชาชน

ส่วนที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่าจะไม่อุ้มตำรวจ ทุกอย่างจะดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งการเสนอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนคดีพันธมิตร ก็บอกว่าจะดำเนินการตามกฎหมายนั้น นายสนธิกล่าวว่า อยากเตือนนายสุเทพว่า ที่ไปพูดที่ปทุมธานีว่าประเทศวุ่นวายเพราะคนเสื้อเหลืองกับเสื้อแดงนั้น คงเป็นการฟังรายงานจากฝ่ายความมั่นคง ซึ่งก็คือทหาร และทหารนั้นมองพันธมิตรฯ ว่าเป็นอันตรายต่อพวกเขา เพราะว่าคนเสื้อเหลืองปราบยาก เนื่องจากเป็นพวกที่มีอุดมการณ์ ขณะที่เสื้อแดงปราบง่าย แค่จับมือนายเนวินก็สลายได้แล้ว เพราะเสื้อแดงแค่อยากเอา พ.ต.ท.ทักษิณกลับ เขามองว่าในวันหน้าถ้าอดีตนายทหารมาเป็นรัฐบาลโดยจับมือนักการเมืองโกงชาติโกงแผ่นดินแล้ว เขากลัวพลังคนเสื้อเหลืองจะทำให้พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจ เขาจึงใช้ตำรวจมาจัดการคนเสื้อเหลือง

“ขอเตือนคุณสุเทพ ว่าที่ว่าท่านจะทำตามกฎหมายนั้นถูกต้อง แต่สิ่งที่พันธมิตรฯ ถาม ไม่ได้ต้องการให้คุณยกเลิกการดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ แต่เราถามมาเพื่อขอความยุติธรรม ซึ่งกฎหมายก็อนุญาตว่า ถ้าผู้สอบสวนเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ถูกกล่าวหา ความยุติธรรมตั้งแต่ต้นมันไม่มี ที่เราร้องเรียนก็ทำตามกฎหมาย”

จี้ย้ายเข้ากรุ

“ส่วนที่คุณสุเทพว่าจะทำตามกฎหมาย ก็ไม่รู้กฎหมายฉบับไหน ฉบับคุณเนวินกับคุณสุเทพนั่งคุยกันกับทหารที่จะเล่นงานพันธมิตร ไม่ให้เป็นพลังตรวจสอบในอนาคตหรือเปล่า มีข่าวว่าจดหมายร้องเรียนของพันธมิตรฯ ถึงนายกฯ อภิสิทธิ์ คุณสุเทพเป็นคนเก็บเอาไว้ใช่หรือไม่ จดหมายฉบับนั้นเราถามถึงกรณีที่คุณพัชรวาทถูกกล่าวหาว่าทุจริตสมัยที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็น ผบ.ตร. และได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนชี้มูลไว้แล้วว่า พล.ต.อ.พัชรวาท พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ และ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ได้กระทำความผิดจริง และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ทวงถามตั้งแต่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ต่อเนื่องถึงรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ถึง 5 ครั้ง และนายสมชายได้แทงเรื่องให้ย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทเข้าสำนักนายกฯ แล้วให้ตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อเอาผิดตามข้อกล่าวหา แต่มีการเปลี่ยนรัฐบาลก่อน และนายสุเทพเข้ามาดูแลเรื่องนี้แล้วเงียบไป

“อยากบอกคุณสุเทพว่า ถ้าท่านได้รับมอบอำนาจจากนายกฯ ท่านต้องตั้งกรรมการสอบสวนตามคำสั่งอดีตนายกฯ สมชาย และย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทเข้าสำนักนายกฯ ท่านจะทำไหม หรือท่านจะเกรงใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ท่านอย่ามัวแต่สัญญาว่าจะทำตามกฎหมาย และอย่าหาว่าผมเอาแต่เรื่องส่วนตัวมาพูด เพราะผมไม่มีเรื่องส่วนตัว” นายสนธิกล่าว

ส่วนกรณีที่ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เจ้าของฉายา “สากกะเบือ” ออกมาปกป้องตำรวจที่ถูก ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหานั้น นายสนธิ กล่าวว่าไม่อยากจะพูดอะไรมาก เพราะ ร.ต.ท.เชาวรินเป็นอะไรที่เฮฮามาก เป็นอดีตตำรวจ ซึ่งถ้าไล่ดูแล้ว อดีตตำรวจที่มาเล่นการเมืองมักมีปัญหามาก ร.ต.ท.เชาวรินอ้างว่านายสมชายไม่ได้สั่งการ และกล่าวหาว่าพันธมิตรฯ เตรียมยางรถยนต์เป็น 100 เส้น เพื่อมาเผาสภา แต่ตนไม่เห็นมียางสักเส้น มีแต่หนังสติ๊ก ร.ต.ท.เชาวรินพูดยิ่งกว่าไร้สาระ คนบางคนเริ่มจากพูดมีหลักฐานน่าเชื่อถือ แล้วก็ไปเล่นการเมืองไปเรื่อยๆ เพื่อรับใช้นายตัวเอง เพื่อเข้าไปมีผลประโยชน์ แล้วสามารถพูดขาวเป็นดำได้ เหมือนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายวีระ มุสิกพงศ์ คนพวกนี้พูดอะไรไม่เคยจำว่าเคยพูดอะไรไว้ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่คนๆ หนึ่งได้ฆ่าความน่าเชื่อถือของตัวเองลงไปเรื่อยๆ แล้วตัวเองก็กลายเป็นโมฆะบุรุษ เมื่อแก่ตัวลงเด็กรุ่นหลังที่พูดถึง ร.ต.ท.เชาวริน จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับวงศ์ตระกูลของเขา

เย้ย “เหลิม” แค่สร้างสีสันเลอะเทอะ

ต่อมา นายสนธิกล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า การที่นายวิทยา บูรณะสิริ ประธานวิปฝ่ายค้านขอเพิ่มวันอภิปรายคงจะไม่สำเร็จ และที่น่าสนใจการอภิปรายครั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิมอ้างว่ามีหลักฐานที่จะน็อกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเวลาจะอภิปราย ร.ต.อ.เฉลิมก็จะมีหลักฐานทุกครั้ง เพราะในชีวิตเขาเป็นนักโต้วาที ฝีปากกล้า เรียบเรียงเรื่องได้ดี แต่น่าเสียดายที่ขาดตรรกะ ซึ่งต้องเกิดจากองค์ความรู้ ในสภานั้นให้มีสีสันได้ แต่สีสันที่เลอะเทอะควรจะหมดไป น่าจะมีสีสันที่เอาข้อมูลใหม่มานำเสนอ โดยมีคำที่คมบาดลึก แล้วคงสาระไว้ แต่ในการเมืองไทยคงหายากมาก

เสื้อแดงทำเชียงใหม่ย่อยยับ

ต่อมานายสนธิกล่าวถึงม็อบเสื้อแดงว่า นายจตุพรได้บอกว่าจะมาเร็วขึ้น เพราะมีการเลื่อนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจเร็วขึ้น และจะแดงเถือกทั้งกรุงเทพฯ เหมือนเดิม แต่ถึงอย่างไรนายจตุพรก็รู้ว่าที่มาด้วยใจนั้นไม่เกิน 10-20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือถูกจ้างมาทั้งนั้น

นายสนธิกล่าวต่อว่า เมื่อวานได้พบกับรุ่นน้องที่เป็นนักธุรกิจที่เชียงใหม่ ซึ่งตอนนี้กำลังกลุ้มใจ เนื่องจากคนไปเที่ยวน้อยลงมาก เพราะม็อบเสื้อแดงออกอาละวาด เชียงใหม่จึงกลายเป็นเมืองอำมหิต ไม่น่ารัก ผลกระทบมันเสียหายลงลึกถึงวัฒนธรรม ความอ่อนหวาน นุ่มนวลของคนเชียงใหม่ถูกเสื้อแดงทำร้ายทำลาย จนคนหมดศรัทธา แต่ยังดีที่ขณะนี้มี พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ที่เป้ฯตำรวจพันธมิตรฯ ไปเป็นผู้บังคับการตำรวจเชียงใหม่ แต่สถานการณ์ก็ยังคุกรุน ภาพพจน์เชียงใหม่พังทลายลงหมดแล้ว ครูบาอาจารย์บางคนก็เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการล้มเจ้า แล้วเมืองเชียงใหม่จะเหลืออะไร คนเชียงใหม่หลายคนที่รักชาติแต่เขาเป็นพลังเงียบ ไม่กล้าแสดงออกเพราะกลัวเป็นเป้าพวกกุ๊ย

4 กลยุทธ์ป่วนชาติ “เพื่อแม้ว”

กรณีที่ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์อออกมาแถลงว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังรุก 4 ด้านเพื่อล้มรัฐบาลนั้น นายสนธิ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พันธมิตรฯ พูดมานานแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณใช้แนวรบทางการเมืองเพื่อก่อกวน ประสานกับการเคลื่อนไหวของมวลชนเสื้อแดง ใช้กระบวนการบางส่วนของข้าราชการ โดยเฉพาะตำรวจ สอดประสานกับสื่อมวลชนส่วนใหญ่ที่ทำทองไม่รู้ร้อน และแนวรบที่ 4 คือต่างประเทศ เช่นกรณีนายใจ โดยมีนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษาของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนวางแผนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งนายพันศักดิ์มีความสนิทสนมกับนายพอล แฮนลีย์ คนเขียนหนังสือ เดอะ คิง เนเวอร์ สไมล์ ที่มีเนื้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและมีสายสัมพันธ์กับสื่อต่างประเทศ

“แนวรบแบบนี้พันธมิตรฯ และผมรู้มานานแล้ว พรรคเพื่อไทยเขามีมวลชน อยากให้คุณหมอไปถามว่าประชาธิปัตย์มีมวลชนของท่านหรือเปล่า ท่านอาจจะเคยมี แต่ถ้ามีแล้วออกมาปกป้องอะไรท่านได้ไหม ธรรมดา เมื่อมีเสื้อแดงไปไล่ ถ้าท่านมีมวลชนต้องออกมาต้านม็อบเสื้อแดงแล้ว แต่ท่านไม่มี”

จี้หยุดขยายสนามบิน

สำหรับกรณีที่ ครม.อนุมัติเพิ่มวงเงินขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 1 อีก 1 หมื่นกว่าล้านบาท และนายอภิสิทธิ์ บอกว่า การย้ายบริการเที่ยวบินในประเทศของการบินไทยจากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิให้เป็นการตัดสินใจของการบินไทยเองนั้น เป็นการเข้าทางนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ซึ่งก็คือนายเนวิน ซึ่งก็น่าเห็นใจนายอภิสิทธิ เพราะอยู่ในช่วง ใกล้จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายเนวินก็ถือโอกาสยื่นเรื่องยื่นราว งบฯ ทางหลวงก็ขอ ก็ให้หมด เพื่อยืดเวลาการเป็นรัฐบาล แต่คำถามคือจะยอมได้แค่ไหน การโกงกินงไม่หยุด มันเข้าสู่ปอดตับ

กระทรวงคมนาคมใช้งบมหาศาล ในการขยายสนามบินสุวรณภูมิ รันเวย์ที่ 3 ใช้งบฯ อีก 7.5 หมื่นล้าน อยากให้กลับไปคิดให้ดีๆ ว่าจริงๆ แล้วเราจะไปรอดหรือกลับสู่หุบเหวแห่งหายนะกันแน่

ติง “สาทิตย์” ชักช้ารื้อช่อง 11

ต่อมานายสนธิกล่าวถึงการปรับปรุงสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 หรือเอ็นบีทีว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ทำเรื่องนี้ด้วยความระมัดระวังมากเกินไป เวลานี้ไม่ใช่เวลาของการปฏิรูปสื่อ แต่เป็นช่วงสงคราม จะไปค่อยๆ ทำไม่ได้ เวลาไฟไหม้บ้าน ต้องดับไฟทันที ไม่ใช่มัวแต่ไปเตรียมตัว ไม่ต้องกลัวเฟอร์นิเจอร์เปียก จะต้องทุบผนังก็ต้องทุบ ไฟในที่นี้คือไฟแห่งการเข้าใจผิด และถ้าจะปฏิรูปต้องไม่ทำเฉพาะช่อง 11 เท่านั้น เพราะช่อง 11 คนดูค่อนข้างน้อย

จี้ กบข.โปร่งใส-เปลี่ยนตัวผู้บริหาร

นายสนธิกล่าวถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่ขาดทุนจากการเล่นหุ้นและตราสารหนี้ว่า ตนเป็นคนเปิดเรื่องนี้เป็นคนแรก และอยากให้ กบข.บริหารด้วยความโปร่งใส สำหรับนายพิสิฐ ตันติสุนทร ผู้บริหาร กบข.ซึ่งมาจากเอไอจี บริหารกองทุนโดยไม่โปร่งใส เงิน กบข.นั้นมาจากเงินบำนาญที่ข้าราชการทำงานมาตลอดชีวิต เมื่อจะเอาไปลงทุน ต้องมีรายละเอียดบอกสาธารณะ แต่กองทุน กบข.เอาเงินไปลงทุนในหุ้นปั่น คนในกองทุนกับคนปั่นหุ้นจับมือกัน โดยมีคนในตลาดหลักทรัพย์ร่วมมือด้วย หรือไม่ก็เอาเงินไปลงทุนในตราสารหนี้กับบริษัทอย่างเลแมนส์ บราเธอร์ส ที่เจ๊งไปแล้ว ซึ่งถ้าตรวจสอบให้ดีๆ กบข.อาจไม่เจ๊งแค่ 7 หมื่นล้าน น่าจะถึง 1 แสนล้านด้วยซ้ำ

“กระบวนทัศน์หรือความคิดของ กบข.นั้นดี แต่การบริหารขาดความโปร่งใส เมื่อวานเครือข่าย กบข.ที่เป็นครู ก็มาเรียกร้องที่ทำเนียบให้ยกเลิก กบข. แต่ผมว่าไม่ต้องยกเลิกก็ได้ ให้เปลี่ยนตัวผู้บริหารก็พอ เพราะไม่โปร่งใส แล้ว นอกจากนี้ต้องบังคับให้มีความโปร่งใสทุกบาทสตางค์ เอาไปทำอะไรต้องชี้แจงให้ชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีข้อเรียกร้องให้ผู้บริหารชดใช้ค่าเสียหาย เพราะฉะนั้นคุณพิสิฐ ความหล่อความเท่ของคุณ ถึงจุดจบแล้ว ผมเตือนหลายครั้งแล้ว”

หวั่นหนุนส่งออกทิ้งเงินเปล่า-แนะปล่อยกู้ ดบ.ต่ำ พยุงธุรกิจในประเทศ

นายสนธิได้ให้ความเห็นต่อการที่รัฐบาลผลักดันแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจอีก 1.4 ล้านล้านบาท โดยใช้งบประมาณผูกพันไปอีก 2 ปี ว่า มีความเป็นห่วง อยากให้เงินลงไปสู่เอสเอ็มอีมากกว่า ให้ธุรกิจระดับเล็กระดับกลาง มีเงินกู้ราคาถูก ไม่โดนขูดรีดจะดีกว่า ไม่อยากให้ไปเอาใจธุรกิจขนาดใหญ่หรือธุรกิจส่งออก เพราะประเทศที่เสียหายมากนั้นส่วนใหญ่พึ่งพาการส่งออกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ ญี่ปุ่น หรือไต้หวัน เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรไปส่งเสริมการส่งออก ควรจะดูว่าธุรกิจใดบ้างที่เติบโตได้โดยไม่พึ่งการส่งออก ก็ไปสนับสนุนธุรกิจนั้น เพราะถ้ายิ่งใส่เงินเข้าไปในธุรกิจส่งออกจะยิ่งเสีย เนื่องจากยอดส่งออกที่ลดลงไปนั้น เกิดจากประเทศผู้ซื้อไม่มีกำลังซื้อ ไม่ใช่ยอดตกเพราะไม่ส่งเสริม ตอนนี้ประเทศต่างๆ ทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเชีย ต่างก็ทุ่มเงินลงไป เพื่อให้การส่งออกฟื้นตัว ซึ่งถ้าฟื้นก็จะฟื้นในวงจรอุบาทว์เดิม อีกไม่นานก็จะมีปัญหาอีก

“อยากให้รัฐบาลยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงจริงๆ ไม่ใช่พอเพียงแต่ปาก อยากให้หยุดขยายเฟส 1 สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะใช้ไปแล้ว 1 แสนกว่าล้าน แล้วเงินที่ลงไปที่ดอนเมือง 1 แสนล้านจะเอาไว้ทำอะไร อยากให้หยุดการใช้เงินที่ไม่จำเป็นก่อน ตอนนี้พวกทักษิณมันกินไปหมดแล้ว และยังจาบจ้วงเบื้องสูง รัฐบาลใหม่เข้ามาบอกว่าไม่จาบจ้วงแล้ว แต่ขอกินต่อได้ไหม นี่ไงเหตุผลที่เขาเกลียดพันธมิตรฯ”

จวก ตร.ชั่วอุ้มฆ่า “สมชาย”

ต่อมานายสนธิกล่าวถึงนางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของนายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายเพื่อชาวมุสลิม ได้ไปยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งให้นายสมชายเป็นบุคคลที่หายสาบสูญเพื่อให้สามารถจัดการกับกรรมสิทธิ์ต่างๆ ได้ ว่า นางอังคณาเป็นคนที่จิตใจแข็งแกร่ง สามีสู้เพื่อความเป็นธรรมแต่ถูกทำลายโดยตำรวจชั่วๆ ไม่กี่คนที่โกรธนายสมชายซึ่งได้ว่าความให้ผู้ต้องหาชาวมุสลิมในภาคใต้และหลุดทุกคดี เพราะตำรวจสร้างหลักฐานเท็จ และมีบางคดีที่อนุกรรมการของ ป.ป.ช.ทำการสอบสวนได้ข้อสรุปแล้วว่าตำรวจมีความผิด แต่เรื่องยังค้างอยู่ไม่เข้า ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ซึ่งถ้า ป.ป.ช.ชุดใหญ่ชี้มูลจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกไล่ออกทันที

“เพราะฉะนั้น ที่ท่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาลพูดเมื่อวันก่อนว่า ตำรวจพูดอะไรก็ไม่มีใครเชื่อนั้น ก็จะเชื่อได้ไง ในเมื่อพวกคุณชั่ว กลั่นแกล้งประชาชน แล้วตำรวจถ้าไม่ชั่วหรือไม่มีลูกน้องทำชั่วให้ก็ไม่ได้เป็นใหญ่เป็นโต บอกได้เลยว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของปัญหาบ้านเมือง เกิดเพราะตำรวจ” นายสนธิกล่าว

ยกดาราเกาหลีรักศักดิ์ศรียอมฆ่าตัวตาย

ในช่วงท้ายรายการ นายสนธิกล่าวถึงข่าว จองจายอน ดาราเกาหลีฆ่าตัวตายว่า เป็นการฆ่าตัวตายเพราะตรอมใจที่ถูกบังคับให้ไปหลับนอนกับผู้กำกับ และผู้ผลิตรายการ ซึ่งก็เคยมีกรณีอย่างนี้เกิดขึ้นมาแล้ว ประเด็นอยู่ที่ว่า อย่างน้อยที่สุด ดาราเกาหลีก็มีคุณธรรม รักศักดิ์ศรีตัวเอง เมื่อถูกบังคับก็โดนคุณธรรมสั่งว่า ไม่ได้แล้ว ต้องพิสูจน์อะไรบางอย่าง คือฆ่าตัวตายเพื่อให้สังคมได้เห็น ตรงกันข้ามกับดาราไทยที่พร้อมจะนอนกับเจ้าของสถานี หรือผู้กำกับ เพื่อให้ตัวเองได้เป็นดารา เรื่องศักดิ์ศรีนี้คนเกาหลียอมไม่ได้ เหมือนกับพันธมิตรฯ ที่ต้องออกมาเรียกศักดิ์ศรีให้กับคนไทย



กำลังโหลดความคิดเห็น