กกต.ชี้ช่องพรรค “เพื่อแผ่นดิน” สามารถจัดประชุมเลือกหัวหน้าพรรค-กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ใหม่ในวันที่ 21 มี.ค.ได้ไม่ต้องรอผลสอบสวนอนุ กกต. เสนอหาทางออกให้แนวคิดทั้ง 2 ฝ่ายเจรจากัน
วันนี้ (11 มี.ค.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อแผ่นดินจะประชุมใหญ่พรรคในวันที่ 21 มี.ค. เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยไม่รอผลชี้ขาดของ กกต.ในเรื่องที่นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รักษาการณ์หัวหน้าพรรค ยื่นเรื่องให้ กกต.วินิจฉัยว่าผลการประชุมเลือก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นหัวหน้าพรรคไม่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับพรรคว่า ที่แล้วมายังเป็นปัญหาที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างยืนยันว่าการดำเนินการประชุมถูกต้อง ซึ่งก็จะเร่งรัดเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการอย่างเร็วที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องรอการพิจารณาข้อขัดแย้งที่อนุกรรมการสอบสวนดำเนินการอยู่ หากสิ่งไหนดีก็ดำเนินการไป สามารถดำเนินการพร้อมๆ กันได้ อย่างไรก็ตาม กกต.ยังมีแนวคิดที่จะให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจาตกลงกัน
“เมื่อวานผมได้เจอ ส.ส.ที่อยู่ในพรรคเพื่อแผ่นดินในงานเลี้ยง ก็ได้สอบถามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว ซึ่งผมก็รับปากว่าจะเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้เร็วที่สุด”
เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อแผ่นดินจัดประชุมเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ กกต.จะถือว่าการประชุมครั้งใดถูกต้อง นายอภิชาตกล่าวว่า ก็ต้องดูตามกฎหมาย การประชุมครั้งไหนถูกต้องตามกฎหมายก็ต้องยึดตามนั้น ทั้งนี้ยอมรับอาจต้องส่งเรื่องให้นี้ศาลยุติธรรมวินิจฉัย
ขณะที่ นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า เห็นด้วยกับประธาน กกต.ว่าพรรคเพื่อแผ่นดินสามารถจัดการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ได้ โดยไม่รอการวินิจฉัยของ กกต. แต่ก็ขึ้นอยู่กับนายทะเบียนพรรคการเมืองว่าจะเซ็นรับรองผลการประชุมดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่านายทะเบียนพรรคการเมืองยังไม่สมควรเช็นต์รับรอง ผลการประชุมครั้งใหม่ของพรรคเพื่อแผ่นดิน เนื่องจากยังมีปัญหาข้อพิพาทภายในพรรคกันอยู่ ซึ่งนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รักษาการณ์หัวหน้าพรรคก็เป็นผู้ยื่นเรื่องมาให้ กกต.วินิจฉัยเองว่าผลการประชุมเลือก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นหัวหน้าพรรคไม่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับพรรค ทั้งนี้ หากมีการจัดประชุมใหม่และผลการวินิจฉัยของ กกต.ออกมา กกต.จะต้องรับรองผลการประชุมครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม นางสดศรียอมรับที่สอบสวนช้าเพราะทั้งสองฝ่ายต่างอ้างพยานกว่า 20 ปาก และไม่สามารถตกลงกันได้ จึงต้องสอบพยานคนกลางและต้องลงพื้นที่สอบพยานคนกลาง ทำให้ใช้เวลานาน แต่เชื่อสัปดาห์หน้าอนุกรรมการฯ จะส่งผลสรุปให้ที่ประชุม กกต.พิจารณา
