“โฆษกมาร์ค” ยืนยันออกซฟอร์ดเมืองผู้ดี ตอบรับเปิดเวทีให้นายกฯ ขึ้นปาฐกถาแล้ว ท้า “ใจ” อย่าหัวหดออกมารับฟังข้อมูลแฉ “ลี โจนส์” เป็นนักเคลื่อนไหวและอยู่ในขบวนการเดียวกันหวังดิสเครดิตนายกฯ
วันนี้ (12 มี.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ออกมาให้ข้อมูลว่ามหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ไม่ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปปาฐกถาในหัวข้อประชาธิปไตยในประเทศไทย โดยให้เหตุผลว่านายอภิสิทธิ์ได้รับตำแหน่งนายกฯ มาโดยไม่ชอบธรรมว่า เรื่องนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของนักวิชาการเพียงคนเดียวคือ นายลี โจนส์ ที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดของนายอภิสิทธิ์ ทั้งนี้ ตนทราบเรื่องนี้มานานแล้ว และได้มีการสืบประวัติพบส่านายลี โจนส์ เป็นนักเคลื่อนไหวในแถบพม่า และประเทศไทย ซึ่งมีความสนิทสนมกับนายใจ อึ๊งภากรณ์ ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่าเป็นความพยายามของนายใจ และนายลี โจนส์ อย่างไรก็ตาม การคัดค้านไม่ให้นายอภิสิทธิ์ปาฐกถาไม่เป็นผล เพราะทางมหาวิทยาลัยได้ตอบรับมาเรียบร้อยแล้ว การปาฐกถาครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี ถ้าหากนาย ใจมาร่วมรับฟังจะได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและทำความเข้าใจด้วย
นายเทพไทกล่าวอีกว่า การออกมาให้ข้อมูลของพรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นการดิสเครดิตของนายอภิสิทธิ์ และสร้างความไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งมีการทำกันเป็นขบวนการที่จะอาศัยความแตกแยกระหว่างประเทศไทยกับต่างชาติ โดยใช้แผนโลกล้อมประเทศไทย เหมือนที่เคยทำมาแล้วในการสร้างความแตกแยกใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนกลายมาเป็นความแตกแยกระดับชาติ
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงการยื่นถอดถอนนายกฯ ว่า ไม่แน่ใจว่าพรรคเพื่อไทยร่างขึ้นเองหรือว่าได้รับแฟกซ์มาจากไหน แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นแฟกซ์ที่มาจากประเทศแถบอาหรับ เนื่องจากมีหัวแฟกซ์เป็นเหมือนภาษาอาหรับ ทั้งนี้ อยากให้พรรคฝ่ายค้านทบทวนข้อกล่าวหาทั้ง 7 ข้อ เพราะอย่างน้อย 2 ข้อไม่น่าจะเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินในปัจจุบัน โดยเฉพาะข้อ 1 การที่ไม่ส่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลงแข่งเลือกตั้ง และข้อ 4 การจงใจฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคการเมืองโดยไม่เปิดเผยการรับเงินสนับสนุนพรรคจากบริษัทมหาชน ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547
“ขณะนี้รัฐบาลกำลังรอพรรคเพื่อไทยยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีว่าจะมีกี่คน แต่ถ้าปล่อยให้รอนานไปอีก 1 เดือน เชื่อว่าจะมีการอภิปรายรัฐมนตรีให้ครบ 36 คน อยากตั้งฉายาการยื่นญัตติของเพื่อไทยว่าเป็นญัตติตัดแปะตัดปะ เนื่องจากนำเนื้อหาที่ถูกตัดมาจากหน้าหนังสือพิมพ์มาอภิปราย” นายเทพไท กล่าว
