“นักข่าวสภา” ยื่นหนังสือต่อ “ปธ.สภาฯ” จี้เอาผิดกับ “นิสิต” ส.ส.พปช. ที่พาแก๊งถ่อยบุกรัฐสภา คุกคามสื่อ
วันนี้ (27 พ.ค.) กลุ่มตัวแทนผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เพื่อให้ออกระเบียบเรื่องการอนุญาตให้สมาชิกรัฐสภานำบุคคลภายนอกมาใช้ห้องสื่อมวลชนแถลงข่าว พร้อมกับแนบรายชื่อผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาทั้ง 36 คนด้วย โดยในหนังสือระบุถึงเหตุการณ์ที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งประกอบด้วยนายจรัล ดิษฐาอภิชัย นพ.เหวง โตจิราการ นายชินวัตร หาบุญพาด และนายสุชาติ นาคบางไทร ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 พ.ค.โดยอ้างถึงการใช้สิทธิของนายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน ซึ่งนายสุชาติได้แสดงความไม่พอใจ พร้อมกับนำกล้องดิจิตอลส่วนตัวขึ้นมาถ่ายภาพผู้สื่อข่าว โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวที่ยิงคำถาม โดยอ้างว่าต้องการรู้จักใบหน้าและศึกษาประวัติ และในช่วงคืนของวันที่ 26 พ.ค.แกนนำกลุ่มต่อต้านพันธมิตรได้ขึ้นเวทีพร้อมกล่าวปราศรัยในทำนองว่าถ้าเห็นหน้ากลุ่มผู้สื่อข่าวที่ซักถามที่รัฐสภาจะหวดทันที
จากพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาจากสำนักต่างๆ ได้หารือกันเห็นว่าขณะนี้สถานการณ์การเมืองมีความขัดแย้งแบ่งเป็นขั้วและมีแนวโน้มจะนำไปสู่ความรุนแรงได้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายเคารพการทำหน้าที่ซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะการเคารพต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนตามหลักจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ แต่พฤติกรรมดังกล่าวข้างต้นเห็นว่าเข้าข่ายการคุกคามข่มขู่สิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนทำให้ไปปลอดภัยในการทำงานและจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่จะรายงานข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบ ดังนั้นจึงขอให้ประธานรัฐสภากำชับสมาชิกรัฐสภาที่จะนำบุคคลภายนอกมาใช้ห้องแถลงข่าวต้องแสดงความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้แถลงข่าวทีอาจเกิดขึ้นได้และขอให้สร้างหลักประกันในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนว่าจะไม่ถูกคุกคามใดๆ
ทั้งนี้ นายชัยได้รับเรื่องและสั่งให้นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรับไปดำเนินการ โดยให้ออกระเบียบ 3 ข้อ คือ 1.ให้สมาชิกรัฐสภาต้องรับผิดชอบในการนำบุคคลภายนอกเข้ามาแถลงข่าวในห้องสื่อมวลชนและต้องอยู่รับฟังแถลงข่าวจนจบ 2.ห้ามบุคคลที่มาแถลงข่าวนำกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายภาพสื่อมวลชน และ3.ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรัฐสภาดูแลความเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามนายชัยได้หารือกับสื่อมวลชนว่า จะทำอย่างไรให้กลุ่มพันธมิตรฯเข้ามาใช้เวทีของสภาในการแก้ปัญหา เพราะได้ยื่นถอดถอนส.ส. ส.ว.แล้วก็ถือว่าจบ ควรเล่นกันตามกติกา จะเกิดประโยชน์และไม่สร้างปัญหาต่อบ้านเมือง
ขณะที่ น.ส.นาตยา เชษฐโชติรส นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ทางสมาคมฯได้ติดตามข้อมูลด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง ซึ่งสมาคมมีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของนักข่าวรัฐสภาว่า ได้ทำหน้าที่ในการหาข้อมูลข่าวสารด้วยความเที่ยงธรรมต่อวิชาชีพสื่อ ดังนั้นทางสมาคมฯขอให้กำลังใจในการยืนหยัดทำหน้าที่ให้ดีที่สุดต่อไป แต่ขณะเดียวกันจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงมากในขณะนี้ ก็เป็นที่คาดหมายว่าการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนจะมีความลำบากมากยิ่งขึ้น รวมทั้งอาจเกิดการกระทบกระทั่งกับบางฝ่ายที่ไม่เข้าในบทบาทหน้าที่ของสื่อได้ “ดังนั้นสมาคมฯจึงใคร่ขอให้เพื่อนพ้องน้องพี่ผู้สื่อข่าว ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และที่สำคัญในการซักถามแหล่งข่าวที่เป็นคู่กรณีความขัดแย้ง ซึ่งอาจจะเจอกับการใช้อารมณ์รุนแรงดังกรณีที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ก็ขอให้ใช้ท่าทีที่สุภาพ อย่าใส่อารมณ์ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องยืนหยัดในหลักการที่จะแสวงหาความจริงจากผู้ที่ให้สัมภาษณ์ให้ได้มากที่สุดเช่นกัน