“สนธิ” ตำหนิ “จอน” เป็นเจ้าของ “เว็บไซต์ประชาไท” แต่กลับอ้างไม่รู้เรื่อง “โจร” หมิ่นสถาบันกษัตริย์ ก่อนถามหาจุดยืนแก้ตัวให้ “ใจ” ไร้ส่วนเกี่ยวข้อง แต่กลับออกแถลงการณ์ “สยามแดง” โจมตีสถาบันอย่างโจ๋งครึ่ม เตือนสติ “เติ้ง” ยังไม่สายที่จะกลับตัวยืนข้างประชาชน จวก “แม้ว” โฟนอิน เหมือนเอาก้นพูด ชอบโกหกพกลม ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม แต่กลับใช้ศาลเป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายตรงข้าม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ "Good Morning Thailand"
รายการ “Good Morning Thailand” ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 06.00-07.00 น.วันจันทร์ถึงศุกร์ สำหรับวันจันทร์ที่ 9 มีนาคม 2552 ได้นำข่าวคราวต่างๆ มาวิเคราะห์ และนำเสนออย่างหลากหลายเช่นเคย
“สวัสดีเวลา 6 โมงเช้าครับ ท่านผู้ชมและพ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พุทธศักราช 2552 วันนี้ก็เป็นวันแรกที่ทีมงาน ASTV และทีมงานบางส่วน ทีมงานพิธีกรที่จะไปจัดคอนเสิร์ตการเมืองที่ลอสแองเจลิส จะเริ่มออกเดินทางไปสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา เกือบๆ 20 คน
พี่น้องพันธมิตรฯ ที่ USA ก็เตรียมตัวพบกับพวกเราได้นะครับ ในวันเสาร์หน้าที่ 14 ที่ L.A.Fairground ข้อมูลต่างๆ เราก็ออกให้เป็นระยะๆ ไป
เมื่อคืนนี้ ก็มีงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ อ.สามชุก จัดกันที่ จ.สุพรรณบุรี แล้วก่อนหน้านั้น คือ วันเสาร์ ก็ได้มีงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่จัดกันที่โคราช ทั้ง 2 งานนั้น บรรยากาศเหมือนกัน คือ มีความครึกครื้น และฮึกเหิม ที่สำคัญที่สุดก็คือว่า มีพ่อแม่พี่น้องจำนวนมากที่เข้ามาร่วม ที่โคราช เป็นที่เข้าใจดีครับว่า จังหวัดนั้นเป็นจังหวัดใหญ่ มีคนมาเต็มลานสนามกีฬา มหึมา มหาศาล ประสบความสำเร็จอย่างมาก ต้องถือว่าเป็นการปักธงที่อีสานได้อย่างชัดเจน นอกเหนือจากที่ อุดรธานี โคราช คือ อีสานใต้ อุดรธานี คือ อีสานเหนือ นะครับ
ส่วนที่ อ.สามชุก นั้น เป็นอำเภอเล็กๆ 1 อำเภอ ที่เป็นอำเภอเด็กดื้อของคุณบรรหาร ศิลปอาชา ไม่ค่อยฟัง คุณบรรหาร เท่าไหร่ คุณบรรหาร สั่งห้ามไม่ให้จัด ใช้ผู้ว่าราชการจังหวัดมาเตือน ให้นายอำเภอมาขอร้อง พ่อแม่พี่น้องที่ อ.สามชุก ก็ไม่ยอม ก็จัดกัน ถึงแม้ว่าพื้นที่จะเล็ก คือ ศาลาประชาคมของ อ.สามชุก แต่ทว่า ผู้คนมากันล้นหลาม เล่นเอาตกอกตกใจกันไปหมด ที่ตกอกตกใจ ก็เพราะว่า นึกไม่ถึงว่าคนจะเยอะขนาดนี้ นึกไม่ถึงว่า คนที่ไม่เอาคุณบรรหาร มีมากเหลือเกิน ที่สำคัญคือ เป็นคนชนชั้นกลางทั้งสิ้นครับ เพราะฉะนั้นแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหรับทีมงานคุณบรรหาร เพราะคุณบรรหาร ยังเล่นการเมืองไม่ได้อีกหลายปี ไม่ทราบว่า ยุคของ คุณบรรหาร ที่สุพรรณบุรี จะหมดไปหรือเปล่า แต่คุณบรรหาร เป็นนักการเมืองที่ปรับตัวได้เร็ว ฉายาถึงถูกตั้งเรียกว่า “ปลาไหล” ฉะนั้น ถ้าคุณบรรหาร จะปรับตัวให้เร็วขึ้น แล้วก็พลิกตัวเองเข้ามายืนอยู่ข้างพี่น้องประชาชนก็ยังไม่สายเกินไปครับพ่อแม่พี่น้อง
วันนี้มีเรื่องราวที่จะพูดหลายๆ เรื่องนะครับ เรื่องต่างๆ ที่จะพูดนั้นก็สำคัญทุกเรื่อง ส่วนจะสำคัญกับท่านผู้ชม หรือว่าพ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็สุดแล้วแต่ละท่านจะพิจารณาแต่ละเรื่อง
เรื่องแรกสุดก็หนีไม่พ้นเรื่อง เมื่อเร็วๆ นี้ วันนี้ก็มีเยอะที่จะต้องมีข่าวมา เรื่องแรกที่เราจะพูด คือ เกมเขย่าสถาบันกษัตริย์ เกมเขย่าสถาบันกษัตริย์นั้นมีหลายๆ เรื่องที่อยู่ภายใต้หัวข้อข่าวเกมเขย่าสถาบัน ซึ่งประเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง
เรื่องที่ 2 คือ ความคืบหน้าในการแก้ปัญหาของโรฮิงยา ของท่านทูตกษิต ภิรมย์ ซึ่งตรงนี้มีนัยที่สูงมาก ซึ่งท่านผู้ชมอาจจะไม่ได้เห็นจากสำนักข่าวอันอื่นที่จะรายงาน หรือหนังสือพิมพ์ฉบับอื่น
แล้วก็เรื่องที่ 3 คือ สื่อฮ่องกง ตีข่าวไทยใกล้บรรลุขอตัวคุณทักษิณ ชินวัตร มาติดคุก แล้วก็คุณทักษิณ ก็โฟนอินที่ขอนแก่น โฟนอินว่าอย่างไร ประเดี๋ยวเราค่อยว่ากัน
แล้วข่าวต่างประเทศที่สำคัญ คือ อัตราว่างงานในอเมริกานั้น สูงที่สุดในรอบ 25 ปี สะท้อนให้เห็นถึงภาวการณ์เศรษฐกิจที่ ถ้าพูดภาษาชาวบ้าน คือ เจ๊งแน่นอนแล้วครับ
อีกอันหนึ่งก็คือ ข่าวเรื่องการเมืองในญี่ปุ่น ซึ่งมีอะไรน่าสนใจมาก เดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง แล้วพี่น้องลองเปรียบเทียบว่ามันเหมือนการเมืองไทยไหม เพราะฉะนั้นแล้วการเมืองเก่า นอกจากไม่ทำงานได้ผลแล้วในประเทศไทย ก็ยังทำงานไม่ได้ผลในญี่ปุ่นเช่นกัน หรือว่านี่เป็นยุคที่การเมืองใหม่ทั่วโลกจะต้องเกิดขึ้น
แล้วก็มีข่าวเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนใจ สุดท้ายด้วยข่าวเบาๆ นะครับที่ก็ไม่เบา จะว่าหนักสำหรับคนบางคน จะว่าเป็นข่าวที่ดีสำหรับผู้หญิงก็ดีนะครับ คอยฟังต่อไป ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งผ่านมรสุมชีวิตอย่างร้ายกาจ เหลือร้ายมาก ในที่สุดแล้วไม่ได้ย่อท้อ ลุกขึ้นมาสู้ สู้เพื่อตัวเอง เพื่อสังคม และผู้หญิงด้วยกัน จนกระทั่งวันนี้เธอได้มีความสุขกับการที่เธอทำ แล้วเธอก็เป็นคนซึ่งไม่กลัวเรื่องอดีต เพราะว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่สามารถเรียกมันกลับมาได้อีกต่อไป มีแต่วันนี้เท่านั้นเอง ที่เธอกำลังทำเรื่องต่างๆ เหล่านี้ให้มันดีที่สุด สุภาพสตรีผู้นั้น เป็นสุภาพสตรีที่ในอดีตทุกคนรู้จัก
ท่านผู้ชมครับ เรามาพูดกันเรื่อง เกมเขย่าสถาบัน ก่อนอื่นท่านผู้ชมอยากจะเข้าใจเรื่องการเมือง แล้วก็เกมเขย่าสถาบันนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการเมืองภาพรวมทั้งหมด ท่านผู้ชมต้องไม่พลาดวันพรุ่งนี้นะครับ วันอังคาร เวลาคนในข่าว ซึ่ง คุณเติมศักดิ์ ไม่อยู่ คุณเติมศักดิ์ เดินทางไปสหรัฐอเมริกา แต่วันพรุ่งนี้เวลาคนในข่าว 2 ทุ่มครึ่งเป็นต้นไป ผม สนธิ ลิ้มทองกุล จะมาออกรายการสดที่ห้องส่งนี้ เพื่อเล่าเรื่องการเมืองในระบบ ให้ท่านผู้ชมได้เห็นได้ชัดเลย ท่านผู้ชม ผมมั่นใจว่า พรุ่งนี้ท่านผู้ชม ฟังเรื่องราวจากผมพรุ่งนี้ตอน 2 ทุ่มครึ่ง ท่านผู้ชมจะเข้าใจการเมืองอย่างลึกซึ้งละเอียด และรู้เลยว่า ทิศทางมันจะไปอย่างไร เรื่องนี้สำคัญมาก ไม่อยากให้ใครก็ตามพลาดเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะพรรคการเมืองพรรคใด นักการเมืองคนไหน คนที่สนใจเรื่องการเมืองตลอดจนทุกเรื่อง พรุ่งนี้อย่าพลาดนะครับ
ท่านผู้ชมครับ เกมการล้มสถาบันนั้น มีมานานพอสมควร วันนี้เมื่อวันศุกร์ หรือวันอังคาร วันพฤหัส ศุกร์ที่ผ่านมา มีเรื่องที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปจับผู้ที่บริหารเว็บไซต์ประชาไท เว็บไซต์ประชาไท คือเว็บอะไร คือ เว็บที่ นายจอน อึ๊งภากรณ์ พี่ชาย นายใจ อึ๊งภากรณ์ เป็นคนตั้งขึ้นมา และก็ทุกครั้งที่มีเรื่อง นายจอน ก็พยายามจะบอกว่าตัวเองไม่เกี่ยว นายจอน มีสถานภาพอย่างไร นายจอน คือ ลูกชายคนโตของ ดร.ป๋วย อึ๊งภากาณ์ เป็นพี่ชาย นายใจ อึ๊งภากรณ์
นายจอน นั้น อดีตเป็น ส.ว.และตอนหลังผันตัวเองมาเป็นกรรมการไทยพีบีเอส คือ ช่องโทรทัศน์ของเอ็นจีโอ ในขณะนี้เอ็นจีโอ องค์กรภาคเอกชน มีอิทธิพลสูงที่สุดในโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และจะเป็นเวทีสาธารณะที่พวกนี้เขาจะใช้ในการเผยแพร่ความคิดของตัวเองนะครับ และผมก็เชื่อว่า กรณีปิดเว็บไซต์ประชาไทนั้น ไทยพีบีเอส จะต้องหาโอกาสที่ออกมาเอาข้อความ หรือคนที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ประชาไท มาออก ที่น่าสังเกต คือ คนที่บริหาร หรือเป็นบรรณาธิการบริหารของเว็บไซต์ประชาไท นั้น ก็ได้รับเชิญมาออกไทยพีบีเอส ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นแล้วท่านผู้ชมคอยจับตาดูต่อไปแล้วกัน
นายจอน อึ๊งภากรณ์ ที่น่าสนใจ ผมจำเป็นต้องพูดถึง นายจอน เสียก่อน ก่อนที่ผมจะพูดถึงกระบวนการอันนี้ นายจอน อึ๊งภากรณ์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2008 นายจอน ได้ส่งอีเมล (E-mail ) ฉบับหนึ่ง Forward ช่วยกันส่งต่อจาก นายจอน อึ๊งภากรณ์ คือ ในอีเมลจดหมายฉบับนั้น นายจอน พูดให้ฟังว่า มีผู้ประสงค์ร้ายพยายามกระจายออกอีเมลลูกโซ่ มีข้อความว่า “โฉมหน้าคนทำเว็บไซต์หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์” ก็คือ นายจอน และ นายใจ อึ๊งภากรณ์ และอีเมลดังกล่าวส่งต่อเป็นทอดๆ มีผู้รับหลายหมื่นคน นายจอน ก็เลยส่งอีเมลนี้ มาแก้ตัว แก้ตัวว่า ผมอ้างข้อความอันหนึ่งให้ฟังแล้วกัน “ผม และใจ ขอชี้แจงว่า ข้อความในอีเมลดังกล่าว เป็นเท็จ เราไม่เคยได้รับเงินใดๆ จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม และไม่เคยทำเว็บไซต์ ที่หมิ่นสถาบันกษัตริย์ และไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับภาพที่แต่งลบหลู่สถาบันกษัตริย์ ผู้ที่ริเริ่มอีเมลนี้ ยังได้นำมาแปะท้ายอีเมลด้วยความประสงค์ร้ายต่อสถาบันกษัตริย์ ต่อผม และใจ ผู้มีส่วนในการเผยแพร่ หรือส่งต่ออีเมลดังกล่าวทุกคนมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยมีโทษถึงขั้นจำคุกทั้ง 2 กรณี และหากผู้ส่งต่อยังไม่ส่วนในการส่งต่อภาพแต่งที่อยู่ท้ายอีเมล ผู้ส่งต่อยังมีความเสี่ยงที่ถูกข้อหาหมิ่นต่อพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และขอความกรุณาช่วยกันเผยแพร่กระจาย เพื่อผดุงความยุติธรรม”
คุณจอน ต้องการให้ทุกคนเข้าใจเพื่อผดุงความยุติธรรม ผมอยากจะเรียนถามคุณจอนวันนี้ โดยผ่านทาง ASTV คุณจอน จะตอบผ่านทีพีบีเอส ซึ่งคุณจอน มีอิทธิพลสูง ทีพีบีเอส ซึ่งใช้งบประมาณแผ่นดิน ปีละ 2,000 กว่าล้าน เพื่อให้พวกเอ็นจีโอ มีความสุขกับการที่ได้ใช้เงินของรัฐเผยแพร่อุดมการณ์ความคิดของตัวเอง
ผมว่าถามว่าคุณจอน น่าจะแสดงจุดยืนสักนิดหนึ่งได้ไหม ให้ผมรู้นิดหนึ่งว่าคุณคิดอย่างไรกับน้องชายคุณ ที่ชื่อคุณใจ อึ๊งภากรณ์ ในแถลงการณ์แดงสยาม ที่กล่าวหา โจมตีสถาบันกษัตริย์อย่างโจ๋งครึ่ม และโจ่งแจ้ง ตรงไปตรงมา เพราะฉะนั้นแล้ว ข้อความที่คุณจอน ส่งอีเมล์มาว่า คุณจอน และคุณใจ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับเรื่องราวที่หมิ่นกษัตริย์ที่ปรากฏในเว็บไซต์ประชาไท ผมก็เลยถามต่อว่า ถ้าอย่างนั้นคุณจอน เกี่ยวข้องและเข้าใจว่าคุณใจ ประกาศแถลงการณ์แดงสยาม คุณจอน มีจุดยืนอย่างไร คุณจอนเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหม ก็คุณจอนเพิ่งปฏิเสธว่าคุณใจไม่เกี่ยวข้อง แต่วันนี้คุณจอน กับคุณใจ คุณใจทำอย่างนี้แล้ว คุณช่วยเล่าให้ท่านผู้ชมฟังนิดหนึ่งได้ไหม ว่าส่วนตัวคุณเป็นอย่างไร
อีกประเด็นหนึ่งคือเว็บไซต์ประชาไท ในเมื่อคุณเป็นเจ้าของ แต่คุณบอกว่า คุณไม่เกี่ยวข้อง แล้วคุณก็บอกว่า เว็บไซต์ประชาไท ไม่เคยทำเรื่องราวต่างๆเหล่านี้ Comment ต่างๆ ที่มีการเกี่ยวข้อง และก็จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ มีตั้ง 40 กว่า Comment อุปมาอุปไมย เหมือนคุณเป็นเจ้าของบ้าน แล้วคุณปล่อยให้โจรมาใช้บ้านเป็นซ่องโจร ใช้เป็นฐานในการออกไปปล้นชาวบ้าน คุณก็บอกว่าเป็นแค่เจ้าของบ้าน คุณไม่ได้ไปร่วม ฟังดูก็เหมือนกับถูกต้องนะครับ แต่ฟังอีกทีมันไม่ใช่ เพราะเจ้าของบ้านอย่างไรก็ต้องเกี่ยวข้อง ไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ ถ้าคุณไม่เกี่ยวข้อง ถ้าคุณเห็น ว่ามันทำอะไรที่เกินเลยแล้วคุณไม่เห็นด้วย คุณจะต้องไปบอกให้คนซึ่งอยู่ในเว็บไซต์ประชาไท ให้หยุดทำซะ หรือไม่คุณต้องเปลี่ยนคนทำ เพราะคุณเป็นเจ้าของบ้านนี่ คุณต้องให้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นออกจากบ้านไปซะ แต่คุณก็เฉย ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น จนกระทั่งในที่สุด เมื่อมีตรวจเข้ามาจับโจรในบ้านหลังนั้น คุณก็บอกว่าคุณไม่เกี่ยว แต่เสร็จเรียบร้อยแล้วเกิดอะไรขึ้นในบ้านหลังนั้นคุณก็ไม่สนใจ ข้อแก้ตัวอันนี้ฟังไม่ขึ้นครับคุณจอน
ผมจะเตือนสัดนิดหนึ่งนะครับ การกระทำของคุณจะมีผลต่อทีพีบีเอส จะมีผลตรงไหน มีผลตรงที่ว่า ผมเชื่อว่ากรรมการหลายคนในทีพีบีเอส เมื่อเห็นเรื่องนี้แล้วจะต้องคิดกันให้หนัก และผมก็ไม่อยากเห็นทีพีบีเอส เป็นเวทีที่คุณจะเอามาใช้เพื่อจะมาแก้ตัว ที่สำคัญคือจนกระทั่งปัจจุบันนี้ เว็บไซต์ประชาไทก็ยังไม่ถูกปิด
ท่านผู้ชมครับ ตำรวจได้จะจับคุณจีรนุช เป็นผู้บริหารเว็บไซต์ประชาไท และท่านผู้ชมทราบหรือเปล่า ผมจะให้ดูกันจะจะ ท่านผู้ชมทราบหรือเปล่าว่า คนที่มาประกันตัวคุณจีรนุช มีใครบ้าง คือ รศ.ฉันทนา บรรพศิริโชติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งใช้ตำแหน่งตัวเองเป็นประกัน ผมไม่ได้ว่าอะไรการประกันตัวนะครับ แต่ว่ามันบังเอิญเหลือเกิน แล้วยังมีกลุ่มผู้เล่นเว็บบอร์ดนักศึกษา 50 คน เดินทางมาให้กำลังใจคุณจีรนุช นอกจากนั้นยังมี คุณผู้ชมรู้หรือเปล่าใคร เหวง โตจิราการ จอน อึ๊งภากรณ์ เหวง คือพวกเสื้อแดง จอน อึ๊งกากรณ์ คือเจ้าของเว็บไซต์ประชาไท ซึ่งอ้างว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเว็บประชาไท รวมทั้งนักวิชาการฝ่ายทักษิณ เสื้อแดง นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์กฎหมายมหาชน ที่มหาวิทยาธรรมศาสตร์ เพราะฉะนั้นแล้ว มันเป็นเรื่องที่มันบังเอิญจนเกินไปนะครับ
อาจารย์รัฐศาสตร์จุฬาฯ ใช้ตำแหน่งประกัน เหมือนอาจารย์คณะอักษรศาสตร์จุฬาฯ นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ ก็ใช้ตำแหน่งตัวเองเข้าประกันดา ตอร์ปิโด คนมาให้กำลังใจเป็นเสื้อแดงอย่างชัด หมอเหวง หรือว่านายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ มากกว่านั้น คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน รีบออกแถลงการณ์ทันทีเลย คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน ก็เป็นองค์กรเอกชน ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกับ นายจอน อึ๊งภากรณ์ นะครับ ออกแถลงการณ์ระบุว่า การกระทำของตำรวจ เหมือนกับเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองโดยนัยเดียวกัน เนื่องจากเว็บไซต์ประชาไท เป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลตลอด มันไม่เกี่ยวครับที่เขาจะจับคุณ เพราะข้อหาผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ครับ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่คุณไม่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล
เว็บไซต์ผู้จัดการ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทุกรัฐบาล ไม่เคยโดนจับนะครับ แต่ว่าน่าสนใจอย่าง เขาบอกว่า เว็บไซต์ประชาไท ถูกจับตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แล้วเขาก็บอกว่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ใช้ไม่ได้ ต้องแก้ไข พี่น้องเหมือนอะไรรู้ไหม เหมือนว่ากินข้าวแล้วไม่จ่ายตัง พอโดนจับได้ก็เลยล้มโต๊ะซะเลยครับ แล้วนายจอน อึ๊งภากรณ์ ก็มาให้กำลังใจ
พี่น้องครับ เมื่อไม่นานมานี้ สักปี 48 เว็บผู้จัดการ โดนตำรวจเครือข่ายทักษิณเล่นงาน ข้อหาว่ามีคนๆ หนึ่งซึ่งจงใจที่จะโพสต์ข่าวชิ้นหนึ่งมา ซึ่งหมิ่นเหม่มาก เพียงวันเดียวเราก็ปิดเลย เราก็ถอดข่าวชิ้นนั้นออกไปเลย พอถอดข่าวชิ้นนั้นออกไป เราก็โดนตำรวจเชิญไปสอบถึง 6 ครั้ง สอบแล้วเราก็บอกเราลบไปแล้ว เขาก็ไปเช็กกับองค์การโทรศัพท์ องค์การโทรศัพท์ก็บอกว่า ไม่ได้เก็บหลักฐานเอาไว้ สรุปง่ายๆ คือว่า เพียงแค่วันเดียวเท่านั้นเอง เราถอดออกทันที
พี่น้องรู้ไหม คนเข้าเว็บผู้จัดการวันละกี่คน เทียบกับเว็บประชาไท คนเข้าเว็บผู้จัดวันละเป็นล้านๆ คน เข้าเว็บประชาไท หมื่น 2 หมื่นคนเท่านั้น เผลอๆไม่ถึงหมื่นคน ด้วยซ้ำ เรามีต้นทุนที่ต้องดูแลเว็บความเห็นต่างๆ ความเห็นอันใดก็ตามที่หมิ่นเหม่เราจะลบออกทันที ความเห็นอันใดก็ตามที่หมิ่นเหม่เราจะลบออกทันที ความเห็นอันใดที่พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะลบออกทันที หลายๆข่าวที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะไม่มีให้ออกความเห็น แต่เว็บประชาไท มีคนเข้าไม่มาก น้อย กระจ้อยร่อยกระจิริด กลับไม่ได้สนใจ
เว็บผู้จัดการนั้น นอกจากโดนแล้ว โดนเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว ยังโดนหน่วยงานรัฐ เช่น กรมประชาสัมพันธ์ เสนอให้ปิดเว็บผู้จัดการในสมัย นายทักษิณ ชินวัตร เพราะฉะนั้นแล้วถ้าพูดถึงคนที่โดนข่มขู่ตลอดเวลา ไม่ใช่เว็บประชาไท แต่เป็นเว็บหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ แต่เว็บหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ โดนข่มขู่เพราะว่า เรานั้นไม่เห็นด้วยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และประชาชนอ่านเว็บเรา ก็เข้าใจจุดมุ่งหมาย และเจตนารมณ์ของเรา เราถึงโดนข่มขู่ แต่เว็บประชาไทเป็นเว็บที่หมิ่นประบรมเดชานุภาพอย่างชัดเจน เมื่อถูกปิดด้วย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แล้ว คุณไม่ควรจะมาเรียกร้อง ร่ำร้อง
ที่น่าสนใจคือ คณะกรรมการรณรงค์สิทธิมนุษยชนเสนอออกมา 3 - 4 ข้อ แล้วข้อหนึ่งซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยบอกว่า ให้ยกเลิกกฎหมายหมายตรา 112 กฎหมายมาตรา 112 คืออะไร คือกฎหมายหมิ่นประมาท ซึ่งถ้ายกเลิกอันนี้ มันจะโยงไปถึงมาตรา 8 มาตรา 8 คือองค์พระมหากษัตริย์ จะเป็นบุคคลซึ่งผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ เห็นหรือยังพี่น้อง เพราะฉะนั้นเท่ากับว่าถ้ายกเลิกมาตรา 112 ก็เท่ากับว่า สามารถจะละเมิดพระมหากษัตริย์ได้ทันทีตลอดเวลา นี่ขนาดมีมาตรา 112 นะครับ ยังมีกระบวนการแบบนี้ขึ้นมาจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์อยู่ตลอดเวลา
ท่านทูตกษิต พูดได้ดีมาก พูดชัดเจนเลยบอกว่า ถ้าคุณใจ อยู่ต่างประเทศ หรือคุณธงชัย วินิจจะกูล อาจารย์คณะประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ถ้าต้องการสร้างระบบสาธารณะต้องสู้กัน
ผมมีความรู้สึกว่า ธงชัย วินิจจะกูล หรือใครก็ตาม วันนี้ต้องอธิบายให้ชัดเจน วันนี้ก็ตาม ถ้าไม่ยอมรับว่าสถาบันกษัตริย์ เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย ถ้าไม่ยอมรับ และถูกตราบัญญัติอยู่ในรัฐธรรมนูญ พวกคุณรวมทั้งอาจารย์จุฬาฯ รศ.ฉันทนา ถ้าท่านคิดเช่นนั้น นายเหวง โตจิราการ แล้วก็ อ.วรเจตน์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ คณะอักษรศาสตร์จุฬาฯ ถ้าท่านเชื่ออย่างนั้น คิดอย่างนั้น ก็ในเมื่อเรามีรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว รัฐธรรมนูญระบุชัด ว่า พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขของประเทศ ถ้าคุณไม่ยอมรับแสดงว่าคุณกบฏใช่ไหม คุณย่อมถูกดำเนินคดี ข้อหากบฏในราชอาณาจักรได้ ข้อหากบฏชัดเจน ไม่ใช่ข้อหากบฏเฮงซวยที่ตำรวจมาให้เรา สมัยประท้วงอยู่ที่ทำเนียบ จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ท่านต้องยื่นพิพากษามาว่า เป็นข้อหาที่เลื่อนลอย
ถ้าพวกคุณไม่ยอมรับ ผมคิดว่ารัฐธรรมนูญ และสังคมไทยพร้อมจะให้เสรีภาพคุณ เสรีภาพอะไรรู้ไหม ออกจากประเทศไทยไปซะ ไปอยู่ที่อื่น คุณอยากไปอยู่ลาวคุณไปอยู่ หรือคุณอยากไปอยู่สวีเดน หรือคุณอยากจะไปอยู่ประเทศไหนก็ตามที่มีสิทธิ์ ให้สิทธิคุณที่จะวิพากษ์วิจารณ์กษัตริย์ได้ทั่วโลก ไม่เจาะจงเฉพาะประเทศไทย คุณทำร้ายทำลายประเทศไทยมากจนเกินไปแล้ว และคุณเป็นครูบาอาจารย์ เมื่อเป็นครูบาอาจารย์คุณไม่ยอมรับประเพณีจารีต คุณไม่ยอมรับหลักการของการที่มีพ่อของแผ่นดิน คุณไม่ยอมรับความมีทศพิธราชธรรมของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้
ผมไม่รู้คุณสอนหนังสือได้อย่างไร ไม่ว่าคณะอักษรศาสตร์จุฬาฯ หรือคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ และผมไม่รู้ว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อนุญาตให้อาจารย์ที่ไม่ต้องการกษัตริย์ แล้วก็ปลูกฝังความคิดผิดให้เด็ก ซึ่งเป็นการสอนแบบผิดรัฐธรรมนูญ เป็นการสอนแบบทำลายรัฐธรรมนูญ เป็นการสอนแบบทำลายจารีตประเพณี คุณปล่อยให้อาจารย์พวกนี้ มาทำความพินาศฉิบหายทางปัญญาใหกับเด็กรุ่นหลังที่ซื่อใสบริสุทธิ์ ตลอดจนสร้างความสับสนให้กับสังคมไทยได้อย่างไร เพราะฉะนั้นแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ไม่ใช่เรื่องเล็ก ที่สำคัญที่สุดเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นกระบวนการพี่น้อง ท่านผู้ชม ไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัว จู่ๆ มันเกิดเหตุขึ้นมา ตั้งแต่ นายโชติศักดิ์ ไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีแล้วในโรงภาพยนตร์ โยงมาเรื่อยๆตลอดเวลา โยงมาจนถึง นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โยงไปหมดครับ
ถ้าพี่น้องอยากจะรู้เรื่องราวต่างๆ แบบนี้ ในทำนองนี้ ว่าเกิดอะไรขึ้นและเรื่องราวต่างๆ กำลังกลายพันธุ์ไปในรูปแบบการเมืองอีกแบบหนึ่ง พรุ่งนี้ค่ำ 2 ทุ่มครึ่ง พี่น้องฟังให้ดีๆ ไม่มีอาจารย์คณะรัฐศาสตร์คณะไหน สอนพ่อแม่พี่น้องได้แบบนี้หรอกครับ เพราะฉะนั้นแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ท่านทูตกษิต เป็นคนที่แสดงจุดยืนได้อย่างชัดเจนที่สุด แล้วท่านนายกฯ ก็เสดงจุดยืนได้ชัดเจน ท่านทูตกษิต ซึ่งแสดงจุดยืนไม่เพียงชัดเจนเท่านั้น ท่านยังระบุได้เลย ระบุชัดเลย ที่ผมเล่าให้ฟังว่า นายใจ บอกว่า ถ้าล้มไทย และคิดตั้งเป็นสาธารณะก็สู้กัน
พี่น้องความคิดของการเป็นสาธารณะนั้นมีมานานแล้วพี่น้อง ผมเองเอามาพูดตั้งนานแล้ว องค์หลวงตามหาบัว พ่อแม่ครูอาจารย์ก็เคยมาพูดตั้งนานแล้วนะครับ ไม่ใช่เพิ่งพูด เมื่อพูดมานานแล้ว ตอนนั้นคนก็ไม่เชื่อ ตอนหลังเวลาผ่านไป คนก็เริ่มเชื่อ พี่น้องครับ ท่านผู้ชมครับ ปัญหาของผมคือปัญหาของการเห็นก่อนเหตุการณ์มา คนที่เห็นก่อนเหตุการณ์มา ต้องทนเจ็บปวดในตอนต้น เมื่อทนเจ็บปวดเเล้วในที่สุดเหตุการณ์นั้นก็มาจริง พอมาจริงวันนั้นคนก็ลืมไป คนที่เข้าไปก่นด่า ติเตียน คือผมนั้น เป็นคนพูดคนแรก พอเหตุการณ์มาจริงเขาก็ไม่สนใจ ไม่สนใจแม้กระทั่งจะมาขอโทษขอโพยผม แต่ไม่เป็นไรหรอกพี่น้อง คนเราทำงานให้ชาติบ้านเมือง ต้องปิดทองหลังพระกัน
พี่น้องครับ เราพักกันสักครู่หนึ่ง แล้วประเดี๋ยวเราค่อยกลับมา ยังมีข่าวอีกมายมายหลายข่าวที่น่าสนใจนะครับ
(เบรก)
ท่านผู้ชมครับ ท่านรัฐมนตรีกษิต ภิรมย์ นั้น วันที่ 23 มีนาคมนี้ จะเดินทางไปที่พม่าเพื่อนำปัญหาต่างๆ ของ จ.ระนอง เรื่องเกี่ยวกับโรฮิงยา ตลอดจนเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับแรงงานพม่า ไปปรึกษาหารือกับรัฐบาลพม่า และจัดระบบแรงงานต่างด้าว รวมทั้งการนำเข้าไม้จากพม่า
พ่อแม่พี่น้องครับ ปัญหาโรฮิงยานั้นเป็นปัญหามีมานานแล้ว แต่ไม่ได้รับการดูแลหรือจัดการอย่างแท้จริง เพิ่งจะมีครั้งนี้เอง รัฐบาลชุดนี้ และท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กษิต ภิรมย์ ที่ดำเนินการไปถึงขั้นปรึกษาหารือกับ UNHCR สหประชาชาติ เพื่อจับมือร่วมกันแก้ปัญหาโรฮิงยา และมีการดำเนินการติดต่อกับพม่าจนกระทั่งพม่านั้นต้องยอมรับว่าหากมีเชื้อชาติที่เป็นเชื้อชาติเบงกาลี พม่าก็ยินดีที่จะรับกลับ เหตุลผลก็เพราะว่า ด้านหนึ่งของพม่าคือด้านตะวันตก สุดของพม่านั้นมีพรมแดนที่ติดกับบังกลาเทศ เพราะฉะนั้นแล้วคนพม่าส่วนหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับทางด้านโน้น มีเชื้อสายบังกลาเทศ หรือที่เขาเรียกว่าพวกเบงกาลี
พี่น้องรู้ไหมว่าทำไมปัญหาโรฮิงยาถึงได้รับการสนใจและใส่ใจ และมีการเจรจากับพม่า และกดดันพม่า เหตุผลก็เพราะว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรผูกพัน หรือไม่ได้มีเงื่อนไขซ่อนเร้น หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับพม่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ไปขายดาวเทียมให้พม่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ให้พม่ามาเช่าช่องไอพีสตาร์ รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้เป็นคนปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ให้พม่า
เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาต่างๆ พี่น้องจะเห็นชัดว่าปัญหาภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเพื่อนบ้านนั้น หากเราไม่ได้ไปมีอะไรใต้โต๊ะกับเขา การแก้ปัญหามันย่อมง่ายขึ้น ถ้าเป็นรัฐบาลชุดคุณทักษิณ โรฮิงยาไม่จบหรอกครับ เรื่องราวต่างๆ เหล่านี้จะถูกเก็บเงียบ ถูกปิด จะไม่ถูกเปิดขึ้นมา ปัญหาที่ใหญ่ยิ่งกว่าโรงฮิยา คือปัญหาแรงงานต่างด้าว เราจะเอายังไงกับแรงงานต่างด้าว เราต้องมีมาตรการ เราต้องมีระบบ เราต้องมีกติกา ให้ประเทศซึ่งแรงงานเหล่านั้นมาจะต้องยอมรับในกติกาของเรา ของแบบนี้พี่น้องเริ่มเข้าใจหรือยัง ว่าถ้าระบอบทักษิณ คุณทักษิณ ระบอบทักษิณอยู่ ไม่มีวันแก้ได้ เพราะว่าพวกเขาไปมีผลประโยชน์ทับซ้อน ผลประโยชน์ใต้โต๊ะ กับประเทศเพื่อนบ้านทั้งสิ้น เรื่องไม้อย่างนี้ เรื่องไม้เขมร เรื่องไม้พม่า คนในรัฐบาลเกี่ยวพันกันหมด เขาเรียกว่าสวมไม้ ตัดไม้พม่าแล้วบอกเป็นไม้อยู่ในไทย หรือการนำเข้าไม้พม่ามาส่ง ลักลอบกันเข้ามา หรือไม้เขมรเช่นกัน พี่น้องควรจะดีใจนะครับ ว่าระบอบทักษิณได้ไปแล้ว
มีการ์ตูนผู้จัดการอันหนึ่งเรื่องเกี่ยวกับโรฮิงยา ก็เอากันให้บันเทิงอารมณ์นิดหนึ่ง ให้ทีมงานเอาขึ้นมาดูนิดหนึ่ง พี่น้องจะเห็น นี่คือเรือของพวกโรฮิงยา เขียนว่าโรฮิงยาได้สมาชิกใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร นั่งอยู่ท้ายเรือ คนที่อยู่หัวเรือก็บอกว่า อ๋อ ไอ้หมอนั่นมาขอเข้าพวกด้วย ไม่มีประเทศไหนรับมันเหมือนกัน
พี่น้องครับ การทำอะไรที่ไม่มีประโยชน์ทับซ้อนนั้นย่อมแก้ปัญหาได้อย่างตรงไปตรงมา เมื่อวานนี้พวกเสื้อแดงจัดงานที่ขอนแก่น พี่น้องรู้ไหมว่าคุณทักษิณนั้นโฟนอินเข้ามา แล้วก็พูดอะไรบ้าง เขาบอกว่า เมื่อสังคมตอนนี้ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งหายใจก็ผิด เขาหมายถึงว่า เขาทำอะไรก็ผิด แต่อีกฝ่ายหนึ่งฆ่าคนตายก็ถูก ผมก็เลยไม่เข้าใจว่าคุณทักษิณหมายถึงใคร ฆ่าคนตาย พันธมิตรฯ ไม่เคยฆ่าใครตาย มีแต่พันธมิตรฯ ถูกฆ่าตาย แล้วคุณแค่หายใจก็ผิด อย่าว่าแต่หายใจเลย คุณจะผายลม คุณจะขี้ เขาก็ไม่ว่าคุณ แต่คุณชอบขี้รดหลังคาเรือนที่ชื่อว่า "ไทย" ตลอดเวลา ปัญหาทั้งหมดมีอยู่ง่ายๆ เมื่อคุณทำผิดกฎหมาย แล้วศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง บอกคุณทำผิดกฎหมาย คุณต้องโทษจำคุก 2 ปี ประเด็นก็คือคุณไม่ยอมรับความผิดอันนี้ เมื่อคุณถูกพิพากษาคุณก็เกเรแล้วคุณก็ไปบอกว่า คุณไม่เชื่อในศาลนี้
ในขณะเดียวกัน คุณก็มาพึ่งศาลนี้ มอบอำนาจให้ทนายความมาฟ้องพวกผม หนึ่ง คุณไม่เชื่อในศาลนี้ แต่คุณใช้ศาลนี้มาฟ้องผม คำพูดคุณพูดจากปากหรือจากก้นกันแน่ คุณมีความขัดแย้งในตัวคุณตลอดเวลา คุณพูดจาโกหกพกลมมาตลอด คุณกลับมาถึงเมืองไทย คุณก้มลงกราบพระแม่ธรณี สร้างภาพให้ออกทีวีไปให้หมด เมื่อสร้างภาพออกทีวีแล้ว คุณก็บอกว่าคุณพร้อมที่จะกลับมาสู้คดี ตอนนั้นคุณเองยังพูดเลยว่าคุณเชื่อในระบบกระบวนการยุติธรรมเมืองไทย ก็เพราะว่าคุณคิดว่าคุณคุมประเทศไทยได้แล้วไง แต่เผอิญคุณซื้อศาลไม่ได้ หรือคุณซื้อได้เพียงบางส่วน คุณซื้อได้ไม่หมด มันก็เลยทำให้คุณพอจะรู้จากภายใน จากผู้พิพากษาที่คุณซื้อเอาไว้ ว่าหยั่งคะแนนเสียงแล้วคุณแพ้แน่นอน เพราะฉะนั้นแล้ว กูไปดีกว่า เมื่อไปแล้ว วิถีทางเดียวที่จะทำให้คุณสร้างความชอบธรรมให้ตัวคุณได้ ก็คือคุณต้องไปเที่ยวพูดทั่วโลกเลย ว่าศาลไทยนั้นไม่ยุติธรรม ศาลไทยนั้นเป็นศาลที่ถูกตั้งออกมาเพื่อจัดการคุณโดยเฉพาะ เขาไปตั้งมาจัดการคุณได้อย่างไร ผู้พิพากษาที่อยู่ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ล้วนแล้วแต่เป็นผู้พิพากษามาจากศาลฎีกาทั้งสิ้น ท่านรับราชการมาตั้งแต่หนุ่มตั้งแต่แน่น รับราชการมาตั้งแต่คุณยังเป็นตำรวจอยู่ รับราชการมาตั้งแต่คุณยังไม่ได้เป็นนายทักษิณ อภิมหาเศรษฐีเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นคนพวกนี้เพิ่งจะถูกแต่งตั้งได้อย่างไร เขามีความมืออาชีพในอาชีพของเขา เขาดำรงไว้ซึ่งความเที่ยงธรรม
นี่คือประเด็นหลักที่สุดครับ ท่านผู้ชม ประเด็นหลักที่สุดที่นายทักษิณเอามาต่อสู้ เพราะฉะนั้นแล้วจะมาพูดไม่ได้นะว่าหายใจก็ผิด แล้วก็มาพูดอีกนะว่าผมนี่เหมือนไก่เหงา ที่เหงาเพราะว่าเป็นไก่ไม่ได้ตี นี่คุณทักษิณเขาพูดอย่างนี้พี่น้อง ท่านผู้ชม ผมเป็นเหมือนไก่เหงา ไก่เหงาเพราะไม่ได้ตี คุณจะไปดีได้ยังไง เพราะว่าเขาล่ามโซ่ขาคุณไว้แล้ว เนื่องจากสมัยที่คุณมีอำนาจอยู่นั้น คุณเที่ยวตีผิดตีถูก เที่ยวระราน ตีประเทศชาติ ตีโน่นตีนี่ ตีคนบริสุทธิ์ คนบริสุทธิ์ 2,500 คน ที่ตายไปจากนโยบายปราบปรามยาเสพติดของคุณ คนชาวใต้บริสุทธิ์ที่ถูกเครื่องไม้เครื่องมือคุณสังหารจนกระทั่งเกิดปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คนบริสุทธิ์ที่โดนคุณบีบคั้น จำกัดสิทธิเสรีภาพ กลั่นแกล้งต่างๆ นานา นั่นมันผลจากการตีของคุณไงล่ะ ผลจากการตีของคุณ แล้วในที่สุดแล้วเมื่อคุณจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เขาบอกว่า เดือยที่คุณไปเที่ยวน่ะมันใช้ไม่ได้ มันเป็นเดือยอันธพาล เขาก็เลยประกาศเอาโซ่ล่ามเดือยคุณ คุณรู้ทัน คุณบินหนีไปก่อน ขอให้คุณเป็นไก่เหงาไปเถอะ คุณทักษิณ เป็นไก่เหงายังดีกว่าเป็นไก่ย่างนะ เชื่อผมสิ ไก่เหงายังมีชีวิตอยู่นะ ถ้าไก่ย่างมันตายไปแล้ว
อีกเรื่องหนึ่ง ก็มาด่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บอกว่าพันธมิตรฯ ที่เคยเล่นการเมืองนอกสภา จะมาเล่นในสภา เพราะนั่งรอนานแต่ไม่มีใครแต่งตั้ง คนอายุ 70 กว่าๆ ยังอยากเป็นนายกฯ คุณหมายถึง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ของผมหรือเปล่า นี่แสดงว่าคุณนี่นะ นอกจากคุณไม่เข้าใจ พล.ต.จำลอง แล้ว คุณยังอกตัญญูและเนรคุณคนอย่างเลวที่สุด คุณรู้หรือเปล่า พี่ลองน่ะเขาไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้นในชีวิตแล้ว แล้วอีกประการหนึ่ง คุณมาด่าบอกว่า เคยเล่นการเมืองนอกสภา จะมาเล่นในสภา เพราะนั่งรอตั้งนานไม่มีใครแต่งตั้ง คุณจำได้หรือเปล่า ครั้งหนึ่งคุณพูดว่ายังไง คุณบอกว่า ตอนที่พวกเราเดินขบวนมาขับไล่คุณน่ะ คุณบอกว่าให้พันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมืองแล้วส่งคนมาสมัคร ส.ส.แข่งกัน อย่ามาเล่นการเมืองนอกสภา
อีกแล้ว คุณโกหกรายวัน คุณโกหกรายชั่วโมง แล้วคุณไม่เคยจำได้ว่าคุณพูดอะไร ถึงคุณจำได้ คุณก็จำเป็นต้องตระบัดสัตย์ เพราะทำไมรู้ไหม เพราะสิ่งที่พวกเราทำนั้นมันเป็นการเอาธรรมนำหน้า เป็นสัจจธรรม พวกเรานี่ไม่เคยผิด 2548 2549 มาจนวันนี้ การกระทำของพวกเราพิสูจน์ได้ทุกเมื่อ พูดเมื่อไร พูดอย่างไร ผมนี่พูดเมื่อไร พี่ลองพูดเมื่อไร คุณสมศักดิ์พูดเมื่อไร คุณพิภพพูดเมื่อไร อาจารย์สมเกียรติพูดเมื่อไร พูดที่ไหน ย้อนหลังกลับไปดูได้ ไม่เคยผิด เหตุผลเพราะว่าเราเอาธรรมนำหน้านะครับ
ที่น่าสนใจก็คือว่า คุณวีระ มุสิกพงศ์ ให้สัมภาษณ์บอกว่า บอกคุณทักษิณบอกอย่าเพิ่งกลับประเทศนะ อย่าไปเชื่อใครที่บอกให้กลับมา ให้คนเสื้อแดงรักษาประชาธิปไตยให้ยุติธรรมเสียก่อน จริงๆ แล้วนัยนั้นก็คือว่า อย่าเพิ่งกลับนะ ถ้ากลับมาติดคุกแล้วไม่มีใครจ่ายเงิน แล้วยิ่งบอกว่าวันที่ 27 มีนาคมนี้ จะระดมคนมาล้านคน มาล้อมทำเนียบรัฐบาล 1 ล้านคน พ่อแม่พี่น้อง โอ้โห พี่น้องครับ หัวละ 500 บาท เท่าไรล่ะ 500 ล้าน หัวละ 1,000 ก็พันล้าน ค่าเดินทางเสร็จเรียบร้อย รับไปคนละ 20 เปอร์เซ็นต์ 30 เปอร์เซ็นต์ 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงินเท่าไร พี่น้อง
ด้วยเหตุนี้คนเสื้อแดงถึงไม่อยากให้ทักษิณกลับประเทศทันที อยากให้อยู่ แล้วก็บอกว่าเราคอยทักษิณได้ เห็นไหมป้ายเสื้อแดงมีอยู่อันหนึ่ง ผมสังเกต ว่าเราคอยทักษิณได้ พวกนี้เป็นพวกซึ่งชอบละเมิดลิขสิทธิ์ เลียนแบบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีหมดทุกอย่าง เวลาเราประท้วง เรามีเต็นท์ขายเสื้อ เขาก็มีเต็นท์ขายเสื้อ เรามีเต็นท์ขายมือตบ เขาก็มีเต็นท์ขายตีนตบ มีหมด เรามีเต็นท์ขายจาน ASTV เขาก็มีเต็นท์ขายจาน DTV แล้วพี่น้องรู้ไหมว่าจบลงด้วยอะไร ผมคิดว่าเขาอาจจะเลียนแบบเรา ทำข้าว ASTV ขาย ข้าว ASTV นั้นมีตรามือตบ แต่ว่าข้าว DTV หรือว่าข้าวเสื้อแดงนั้น ตราของมันคือส้นตีนอยู่บนถุงข้าวนะครับ พ่อแม่พี่น้องครับ
พี่น้องครับ คุณทักษิณอีกสักนิดหนึ่งนะครับ สื่อฮ่องกงเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว สื่อฮ่องกงพูดนะครับว่ารัฐบาลฮ่องกงนั้นใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลไทยแล้วในการที่จะทำเรื่องสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร จะเท็จจริงอย่างไรก็ต้องคอยดูกันต่อไป แต่เขายืนยันนะครับว่าใกล้แล้ว
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว มีคนจากดูไบโทรมาบอกผมว่าเดินสวนกับคุณทักษิณในห้างสรรพสินค้าที่ดูไบ เพราะฉะนั้นเชื่อได้ว่าในขณะนี้คุณทักษิณยังอยู่ที่ดูไบครับ พ่อแม่พี่น้องครับ
พี่น้องครับ วันนี้เรามาพูดเรื่องข่าวต่างประเทศนิดหนึ่ง เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ตอนนี้อเมริกาเข้าสู่เศรษฐกิจถดถอยอย่างเต็มตัวแล้วนะครับ ตัวเลขคนว่างงานสูงมาก สูงจริงๆ อเมริกานั้นมีคนว่างงานมากที่สุดในรอบ 25 ปีนะครับ ตอนนี้คนตกงานไปแล้วเกือบ 4.5 ล้านตำแหน่ง คิดเป็นประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ ที่น่าสนใจว่า งานที่ตกนั้น แม้กระทั่งมูดีส์ นักเศรษฐศาสตร์ของมูดีส์ ก็ยังไม่ค่อยสบายใจ แล้วเขาก็มองว่าในขณะนี้ลำบากมาก และบ้านเช่าที่ขายอยู่ในอเมริกานั้นก็ตกไป 26 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าราคา 100 บาท ก็ตกไป 26 บาท การที่บ้านตกไปนี้ มันแสดงว่าคนรับไม่ไหวแล้ว มีปัญหามากๆ
มีคนอยู่ 12 เปอร์เซ็นต์ที่อเมริกาที่เป็นเจ้าของบ้าน และกำลังถูกยึดบ้าน หรือผ่อนส่งไม่ทัน เขาบอกว่าภาวะการณ์ของอสังหาริมทรัพย์ในอเมริกานั้นจะต้องตกอีกประมาณ 18-29 เปอร์เซ็นต์ เมื่อสิ้นปี 2010 หรือสิ้นปีหน้า หมายความว่าตกมาแล้ว 26 เปอร์เซ็นต์วันนี้ ตกอีก 29 เปอร์เซ็นต์วันหน้า ก็คือเบ็ดเสร็จราคาบ้านที่เคย 100 บาท จะหายไป 55 บาท ก็คือมูลค่าบ้านจะเหลือแค่ 45 บาท แปลว่าอะไร แปลว่าใครก็ตามที่ยังมีปัญญาผ่อนบ้านอยู่ทุกวันนี้ ผ่อนบ้านที่มีราคาแพงเกินกว่าเป็นจริงถึงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ นะครับ
น่าสนใจมาก หุ้นดาวโจนส์เองก็ตกต่ำกว่า 7,000 จุด ซึ่งก็เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ยอดขายก็ตก พี่น้องอยากรู้ไหมว่า เศรษฐกิจอเมริกาเลวร้ายขนาดไหน มาดูข่าวสั้นๆ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในมลรัฐโอไฮโอ เขาเปิดตำแหน่งภารโรง พี่น้อง ภารโรงครับ คนทำความสะอาด ล้างส้วม กวาดพื้น ถูพื้น 1 ตำแหน่ง มีคนสมัคร 700 คน ตำแหน่งภารโรง ซึ่งธรรมดาแล้วในภาวะเศรษฐกิจที่ฟุ้งเฟ้อนั้น ตำแหน่งภารโรงจะไม่มีคนสมัคร แล้วรายจ่าย คือค่าจ้างนั้นก็ถูก 15-16 เหรียญต่อชั่วโมง 15-16 เหรียญต่อชั่วโมงนั้น คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 500 บาทต่อชั่วโมง 500 บาทต่อชั่วโมง วันหนึ่งทำ 8 ชั่วโมง ก็ 4,000 บาท เงินเดือนก็ประมาณ 100,000 มั้ง พี่น้องอาจจะคิดว่า 100,000 มันเยอะ ไม่เยอะหรอกครับ ตำแหน่งภารโรงแบบนี้ถือว่าน้อยมาก คนยังสมัครตั้ง 700 คน
เอาล่ะพี่น้อง เรามาที่ญี่ปุ่นบ้าง ญี่ปุ่นน่าสนใจมาก การเมืองญี่ปุ่นขณะนี้เด็ดขาดมาก ญี่ปุ่นในขณะนี้มีพรรคการเมืองอยู่พรรคหนึ่ง เขาเรียกว่าพรรค LDP - Liberal Democrat Party และในพรรค LDP นี้ก็เคยมีอดีตกบฏพรรค LDP ลาออกไป แล้วก็ไปตั้งพรรคอันหนึ่งขึ้นมา ชื่อว่า DJP - Democratic Japan Party ก็คือพรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่นนั่นเอง ปรากฏว่าที่น่าสนใจมากก็คือว่า พรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่นนั้นดูแนวโน้มที่จะมีโอกาสที่จะชนะคะแนนเสียง แล้วจู่ๆ ตำรวจและอัยการก็ไปจับ เนื่องจากว่ามีการคอร์รัปชั่นบริษัทก่อสร้าง ชื่อนิชิมัตสุ เคนเซ็ตสุ ว่าพรรค DJP หรือพรรคฝ่ายค้านนั้น เกี่ยวข้อง ซึ่งบริษัทก่อสร้างนี้ได้โอนเงิน 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นทุนทางการเมืองให้กับพรรค DJP ก็เลยทำให้คะแนนเสียงพรรค DJP ตกฮวบฮาบเลยทันที
ปรากฏว่าอัยการและตำรวจ ซึ่งสืบสวนสอบสวนกรณีของบริษัท นิชิมัตสุ แล้วก็สายสัมพันธ์นิชิมัตสุนั้นก็โยงไปที่พรรค LDP เหมือนกัน คือพรรคของนายกรัฐมนตรีปัจจุบันนี้ เขาก็ออกหมายจับ จับเลขาฯ นายโอซาวา ซึ่งนายโอซาวา นั้นเป็นเลขาฯ ของพรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่น ปรากฏว่า ในที่สุดแล้วก็มีโยงไปจนถึงนายอาโซะ พรรค LDP แล้วนิชิมัตสุคือบริษัทอะไร พี่น้องจำได้ไหม คือบริษัทในสมัยที่นายสมัคร เป็นผู้ว่าฯ อัยการญี่ปุ่นจับแล้วโยงมาว่า มีคนใน กทม.ซึ่งเป็นนักการเมือง รับเงินจากบริษัทนี้จำนวนเป็นร้อยๆ ล้าน ในกรณีท่อส่งน้ำในประเทศไทย จ่ายเงินใต้โต๊ะให้คนไทย
เพราะฉะนั้นแล้วพ่อแม่พี่น้องจะเห็นนะครับว่า การเมืองญี่ปุ่นกับการเมืองไทยนั้นไม่ได้ต่างอะไรกันเลยแม้แต่นิดเดียว มันเน่า ประชาชนหวังพึ่งพรรค LDP ซึ่งเป็นพรรคที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ปรากฏว่าพรรค LDP ทำงานไม่ได้ผล ก็หวังว่าพรรค DJP จะเกิดขึ้นมา ซึ่งพรรค DJP ก็มาจากบรรดาอดีตพรรค LDP ลาออกแล้วมาตั้งพรรค ก็เหมือนกับวีระ มุสิกพงศ์ สมัยก่อนตั้งกลุ่ม 10 มกราฯ แล้วก็มาตั้งพรรค โดยมีสามีคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ เป็นผู้ให้การสนับสนุน พรรคต่างๆ แตกหน่อออกมา คุณเสนาะ เทียนทอง แตกหน่อออกมาจากพรรคชาติไทย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ แตกพรรคออกมาจากชาติไทย มาเป็นพรรคชาติพัฒนา คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ มาตั้งพรรคของตัวเองขึ้นมา เปลี่ยนไปหมด คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน แตกตัวออกมาเป็นพรรคมัชฌิมาฯ พี่น้อง ล้วนแล้วแต่ตัวละครในการเมืองเก่าทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นแล้วจะเป็นพรรคใหม่โดยนักการเมืองเก่านั้น ล้วนแล้วแต่น้ำเน่าหมด ญี่ปุ่นก็เช่นกัน
แล้ววันนี้อัยการญี่ปุ่น และตำรวจญี่ปุ่น พิสูจน์ให้เห็นชัด ไม่ว่าคุณจะแตกพรรคอย่างไรก็ตาม ในที่สุดแล้วมันก็คือปลาเน่าข้องเดียวกัน ก็มีคนถามว่า ถ้าคุณอยากจะได้ปลาดี ที่สด ไม่เน่า คุณต้องตกเอง กินเอง หรือนัยก็คือ การเมืองใหม่ไม่มีเทพมาประทานให้ ต้องคิดเอง ทำเอง มันถึงจะมีโอกาสนะครับพี่น้องครับ
เล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่จะจบเรื่องนี้ วันนี้ผมอยากจะพูดถึงสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ชื่อเล่นชื่อคุณอ้วน คุณอ้วน พูดถึงเด็กสมัยนี้คงไม่รู้จักคุณอ้วน คุณอ้วนเป็นอดีตรองนางสาวไทย คุณอ้วน ชื่ออารีวรรณ จตุทอง ถ้าพูดถึงคุณอ้วนแล้วหลายๆ คนไม่รู้จัก ลองดูอดีตสามีคุณอ้วนนะ อดีตสามีคุณอ้วน เป็นคนซึ่งเคยถูกจับ ที่เขาเรียกว่าแรมบ้า เป็นคนที่ถูกจับข้อหาถ่ายวิดีโอคลิปนักศึกษาปริญญาโท และคนๆ นี้ล่ะคืออดีตสามีคุณอ้วน สมัยที่คุณอ้วนได้ตำแหน่งรองนางสาวไทย อดีตสามีคนนี้ก็ไปจีบคุณอ้วน เสร็จเรียบร้อยพอแต่งงานกัน คุณอ้วนอยู่ท่ามกลางความทุกข์ระทมขมขื่น โดนทำร้ายทำลายร่างกาย บางครั้งถึงกับบังคับให้นุ่งน้อยห่มน้อยแล้วก็ลากตัวคุณอ้วนออกมาเดินประจานในปากซอย จนชาวบ้านเขารู้กันประจำ แต่ในที่สุดแล้วคุณอ้วนก็ตัดสินใจเด็ดขาด ฉีกตัวออกมาท่ามกลางการข่มขู่ เพราะว่าตระกูลของนายแรมบ้านี้ พ่อเป็นนายพล ทหารซึ่งเกษียณอายุไปแล้ว มีอำนาจอิทธิพลพอสมควร
ตกลงไอ้นายแรมบ้า หรือไอ้บ้านี่ ในที่สุดแล้วเวรกรรมก็ตามทัน ก็โดนดำเนินคดีจนกระทั่งติดคุกมาแล้วครั้งหนึ่ง ออกมาแล้วก็ต้องติดคุกอีก เพราะว่าไปทำความชั่ว และชีวิตคุณอ้วนล่ะ คุณอ้วนนั้นไม่ได้ถอยเลยแม้แต่นิดเดียว เธอลุกขึ้นมาตัดสินใจ เพราะเธอพูดคำหนึ่งน่าสนใจมาก คำพูดที่สำคัญที่สุดที่เธอพูดก็คือว่า เมื่อเธอดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอแล้ว เธอมีความรู้สึกว่านี่คือภาพสะท้อนของสังคมไทย เพราะฉะนั้นแล้วเธอบอกว่าเธอต้องทำอะไรบางสิ่งบางอย่างเพื่อคนไทย ช่วยเหลือคนซึ่งเคยตกอยู่ในสภาพอย่างเธอ แต่ว่าไม่มีปากไม่มีเสียง ไม่มีความเข้าใจด้านกฎหมาย เธอก็ออกมา เธอมาทำนิตยสารชีวิตต้องสู้ เธอทำนิตยสารชีวิตต้องสู้นั้น เธอสู้แบบไหนรู้ไหม เธอทำคอลัมน์เรื่องเกี่ยวกับตอบคำถามปัญหาสุภาพสตรี เธอมีแฟนเยอะมาก แล้วในที่สุดเธอก็ตัดสินใจไปเรียนหนังสือ จนกระทั่งเธอจบปริญญาตรีทางด้านกฎหมาย เธอมีความรู้สึกว่าเธอไม่พอ เธอก็ไปเรียนต่อจนจบปริญญาโท จนกระทั่งวันนี้เธอจบกฎหมายมหาชนเรียบร้อยแล้ว 13 ปีที่ผ่านมา เธอออกมา เธอต้องสู้ เธอใช้ชีวิตมุ่งมั่นกับเรียนกฎหมาย เคยเป็นนักข่าว นักเขียน ด้านปรึกษาทางกฎหมาย จนกระทั่งวันนี้เธอมีชีวิตที่สงบ แต่สำคัญที่สงบนั้นยังไม่สำคัญเท่ากับเธอรู้ว่าเธอต้องการอะไรในชีวิตเธอ เธอมุ่งมั่นที่จะเดินต่อไปที่จะใช้ความรู้ทางกฎหมายนั้นช่วยประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นสุภาพสตรี แล้วเธอไม่เคยเสียดาย และเธอไม่เคยอายในเรื่องอดีต เพราะว่าอดีตนั้นเป็นสิ่งที่เธอจะต้องเรียนรู้ และในที่สุดเป็นสิ่งที่เธอจะต้องสอนตัวเองให้จำเอาไว้
เพราะฉะนั้นคุณอ้วน อารีวรรณ จตุทอง เป็นผู้หญิงวันนี้ที่น่าชมเชย และให้กำลังใจอย่างมากที่สุดครับ ท่านผู้ชมครับ วันนี้ข่าวทั่วๆ ไปนั้นก็หมดไปแล้ว เดี๋ยวจะตอบคำถามท่านผู้ชมบางคำถามซึ่งส่งเข้ามานะครับ ก็เรียนให้ท่านผู้ชมทราบว่า พรุ่งนี้อย่าลืมเด็ดขาด 2 ทุ่มครึ่ง ท่านผู้ชมมาฟังเรื่องการเมืองจากผมสักนิดหนึ่ง ผมจะเล่าประวัติศาสตร์ให้ฟังสั้นๆ นอกจากประวัติศาสตร์ที่ผมเล่าแล้ว ผมจะฟันธงลงไป ท่านผู้ชมที่เคยฟังผมพูด ถ้ามั่นใจในตัวผม เชื่อว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นไม่เคยผิด ซึ่งมีบทพิสูจน์แล้ว ท่านผู้ชมจะเข้าใจการเมืองไทยที่เกิดขึ้นเวลานี้ และจะอ่านเกมออกเลยว่าต่อจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น
ความเห็นคุณทศพล กระบี่ เห็นด้วยกับการตั้งพรรคการเมืองใหม่ / คุณกิตติศักดิ์ หาดใหญ่ ปัญหาชายแดนใต้ไม่สามารถแก้ไขได้เลย สงสารข้าราชการตำรวจ ชาวบ้านมาก / คุณชัยวัฒน์ กทม. อยากรู้ว่าใจ จอน เป็นคนไทยหรือเปล่า หรือเป็นคนชาติอื่นที่อาศัยแผ่นดินไทยอยู่ / คุณตู่ กทม. ร้านกาแฟสุทธิสาร ซอย 3 มีคนพูดเรื่องระบบประธานาธิบดีมากขึ้น / คุณพจนีย์ กำแพงเพชร เห็นด้วยกับคุณสนธิ เรื่องอาจารย์มหาวิทยาลัยชอบว่าสถาบันกษัตริย์ไม่ดี และปลูกฝังลูกศิษย์ / คนบุรีรัมย์ คนไทยบางคนชอบพูดเรื่องสิทธิมากกว่าหน้าที่ / คุณศิรินรัตน์ อุดรธานี ช่อง 3 รายการสรยุทธ เสนอแต่ข่าวเสื้อแดง เหมือนเอียงข้างเสื้อแดง - เขาไม่ได้เอียงหรอกครับ เขาเป็นพวกเสื้อแดงไปนานแล้ว / คุณสุมาลี จันทบุรี อยากให้พรรคพันธมิตรฯ มีท่านกษิต เป็นหัวหน้า บอกคุณอภิสิทธิ์ว่า ถ้าไม่ทำอะไรจะไม่เลือก ปชป.อีก
ยังมีอีกหลายต่อหลายความเห็นครับ ท่านผู้ชมครับ วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2552 ประเดี๋ยวต่อไปก็เป็นรายการพี่ปอง แต่วันนี้พี่ปองไม่อยู่ พี่ต้นก็ไม่อยู่ อยู่แต่พี่เก๋ของผม และคุณเจนจัด พี่เก๋อย่างที่บอกว่า ไม่ได้หนีไปไหน ไม่ได้ไปลดความอ้วนอะไรทั้งสิ้น ได้เจอมาแล้วพี่เก๋ 2-3 ครั้ง สวยขึ้นเยอะ น่องเล็กลงเยอะ เพราะว่าผอม เพราะว่าเตรียมตัวที่จะเรียนปริญญาโทให้จบด้วยการทำวิทยานิพนธ์
ก็จบลงด้วย What a Wonderful World ในเวลา 07.00 น. ออกจากบ้านเดินทาง ทำอารมณ์ให้ผ่องใส ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่มันแก้ไม่ได้ ถ้าแก้ไม่ได้ก็ปล่อยมันผ่านไป สร้างลิ้นชักในสมองไว้เยอะๆ อะไรถ้ามันกลุ้มใจนัก แก้ไม่ได้ ก็จับใส่ลิ้นชักและปิดลิ้นชัก และลืมมันไปเสีย ในทางพุทธเขาเรียกว่าให้ปล่อยวางครับท่านผู้ชม สวัสดีครับ"