“อภิสิทธิ์” แจงเหตุอัยการสูงสุดเข้าหารือแจ้งปัญหาตามล่า “นช.แม้ว” ล่าช้า เพราะไม่มี กม.ลูกรองรับการปฏิบัติงาน ปฏิเสธพูดถึง “แม้ว” ที่อังกฤษ ชี้ “ใจ” แค่คนไทยคนหนึ่งต้องทำตาม กม.ลั่นปฏิรูป กม.หมิ่นฯ รอพิจารณาแก้การบังคับใช้
วันนี้ (11 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังอัยการสูงสุดเข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้าในช่วงเช้า ว่า เป็นเรื่องปัญหาของสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งสถานะได้เปลี่ยนแปลงไปตามรัฐธรรมนูญ และต้องมีกฎหมายออกมารองรับภายใน 1 ปี หลังจากที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ แต่กฎหมายนี้ยังไม่ออก จึงมีการมาซักซ้อมในแนวปฏิบัติว่าจะทำอย่างไร เวลาที่เขาเสนอเรื่องต่างๆ เพื่อขอความเห็นชอบจากรัฐสภา หรืออะไรต่างๆ
ผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับการที่นายกฯ จะเดินทางไปร่วมประชุม G20 ที่ประเทศอังกฤษ หรือไม่ เรื่องการส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาดำเนินคดี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทางอัยการได้นัดกับตนมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เพราะเป็นปัญหาอุปสรรคการปฏิบัติตามกฎหมายและมีเรื่อง อัตรากำลังรวมถึงเรื่องอะไรต่างๆ ซึ่งทางอัยการไม่สามารถทำเองได้ เพราะกฎหมายยังไม่ออก ยังต้องรออยู่ ซึ่งในช่วงแรกที่ตนเข้ามา ทางสำนักงานอัยการสูงสุดก็ขอเรื่องมาครั้งหนึ่งแล้ว ตนเห็นว่าควรเร่งทำกฎหมายนี้ให้เสร็จ จะได้เข้าระบบ เพราะมีผลกระทบในการทำงาน ทางอัยการจึงต้องขอใช้แผนชั่วคราวไปก่อน
เมื่อถามว่า การเดินทางไปอังกฤษครั้งนี้จะขอให้ทางอังกฤษส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าอังกฤษไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนกรณีของ นาย ใจ อึ๊งภากรณ์ ที่เวลานี้อยู่ประเทศอังกฤษ ขณะนี้ทาง นายกษิต ได้ดูข้อประเด็นกฎหมายต่างๆอยู่ และจะแจ้งให้ตนทราบ เมื่อถามว่า นายใจ มีการประสานขอพบนายกฯที่อ๊อกฟอร์ด หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าจะไปหรือไม่
“เหมือนกับคนไทยคนหนึ่ง แต่ตอนนี้เข้าใจว่า นายใจคงจะใช้สัญชาติอังกฤษ และต้องบอกว่า ทุกคนที่อยู่เมืองไทย ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการปฏิรูปกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามข้อเสนอของนักวิชาการบางส่วน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้คุยเบื้องต้นกับนักวิชาการบางส่วน ยังยืนยันในจุดที่ว่า ปัญหาขณะนี้อยู่ที่การบังคับใช้และการบังคับใช้คงต้องหาวิธีการที่จะทำให้เกิดความชัดเจน ต้องไม่เป็นปัญหาข้อโต้แย้ง ซึ่งนำไปสู่ปัญหาที่เป็นผลกระทบกับทุกๆ ฝ่าย ฉะนั้น ถ้าตรงนี้หาแนวทางจัดการเรื่องการบังคับใช้ได้จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แม้แต่กรณีการสั่งปิดเว็บไซต์ประชาไท วันนี้ตนได้นัดกลุ่มที่เคลื่อนไหว สิทธิเสรีภาพของพลเมืองเน็ต มาคุยกันที่สภา
เมื่อถามว่าการบังคับใช้ประเด็นไหน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องการตีความและขั้นตอนในการดำเนินการ อย่างเรื่องของอัยการ ขณะนี้มีข้อความที่ร้องเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่ปรากฏในเว็บไซต์ต่างชาติ ก็ระบุว่า เป็นเรื่องที่อัยการโดยพนักงานสอบสวน ทำเรื่องล่าช้าและเกี่ยวกับชาวต่างชาติ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดจนถูกหยิบยกเป็นเงื่อนไขการโจมตี
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามักจะใช้ประเด็นนี้ตั้งข้อหาพร่ำเพรื่อ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากมีการทำความเข้าใจชัดเจนเรื่องขอบเขตและกระบวนการ ก็น่าจะลดลง แต่ที่ผ่านมาเป็นปัญหาที่ว่า ใครก็สามารถร้องเรียนได้ ซึ่งการร้องกระบวนการไม่ชัดเจนล่าช้า ยืดเยื้อ ส่งผลกระทบกับทุกฝ่าย ตรงนี้คือจุดปัญหา ไม่ใช่สาระของกฎหมาย
เมื่อถามว่า มีคนร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำนวนมากหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษเยอะ แต่การสะสางล่าช้า ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีหน่วยงานเข้ามาทำหน้าที่รับเรื่องพิเศษหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็พูดกันอยู่ เพราะจะเกี่ยวกับกฎหมายวิธีการพิจารณาความอาญาต่างๆ มีข้อจำกัดตรงนั้นอยู่ แต่แนวปฏิบัติสามารถปรับปรุงได้ ซึ่งเป็นเรื่องการบริหารภายในของพนักงานสอบสวน
