“เทพเทือก” ปฏิเสธแตกคอ “สนธิ” ระบุไม่มีบุญคุณต่อกัน พร้อมน้อมรับคำแนะนำ เชื่อไม่ซ้ำรอยรัฐบาลทักษิณ อ้างแค่ความไม่ชอบส่วนตัวไม่ใช่เหมารวมทั้งรัฐบาล แจง ตร.หมายเรียก 21 พธม.บุกรัฐสภาถือว่าเป็นไปตามขั้นตอน อ้างโยกย้ายใน มท.เพื่อความเหมาะสมไม่สนถูกจับผิดโยกนอกฤดูกาล
วันนี้ (10 มี.ค.) จากกรณีที่มีการอ้างแหล่งข่าวในพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) โจมตีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงมากเป็นพิเศษ เนื่องจากที่ผ่านมามีความพยายามจากแกนนำพันธมิตรฯ บางคนได้ประสานมายังนายสุเทพเพื่อหารือเรื่องการโยกย้ายข้าราชการตำรวจ แต่ได้รับการปฏิเสธจากนายสุเทพตลอดมา โดยเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมาแกนนำพันธมิตรฯ คนหนึ่งติดต่อเพื่อขอพูดคุยกับนายสุเทพ เพื่อจะเสนอชื่อนายตำรวจให้ได้รับการโยกย้ายช่วงเดือนเมษายนด้วย แต่เมื่อถึงเวลานัดนายสุเทพกลับไม่มาจึงทำให้แกนนำพันธมิตรฯ ไม่พอใจ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่เคยมีอะไรกับพันธมิตรฯ ตั้งแต่เริ่มต้นจนมาถึงเดี๋ยวนี้ ไม่มีอะไร และเรียนว่า ตนไม่ใช่คนเป็นปัญหากับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรฯ หรือเป็นใคร ตนก็มีหน้าที่ที่จะดูแลรับใช้ตามสามารถของตน ในฐานะที่เป็นนักการเมืองใครก็ใช้สอยไหว้วานพึ่งพาตนได้ แต่ว่าการที่ตนจะปฏิบัติอะไรต้องคำนึงประโยชน์ของบ้านเมืองโดยส่วนรวมเป็นสำคัญ เพราะฉะนั้นจะถูกใจคนบ้าง ไม่ถูกใจคนบ้างก็เป็นเรื่องปกติ ตนก็เข้าใจดีว่าอยู่ฐานะอย่างตนก็ไม่สามารถจะทำอะไรให้ถูกใจคน ทุกฝ่ายทุกคนได้ ตนก็เป็นอย่างนี้เอง
เมื่อถามว่าอยู่ดีๆ มาสั่งให้ย้าย พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย แต่อยู่ดีๆ กลุ่มคนเหล่านี้จะมาชี้ย้ายคนนั้นคนนี้ไม่เป็นการทำลายขวัญกำลังใจ นายสุเทพ กล่าวว่า การโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการเราก็พิจารณาตามความเหมาะสม ดูว่าอยู่ตรงไหนจะเป็นประโยชน์กับราชการมากกว่ากัน และดูว่าการโยกย้ายแต่งตั้งนั้นยังทำให้หน่วยงานนั้นทำงานได้ปกติ ผู้ปฏิบัติงานยังทำงานได้ปกติ ถือประโยชน์ทางราชการเป็นสำคัญ ไม่ต้องกังวลใจ ใครขออะไรได้ แต่เราก็ทำในเรื่องที่สมควร
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวว่าอาจจะมีการโยกย้ายข้าราชการหลายคนในกระทรวงมหาดไทย ถือว่าเป็นการโยกย้ายผิดฤดูกาลหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ก็แล้วแต่ทางเจ้ากระทรวงเขาต้องการให้งานที่รับผิดชอบบรรลุเป้าหมายเกิดความสำเร็จ เขาอาจจะต้องมีการปรับปรุงโยกย้ายแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ในระดับต่างๆ ก็เป็นปกติ งานที่จะดูแลประชาชนก็ต้องทำแข่งกับเวลา เมื่อถามต่อว่า แต่ดูเหมือนว่านายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธิมิตรฯพูดตอกย้ำหน้าสาธารณะชนหลายครั้งว่า รัฐบาลนี้อาจจะเจ๊งเพราะพรรคประชาธิปัตย์ไปจับมือกับนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และมีความพยายามล็อกจับตัวแกนพันธมิตรฯ ตรงนี้จะชี้แจงอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ขอกราบเรียนตรงนี้ว่าตนไม่เคยมีปัญหากับคุณสนธิ
“ผมไม่เคยทำอะไรให้เขา และเขาก็ไม่เคยทำอะไรให้ผม ส่วนเรื่องพันธมิตรฯ ผมก็ให้เคารพความคิดความเห็นของเขาในทางการเมืองกับประชาชนที่เป็นกลุ่มพันธมิตรฯ และเอาใจช่วยมาตลอด ต้องเรียนตามตรง แต่ผมไม่ได้เข้าไปสนับสนุนอะไรกลุ่มพันธมิตรฯ และผมก็ไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรตามที่คุณสนธิพูด แต่ว่าให้ความนับถือในฐานะที่เป็นสื่อมวลชนแขนงหนึ่ง เมื่อคุณสนธิตำหนิผม ก็ได้มาสำรวจตัวเองว่าผมทำอะไรบกพร่องอย่างนั้นหรือไม่ กรณีที่ตำรวจออกหมายเรียกกลุ่มพันธมิตรฯ 21 คนที่บุกทำเนียบ มันก็เป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาสอบสวนมาตั้งนาน พอที่จะมีพยานหลักฐานตั้งข้อหาใครบ้าง เขาก็ออกหมายเรียกไป ผมคิดว่าตำรวจก็ทำตามเนื้อผ้าแล้วนะครับ เมื่อก่อนมีข่าวว่าจะมีหมายจับด้วยซ้ำไป จริงๆแล้วเขาก็ทำตามปกติ ผมเองก็ทักท้วงว่าต้องทำตามเกณฑ์ปกติ ไม่ใช่ว่าชอบใครไม่ชอบใครก็ทำเกินไปกว่าเหตุได้ ผมก็เห็นตำรวจทำตามปกติ และผมก็ไม่ได้มีเจตนาอะไร บางคนก็กล่าวหาว่าไปจับพันธมิตรฯเพราะถูกกดดัน ไม่ใช่เราทำตามเนื้อผ้า ถึงฝ่ายเสื้อแดงทำผิดผมก็ต้องให้ตำรวจดำเนินการ”
เมื่อถามว่า ตรงนี้จะเป็นอุปสรรคการบริหารงานรัฐบาลหรือไม่ เพราะพันธมิตรฯ ทำอะไรในลักษณะขี่คอทวงบุญคุณพรรคประชาธิปัตย์ว่าที่ได้เป็นรัฐบาลเพราะพันธมิตรฯ ตลอดเวลา นายสุเทพกล่าวว่า ที่จริงพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนก็มีบุญคุณกับพรรคประชาธิปัตย์ทั้งนั้น ก็ทวงได้ พวกตนก็ต้องรับฟังและปฏิบัติให้อยู่ในกรอบบนความถูกต้อง การมาเป็นรัฐบาลในภาวะที่บ้านเมืองเป็นอย่างนี้มีแรงกดดันเป็นธรรมดา บ้านเมืองเราอยู่ในช่วงที่มีวิกฤตการณ์ทางการเมือง เราก็ต้องเจอหลายรูปแบบ เพราะฉะนั้นเราต้องหนักแน่นอดทนเอาไว้
“ผมทำงานการเมืองก็เดินอยู่ในที่โล่งๆ เพราะฉะนั้นทุกท่านก็จะต้องเห็นทุกภาพการเคลื่อนไหวของผม ถ้ามีอะไรไม่ถูกต้องไม่เหมาะสมก็กรุณาช่วยให้คำแนะนำ ผมก็พยายามแก้ไขปรับปรุง เพราะไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ผมถือว่าผมมาทำงานเพื่อบ้านเมือง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พันธมิตรฯ ประกาศตั้งพรรคการเมืองถึงกับมีการบอกว่าลมอาจจะเปลี่ยนทิศ ภาคใต้พรรคประชาธิปัตย์อาจจะแย่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนคงไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ ขออนุญาตวิจารณ์ธรรมดาว่า ยินดีถ้าเขาตั้งพรรคการเมือง เพราะว่าถ้าทุกฝ่ายเข้ามาทำงานทางการเมืองตามกรอบเกณฑ์กติกาที่รัฐธรรมนูญกฎหมายกำหนดไว้ บ้านเมืองก็จะเรียบร้อยขึ้น
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าการประชุมพรรควันนี้จะมีการนำเรื่องที่พันธมิตรฯตั้งพรรคเข้าหารือด้วย นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มี การประชุมพรรคประชาธิปัตย์ประจำสัปดาห์หนึ่งจะให้รัฐมนตรีรายงานว่าได้ทำอะไรไปบ้าง เป็นผลงานของรัฐบาลอย่างไร เพื่อให้ ส.ส.ของพรรคได้รับทราบและนำไปบอกเล่าให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ และเป็นการสะท้อนปัญหาของประชาชน เพื่อรมต.รัฐบาลเอาไปแก้ไข และว่าด้วยเรื่องการประชุมในสภา และอาจจะแถมการวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมือง ที่โดยปกติเป็นเรื่องของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ก็มีวาระอย่างนี้อยู่เป็นประจำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของนายสนธิจะเป็นการซ้ำรอยเหมือนสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ พอขัดแย้งกันก็มาขับไล่รัฐบาล จนรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ไม่ได้ นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่หรอกครับ อยากมองโลกในแง่ร้าย เราก็มองโลกในแง่ดี
“ผมคิดว่าการที่คุณสนธิออกมาตำหนิผมคนเดียว ไม่ใช่เรื่องที่เขาไม่ชอบรัฐบาล แต่เป็นเรื่องที่เขาไม่ชอบผม และเขาก็อยากจะแนะนำสั่งสอนผม ผมก็น้อมรับคำแนะนำสั่งสอน” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยกับนายสนธิหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ เพราะตนก็ไม่เคยคุยอะไรกับเขามาก่อน
