“สนธิ” อัดพวก “ซุกกระโปรง” หนุนแก้ กม.หมิ่นฯ จวก “ไอ้ตู่” โกหกเป็นสันดาน

“สนธิ” อัดยับ “นักวิชาการ-อาจารย์” เรียกร้องแก้กฎหมายหมิ่นฯ แค่พวก “ซุกชายประโปรง” อ้างเพื่อเสรีภาพการแสดงความเห็น ย้อนถามสมัย “นช.แม้ว” ยุบ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ทำไมไม่ออกมาโวยวายบ้าง จวก “ไอ้ตู่” คำพูดส่อสันดาน ติดนิสัยโกหกพกลม เชื่ออนาคตจบไม่สวนแน่


คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "Good Morning Thailand"

รายการ “Good Morning Thailand” ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 06.00-07.00 น.วันจันทร์ถึงศุกร์ สำหรับวันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2552 ได้นำข่าวคราวต่างๆ มาวิเคราะห์ และนำเสนออย่างหลากหลายเช่นเคย

“สวัสดีครับ ท่านผู้ชมครับ พ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้เป็นวันศุกร์อีกแล้ว ที่ 6 มีนาคม 2552 ครับ วันนี้ ก็กลับเข้ามาสู่ห้องส่งที่มีผนัง 4 ด้าน มีแต่ความเงียบเหงา ไม่เหมือนเมื่อวานที่นั่งอยู่ริมทะเลที่สมุยนะครับ พี่น้องครับ

วันนี้ รายการ Good Morning Thailand ก็จะมีเรื่องราวหลายๆ เรื่องเหมือนเดิม เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เราจะเลือกเรื่องที่มีนัยยะและก็อธิบายที่มาของเรื่องราว เพื่อให้พ่อแม่พี่น้องและท่านผู้ชมได้เข้าใจว่า เรื่องต่างๆ ที่ท่านผู้ชมและพ่อแม่พี่น้องได้เห็นนั้นเนี้ยะ นัยที่แท้จริงเป็นยังไง วันนี้เรามีของแจกนิดหน่อย ท่านผู้ชมหลายท่านฟังเพลงไตเติลของเรา ก็คือ What a Wonderful World นะครับ ซึ่งเป็นเพลงของ หลุยส์ อาร์มสตรอง นี่ร้องมาเมื่อปี 1967 และเพลงนี้ก็โด่งดังทั่วโลก และก็ด้วยเสียงที่เรียกได้ว่า เสียงกรวดหินที่ราดบนถนน บางคนเรียกว่า เสียงทราย ไม่ทรายหรอกครับ เสียงของ หลุยส์ อาร์มสตรอง นั้นทั้งแหบ ทั้งห้าว เหมือนคนหลอดเสียงแตก แต่ว่าเป็นเสน่ห์ หลุยส์ อาร์มสตรอง นั้น เกิดมาก็ปี 1901 และพูดถึงอายุ ณ วันนี้ ก็ประมาณ 100 กับอีก 8 ปี แน่นอนครับเสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 1971 เสียชีวิตไปแล้วตั้ง 38 ปี หลุยส์ อาร์มสตรอง นั้น มีชื่อเล่น เขาเรียก “แซทช์โม” (Satchmo) และก็มีอยู่ครั้งไปที่งานที่ลอนดอน และมีคนร้องเพลง hello Satchmo มันก็เลยกลายเป็นเพลงโด่งดังของหลุยส์ อาร์มสตรอง ในชื่อที่ว่า เฮลโล ดอลลี่ (Hello Dolly) จำได้ไหมฮะ

วันนี้เราเอาซีดี ดิเอสเซนเซียล (The Essential) ของ หลุยส์ อาร์มสตรอง เนี้ยะมาแจกให้ท่านผู้ชม ท่านผู้ฟัง นะครับ 3 ชุด แจกฟรี เฉพาะคนที่โทร.เข้ามาสายที่ 10 สายที่ 20 และสายที่ 30 จะได้รางวัลนะครับ

เรื่องที่ 2 ขอพูดเรื่อง คอนเสิร์ตการเมืองที่ลอสแองเจลิส นิดหนึ่งนะครับ ใกล้มาแล้วครับ อีก 7 วันเท่านั้นเอง ที่พ่อแม่พี่น้องที่สหรัฐฯ จะได้มีโอกาสได้ดูคอนเสิร์ตการเมือง ก็เป็นที่น่าเห็นใจพี่น้องที่อยู่เมืองไกลๆ นั้น ราคาค่าคอนเสิร์ต 30 เหรียญจริง แต่ค่าเดินทางเป็นร้อยๆ เหรียญ และในภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำแบบนี้ หลายท่านก็ไม่สามารถจะมาได้ ก็ต้องเก็บเงินเก็บทอง

จะอย่างไรก็ดี ยังไงก็ต้องเรียนท่านพ่อแม่พี่น้องให้ฟังนิดหนึ่งว่า ถ้ามาไม่ได้ ไม่เป็นไรครับ ส่งใจมาก็ได้ และขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องที่ให้โอกาส และสนใจร่วมคอนเสิร์ตการเมือง ที่สำคัญอันหนึ่งต้องขอบพระคุณ PAD USA นะฮะ ผมชอบเรียกว่า พาดูซ่า คือว่า ท่านพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ USA ซึ่งเป็นผู้จัดทำ และเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลายร้อยคน และมีแกนนำ 20-30 คน ซึ่งพันธมิตรฯ USA นั้น ก็รวมตัวกันหมด ไม่ว่าจะเป็นที่ลอสแองเจลิส ชิคาโก ดี.ซี. นิวยอร์ก นะฮะ ลาสเวกัส ช่วยคนละไม้คนละมือ ทุกคนทุ่มเทให้หมดครับ ที่ทุ่มเทให้ไม่ใช่เพราะผม แต่ทุ่มเทให้เพราะการกระทำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น กระทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และราชบัลลังก์ อย่าลืมนะครับ วันที่ 14 วันเสาร์นี้ ส่วนท่านผู้ชมที่พี่น้องพันธมิตรฯ ที่อยู่ในประเทศไทย ผมต้องขออนุญาตกราบลาไปก่อนนะครับ ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปวันจันทร์ พร้อมทีมงาน หรือว่าจะมาออกรายการ แต่คิดว่าวันจันทร์จะออกรายการให้พ่อแม่พี่น้องก่อนนะครับ และถ้าจำเป็นต้องไป วันอังคาร ก็จะไปวันอังคารแทนจะไปวันจันทร์ เอาเป็นว่าวันจันทร์นี้ อาจเป็นวันจันทร์สุดท้ายของรายการ Good Morning Thailand ที่จะขอหยุดชั่วคราว มีความจำเป็นจริงๆ ครับ ถ้าไปที่ต่างจังหวัดนั้น อย่างที่ไปสมุย ก็สามารถที่จะออกสดได้ นะครับ พี่น้องครับ

พี่น้องครับ วันนี้มีเรื่องที่ผมจะพูดหลักๆ มันมีเยอะ แต่เอาเป็นหลักๆ เรื่องใหญ่ๆ มีอยู่ 2-3 เรื่องเท่านั้นเอง เรื่องที่อยากจะพูดมากๆ คือ เรื่องการล่าชื่อ 50 นักวิชาการของฝรั่ง แก้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแนวร่วม อันนี้เป็นแนวร่วมของ นายใจ อึ๊งภากรณ์ นายจักรภพ เพ็ญแข กลุ่มเสื้อแดง ที่ล้มสถาบันฯ และก็ นายแฮรี่ นิโคลายส์ ซึ่งเป็นชาวออสเตรเลีย ที่ถูกจำคุก คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ 3 ปี และได้รับพระราชทานอภัยโทษนั้น กลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มพวกนี้ กลุ่มพวกนี้ตอนนี้ใช้หัวหอกของอาจารย์คนหนึ่ง อาจารย์อีกแหละ พี่น้อง ประเทศไทยนี่มีปัญหากับอาจารย์จริงๆ อาจารย์ที่มีเหตุมีผล หรืออาจารย์ที่รักชาติ รักบ้าน รักเมืองนี่ เดี๋ยวนี้หายาก มักจะชอบใช้คำว่า เพื่อสิทธิเสรีภาพในทางความคิด นะครับ อาจารย์คนนี้ ชื่อ ธงชัย วินิจกุล

วันนี้จะคุยกันให้ฟัง ว่า นายธงชัย วินิจกุล นั้น คือใคร มาจากไหน และทำไมเกิดกระบวนการอย่างนี้ วิวาทะของ นายธงชัย นั้น มีช่องว่างและจุดอ่อนเยอะแยะไปหมด แต่ว่าสังคมไทยไม่ค่อยรับรู้เรื่องนี้ เพราะสื่อมวลชนไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญอะไร นอกจากสื่อ เอเอสทีวี ซึ่งเป็นทีวีของประชาชน

แต่ก่อนอื่นเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ผ่านไปให้จบๆ ซะก่อน ทุกคนจะได้เข้าใจก่อน อย่างที่ข่าวเช้าได้พูดไปแล้ว ก็คือ สมเด็จพระเทพฯ ทรงเป็นองค์ประธานเปิดรถไฟสายประวัติศาสตร์ไทย-ลาว ก็ต้องเป็นสายประวัติศาสตร์จริงๆ เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่สุดในประวัติศาสตร์จริงๆ ที่มีทางรถไฟเชื่อมทางไทย-ลาว จริงๆ แล้วการเชื่อมทางกัน มีคนเคยคิดตลอดเวลาว่า อินโดจีน หรือที่เราเรียกว่า สุวรรณภูมิ นั้น สามารถเชื่อมต่อกันได้จากกรุงฮานอย กรุงฮานอย ทางเหนือของเวียดนามนั้น สามารถจะเชื่อมต่อไปกับทางมณฑลกว่างซี ของประเทศจีน ได้โดยทางรถไฟ ซึ่งทุกวันนี้เขาก็มีกันอยู่แล้ว จากฮานอยวิ่งเป็นทางรถไฟหรือรถยนต์ก็ได้ คือถ้าผมพูดถึงทางรถยนต์ กับทางรถไฟจะเหมือนกัน เพราะว่ารถไฟสามารถจัดวางราง และถนนสามารถจะวางคู่กับรถไฟได้ สามารถจะเชื่อมจากฮานอยลงมาสู่ดานัง เมืองดานัง และจากดานัง ตัดเข้าเส้นทางหมายเลข 9 ข้ามมาที่ลาว เข้าสุวรรณเขต จากสุวรรณเขต เข้าประเทศไทย

ส่วน ลาว นั้นก็สามารถจะเชื่อมวิ่งตรงขึ้นไปเลย หรือวิ่งไปทางหลวงน้ำทา หรือประเทศไทย ก็เชื่อมจากสามเหลี่ยมทองคำ เข้าสู่หลวงน้ำทา หลวงน้ำทาเข้าสู่พม่า เข้าทางด้านเหนือพม่าที่เขาเรียกว่า เมืองรุ่ยลี่ จาก รุ่ยลี่ แล้วก็ต่อตัดออกไปเข้าสู่คุนหมิง จากคุนหมิงก็สามารถตัดไปทางตะวันออก ไปสู่จีนทางตะวันออก หรือว่าขึ้นไปเหนือไปสู่เสฉวนได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ความเป็นไปได้นี้ มันเป็นไปได้อยู่แล้ว

วันนี้ระยะทางของรถไฟไทยที่ลาวจับมือกันที่วิ่งจากหนองคาย สะพานข้ามพรมแดนที่หนองคาย เข้าไปในประเทศลาวเนี้ยะ ถึงแม้จะมีเพียงแค่ 3 กิโลเมตรครึ่ง แต่เป็นนัยทางประวัติศาสตร์ ที่ให้เห็นว่า การเดินทางที่จะเชื่อมด้วยโครงสร้างทางคมนาคมหลัก เช่น รถไฟนั้น มีความเป็นไปได้แล้ว ถึงแม้จะเป็นแค่ 3.5 กิโลเมตร ก็ขอแสดงความยินดีด้วยกับมิติทางประวัติศาสตร์ที่กำลังเริ่มขึ้น หวังว่า ไม่ต้องหวังละครับ หวังว่าคนลาวคงจะเก็บสิ่งดีๆ ที่ประเทศไทยเหลือน้อยอยู่เอาไว้ และปฏิเสธสิ่งเลวๆ ที่ประเทศไทยได้รับมาจากพวกทุนสามานย์ ทุนนิยมเห็นแก่ตัวในอดีตที่ผ่านมาเป็น 10 ปี

เรื่องที่ 2 คือ ท่านนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านไปเป็นประธานวันเปิดงานวันนักข่าว ฉลองครบรอบ 54 ปี ของ สมาคมนักข่าวหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และกล่าวปาฐกถาพิเศษในเรื่อง การปฏิรูปการเมือง การปาฐกถาครั้งนี้จริงๆ เป็นการปาฐกถาที่แสดงวิสัยทัศน์ของการปฏิรูปการเมืองจริงๆ ท่านนายกฯอภิสิทธิ์ ท่านพยายามชี้ให้เห็นว่า การปฏิรูปการเมืองนั้น สรุปง่ายๆ ท่านสรุปว่า ถ้าผมสรุปข้อความ ท่านกำลังพูดว่าการเมืองนั้น นักการเมืองต้องรู้จักพอเพียง ในขณะเดียวกัน การเมืองก็ต้องรู้จักพอเพียงเหมือนกันนะครับ มันมีกรอบ มีจารีตประเพณีหลายอย่าง ซึ่งการเมืองไม่ควรก้าวล่วง หรืออีกนัยหนึ่งคือว่า ถ้าการเมืองมีอำนาจมากจนเกินไป และไม่รู้จักพอเพียง การเมืองก็มีโอกาสที่จะใช้การเมืองมาเปลี่ยนโครงสร้างของสังคมได้

ทีนี้การเปลี่ยนโครงสร้างสังคมนั้น ถ้าเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจให้ประชาชนกินดีอยู่ดี ดีขึ้น ที่สำคัญ คำว่า กินดีอยู่ดีนั้น เราต้องอธิบายความหมายนี้เสียก่อน เอะอะไรเราก็บอกว่า ผมเข้ามา ผมต้องการให้ประชาชนกินดีอยู่ดี แต่คำว่า กินดีอยู่ดีมันจะต้องหมายถึงว่าความยุติธรรมในการทำมาค้าขาย หรือในการครองชีพ หรือจะวัดการกินดีอยู่ดี ต้องสามารถที่จะลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนให้แคบลงๆ และให้คนมีเงิน ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยในสังคมนั้น รับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น แต่วันนี้ คำว่า กินดีอยู่ดี คือว่า ไปมองว่า รากหญ้ามีเงินใช้ รากหญ้ามีทีวีดู มีรถยนต์ใช้ มีมอเตอร์ไซค์ใช้ มีโทรศัพท์มือถือใช้ จบละ ทุกคนมีบ้านอยู่ แต่ว่าอยู่แบบไหน สรุปแล้ว คำว่า กินดีอยู่ดี ในอดีตของนักการเมืองคือว่า กินดีอยู่ดี โดยการเป็นหนี้มากๆ ใช้ไหมฮะ

เมื่อวานนี้ผมเจอ คุณวิโรจน์ นวลแข นั่งทานกาแฟกัน ผมก็ว่า เฮ้ย ช้อยคือ เขาชื่อเล่นชื่อ ช้อย เอ้ยช้อย เราคนแก่ 2 คน ไม่มีงานทำเว้ย เรามานั่งคุยกัน มาดูกัน และเรามามองย้อนหลังนะ ผมว่าถ้ามีอะไรในอดีตที่เราทำมาแล้วเราทำผิดพลาด และเรากล้าพอที่ยอมรับความผิดนี้ เหมือนอย่างคุณ ผมเรียกคุณช้อยเขาว่า เฮีย อย่างเฮีย เฮียเคยเป็นวาณิชธนกิจ ภัทรธนกิจ ยิ่งใหญ่มาก สมัยก่อนเฮียก็มองว่าตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ การซื้อขายบริษัท การควบรวมบริษัทนั้นเป็นชีวิตจิตใจเฮีย แต่วันนี้เฮียยอมรับใช่ไหมว่า ไอ้วิธีการที่เฮียทำในอดีต มันไม่เวิร์กในปัจจุบัน ในที่สุดมันก็จบลงด้วยความพอเพียง คุณวิโรจน์ ก็เห็นด้วย และเราสองคนก็มีความรู้ว่า ไม่ไหวแล้วนะ วงจร

พี่น้องและท่านผู้ชมจำได้ไหม ที่ผมเคยพูดให้พี่น้องฟังและท่านผู้ชมฟังทางเอเอสทีวีบนเวที ความจริงบนเวทีปราศรัย ไม่ว่าจะเป็นมัฆวาน ทำเนียบ หรือที่ไหนก็ตาม ท่านผู้ชม และพ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรฯ ถ้าเอาเทปนั้นมาย้อนกลับดูอีกที มันเป็นความจริงหมดนะ บางเรื่องเราพูดถึงอนาคต อนาคตมาถึงแล้ว และมันเป็นความจริง ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ จำไม่ผิดผมเคยพูดว่า สมัยผมกับคุณวิโรจน์ยังหนุ่มๆ เราสองคนผ่อนบ้าน เราผ่อน 15 ปี บ้านเป็นของเราแหละ คำว่าบ้าน เราไม่ได้มีคฤหาสน์ที 5 ไร่ 10 ไร่ นะ ที่ดิน 100 ตารางวา 200 ตารางวา ซึ่งสมัยนี้ คนพวกนี้ถือว่าเยอะแล้ว เดี๋ยวนี้แค่ 50 ตารางวา 80 ตารางวา ก็ถือว่าเยอะแล้ว ที่ดินขนาดนั้น 100 200 ตารางวา พร้อมบ้าน เราผ่อนประมาณ 15 ปี หมดหนี้สิน รถยนต์คือประมาณ 3 ปี วิโรจน์ นวลแข กับผมก็คิดในใจและพูดกันว่า เฮ้ย พวกเรานี่พอ 45 แล้ว เราไม่มีหนี้แหละ มีบ้านเป็นของตัวเอง มีรถไม่ต้องผ่อน มีเงินเดือนที่ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน เริ่มเหลือแหละไม่ต้องผ่อน

เพราะฉะนั้นแล้ว เงินที่เหลือทำไง ก็เอาไปฝากประจำ เอาไปซื้อหลักทรัพย์ดีๆ เช่น ปูนซิเมนต์ไทย หรือหลักทรัพย์ยั่งยืน ไม่ใช่ซื้อหลักทรัพย์ประเภทถูกปั่น เอาไปลงด้านทรัพย์สิน ซื้อที่ดินมั่ง แม่บ้านเขาอาจเอาเงินไปผ่อนที่ดินซัก 2 แปลง เดือนละ 2,000 บาท ผ่อนไปเรื่อยๆ กะรอว่าพอลูกโต ลูกก็จะมีที่ดินปลูกบ้านของตัวเอง และถ้าเป็นลูกสาวก็สามารถอยู่กับสามีได้กรณีลูกเขยไม่มีเงิน ก็ยกที่ดินให้ลูกสาวและทางลูกเขยก็เอาเงินมาสร้างบ้าน หรือลูกชายอยากจะแยกบ้านอยู่ ทั้งหมดนี้ คือการสร้างทรัพย์สินของคนหลังจากผ่อนหมดแล้ว เมื่อพ้นวัย 45 ปี แต่ปรากฏว่า ไอ้ที่ผ่อน ที่ซื้อบ้าน ที่ซื้อทรัพย์สินและที่ฝากแบงก์ นั่นคืออะไร นั่นคือ ทรัพย์สินที่แท้จริงของชาติบ้านเมือง อย่าไปมองชนชั้นกลาง เพียงอย่างเดียว มองทั่วประเทศ สมัยก่อนเขาทำกันอย่างนี้ ในเมื่อคนเป็น 10 ล้านคน 20 ล้านคนทำอย่างนี้ พื้นฐานการออมทรัพย์มันจะเยอะ และพื้นฐานการออมทรัพย์นี่ใครใช้ละ ก็คนรุ่นหลังไง รุ่นลูก รุ่นหลานเราเป็นคนที่มาขอยืมจากพื้นฐานทรัพย์สินอันนี้ เพราะเงินที่เราฝากเราก็ไปฝากแบงก์ ถูกไหมฮะ ทรัพย์สินที่เรามี เราก็มีเพื่อขายต่อ เพราะฉะนั้นแล้วมันก็เป็นวงจร ว่า คนรุ่นหนึ่ง คนรุ่นนี้ ทำงานเมื่อ 45 ปีแล้ว มีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง มีบ้านมีรถ ก็เริ่มใช้ส่วนเวลาที่เหลืออีก 15 ปี สะสมทรัพย์สินเพื่อให้เป็นพื้นฐานให้คนรุ่นลูกได้กู้ยืมต่อไป และเขาก็ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ เป็นวงจร

ผมกับวิโรจน์ ก็บอกว่า วงจรนี้ขาดแล้วตอนนี้ ขาดตรงไหน ขาดตรงที่ว่า มารุ่นลูกเรา แทนที่ผ่อนบ้าน 15 ปี กลายเป็นผ่อน 30 ปี หมายความว่ายังไง หมายความว่าถ้าลูกเราเริ่มผ่อนบ้านได้ตอนอายุ 30 60 เกษียณพอดีเลย ถึงจะได้ทรัพย์สินเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นโอกาสลูกหลานเราที่จะออมทรัพย์สะสมทรัพย์ เก็บทรัพย์ไว้ให้รุ่นต่อไปเขามาได้ใช้ต่อไม่มีแล้ว ไม่มี เพราะงั้นฐานที่มันเคยกว้างก็เลยกลายเป็นฐานที่กลายเป็นทรงกรวยแหละ ใครจะไปออมซื้อ แม้กระทั่งวันนี้ คนที่มีเงินออมทรัพย์จะไปออมทำไม ดอกเบี้ย 0.5% เพราะฉะนั้นมีความผิดปกติ การออกแบบทางการเงินทุกวันนี้ อย่าไปออกแบบทางการเงินเพื่อหวังลมๆ แล้งๆ แบบทางตะวันตก ว่า เออ พอ มีวิกฤตเศรษฐกิจแล้วลดดอกเบี้ย โดยหวังว่า การลดดอกเบี้ย คือ การลดต้นทุน ในข้อเท็จจริงการลดดอกเบี้ย ไม่ได้ลดต้นทุน เพราะดอกเบี้ยเงินกู้ มันได้ลดจริง แต่ลดต้นทุนนิดหนึ่ง แต่ใครจะได้ส่วนลดต้นทุน คือ บริษัทใหญ่ๆ ที่กู้ได้ ส่วนชาวบ้านธรรมดาชนชั้นกลาง ไม่มีใครให้กู้ได้ เพราะต้นทุน เขาไม่ได้เสียหาย แต่กลับไปทำร้ายทำลายคนซึ่งอายุมาก คนที่ออมทรัพย์ เพราะฉะนั้นแล้ว ตรงนี้ไงละครับ ที่เราต้องพูด เพราะเศรษฐกิจครั้งนี้ จะลงลึกและลงยาว พี่น้อง

ญี่ปุ่น นายอาโซะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น รับเป็นครั้งแรกและอย่างรุนแรงเลย ว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะคงดิ่งลงต่อไป โดยไม่รู้ว่าสิ้นสุดตรงไหน พี่น้องครับ ถ้าเรามองดูเศรษฐกิจโลก ว่าจะดีหรือไม่ดี ให้มองดู 4 ประเทศ วันนี้ 4-5 จุด จุดแรก คือ สหรัฐฯ จุดที่ 2 คือ ยุโรปตะวันตก จุดที่สาม คือ ญี่ปุ่น จุดที่สี่ คือ จีน 4 จุดนี้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจจริงๆ อเมริกา เราพูดไปแล้ว พังทลายหมดแหละเรียบร้อย มาวันนี้ สถานภาพของรถยนต์อเมริกา ยิ่งวันยิ่งลดลงมากขึ้น อย่างที่เขาบอกว่า การดูอุตสาหกรรมรถยนต์นั้นเป็นการบอกวิสัยทัศน์ หรือเป็นการพยากรณ์ทิศทางเศรษฐกิจได้ ถ้าอุตสาหกรรมรถยนต์มีแนวโน้มไปได้ดี แสดงว่าเศรษฐกิจปีนี้ ดี ถ้าสถานการณ์รถยนต์ตกต่ำ ก็แสดงว่า เศรษฐกิจจะเริ่มตกต่ำ

เหมือนครั้งหนึ่งสมัยที่ คุณเทียม โชควัฒนา ประธานกรรมการเครือสหพัฒนพิบูล ซึ่งผมเคารพนับถือเป็นผู้ใหญ่ ที่จริยธรรม มีศีลธรรม และเป็นคนน่ารักมาก ผมเรียกท่านว่า นายห้างเทียม ผมหนุ่มๆ อยู่ชอบไปคุยกับท่าน ในห้องท่านจะมีจอโทรทัศน์ 5-6 หอ ทุกช่องเลย ท่านจะนั่งดูโทรทัศน์หมดเลย ท่านดูโฆษณาอันโน้นอันนี้ ถ้าท่านจะออกความเห็น และภาพยนต์เรื่องเปาบุ้นจิ้นเนี้ยะ พี่น้องรู้ไหมว่าเป็นความคิดในการตั้งชื่อผงซักฟอก เปาบุ้นจิ้น มาจาก นายห้างเทียม โชควัฒนา เพราะตอนนั้นนายห้างเทียมจะออกผงซักฟอกอันหนึ่ง เผอิญสหพัฒน์มีรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ซึ่งโด่งดังมาก และคนติดกันมาก ชื่อรายการเปาบุ้นจิ้น คนนั้นก็จะคิดชื่อฝรั่ง ชื่อญี่ปุ่น แกบอกไม่ต้องเลย เปาบุ้นจิ้น คือ สัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม เพราะฉะนั้น ผงซักฟอกชื่อเปาบุ้นจิ้น ย่อมซื่อสัตย์ยุติธรรม ซื่อสัตย์คือซักเท่าไรก็ขาวเหมือนเดิม ยุติธรรมคือราคา มีเหตุมีผล

กลับมาที่ นายห้างเทียม นายห้างเทียม บอกว่า สนธิ ลื้อไม่ต้องไปฟังนักเศรษฐศาสตร์คนไหน จบดอกเตอร์จากที่ไหน ลื้ออย่าไปฟังมัน ลื้อมาดูว่า สหพัฒน์ปีนี้ขายดีไหม ถ้าสหพัฒน์ขายดี แสดงว่า เศรษฐกิจดี ถ้าสหพัฒน์ขายไม่ดี เศรษฐกิจไม่ดี และจริงๆ สินค้าสหพัฒน์เป็นตัวชี้เศรษฐกิจ ถ้าดูยอดขายบะหมี่ มาม่า ถ้ายอดขายปกติ ทั่วไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้ายอดขายสูงฮวบทันที แสดงว่า คนเลิกทานข้าวข้างนอกแล้ว ซื้อบะหมี่มาต้มกินกัน ฉันใดฉันนั้น อุตสาหกรรมรถยนต์ ที่สหรัฐฯวันนี้ เขาบอกว่า ยังไม่เห็นทางออกเลย เขาบอกว่า ยังไม่ถึงก้น ก้นเหว เหมือนสภาวะการเงินเหมือนกัน นายพอล ครุกเมน และ นายจอร์จ โซรอส ก็พูดเหมือนกัน ว่า สถานการณ์ล้มสลายทางการเงินนั้น ยังไม่ถึงก้นเหวเหมือนกัน

พี่น้องครับ กระโดดจากที่นี่ไปสวิตเซอร์แลนด์หน่อย ที่สวิตเซอร์แลนด์ พี่น้องรู้ไหมเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้รัฐบาลสวิสกำลังกลุ้มใจ เหงื่อตก กลุ้มใจกับธนาคารยูบีเอส ซึ่งพวกนักการเมืองเมืองไทยหลายๆ คนชอบแอบเอาเงินไปฝาก ยูบีเอส ขาดทุนอย่างมหาศาล เมื่อขาดทุนมหาศาลแล้ว เขาก็เอาประธานกรรมการ ธนาคารเครดิตสวิส เครดิตสวิส นี่เป็นคู่แข่ง ยูบีเอส มาเป็นประธานกรรมการยูบีเอส แต่เป็นอย่างนั้นยังไม่พอ พี่น้องจำ ซิตี้กรุ๊ป ได้ไหม ซิตี้แบงก์ จะเจ๊ง รัฐบาลอเมริกันต้องเอาเงินใส่ไปช่วย เท่าไรหล่ะ 100,000 ล้านเหรียญ 150,000 ล้านเหรียญ เอไอจี จะเจ๊ง รัฐบาลใส่เงินช่วย 200,000 ล้านเหรียญ ทีนี้ เขาบอกว่า รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ บอกว่า ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มันเล็ก ทรัพย์สินมันมีน้อยมาก การที่จะเอาเงินไปใส่ยูบีเอส หมายความว่า ไม่ไหวแล้ว

แต่ขณะเดียวกัน ถ้าปล่อยให้ยูบีเอสเจ๊ง อะไรเกิดขึ้น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จะหมดความเชื่อถือทุกอย่าง พอหมดความเชื่อถือ เกิดอะไรขึ้น หมายความว่า สวิตเซอร์แลนด์ มีชีวิตอยู่ได้ เพราะประเทศต่างๆ ในโลกมีความเชื่อมั่น เชื่อมั่นในความมั่นคงของสวิตเซอร์แลนด์ เพราะฉะนั้นถ้ายูบีเอสสั่นคลอน ใครก็ไม่เชื่อมั่นสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อประเทศที่ขายตัวเองบนพื้นฐานความเชื่อมั่นไม่สามารถให้คนเชื่อมั่นได้ ประเทศนั้นก็เจ๊งแล้วสิพี่น้อง เพราะฉะนั้นแล้ว นายกฯ กับประธานาธิบดีของสวิตเซอร์แลนด์ เหงื่อแตกทุกคน และเศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์จะเริ่มตก

เอาละ ผมพูดถึงยุโรป ยุโรปนี่เรียบร้อย อเมริกาเล่าให้ฟังแล้ว ยุโรปเอาสวิตเซอร์แลนด์เป็นตัวอย่าง อังกฤษเหมือนกัน อังกฤษวันนี้เศรษฐกิจตกต่ำมาก ตกต่ำจนกระทั่งคนว่างงานเป็นแถว ว่าง ธนาคารพังเป็นแทบๆ นอร์ทเทิร์น ร็อก คือ ธนาคาร ชื่อ คือ ฝรั่งเขาตั้งชื่อเขาจะเอาสัญลักษณ์มา เช่น ธนาคาร นอร์ทเทิร์น ร็อก คือ หินทางเหนือ มั่นคงดั่งหินทางเหนือ มีบริษัทประกันชีวิตประกันภัยอันหนึ่ง ที่ยุโรป อังกฤษ เขาใช้ชื่อว่า The Rock เขาหมายถึง แหลมของช่องแคบยิบรอลตา คือมีก้อนหินมหึมาก็ใช้อันนี้ ก็ยังดีนะ เมืองไทยยังไม่มีใครตั้ง ชื่อ ธนาคารหรือสถาบันการเงินตามชื่อภูเขา

ยุโรปไปเรียบร้อย อเมริกาไปเรียบร้อย คำว่า ไปเรียบร้อย ไม่ใช่ไปแล้วจบ คนเราเวลาลงเหว พอถึงพื้น อย่างน้อยที่สุดมันรู้แหละ มันจบแหละ เหลืออย่างเดียว ฟื้นฟูกิจการ ฟื้นฟูสุขภาพ และค่อยๆ ปีนขึ้นไป ปัญหาใหญ่ตอนนี้ คือ ยังอยู่ระหว่างการตก ยังไม่เห็นพื้นเลยแม้แต่นิดเดียว

มาที่เอเชีย เอเชียต้องดู 2 จุด เอเชียต้องดู 3 จุดก็ได้ เอ้าผมให้ดู 4 จุด ดูอะไร 5 จุดละ ผมให้ดูจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ ถ้าเราดูให้ดีๆ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ นั้น เป็นประเทศที่เขาเรียกว่า เอ็กซ์ปอร์ต เบส (Export Base) คือ ชีวิตมีความเป็นไปได้และอยู่ได้อย่างสุขสบาย จากรายได้การส่งออก ปรากฏว่า รายได้การส่งออก ก็คือ เราส่งของไปขายคนพวกนั้น ทางยุโรป อเมริกา มันไม่ซื้อแล้ว มันจะไปซื้อได้ยังไง ขนาดของถูกๆ อย่างจีน มันยังไม่ซื้อเลย เพราะทุกวันนี้ คนประหยัดเงินไปหมด พี่น้องรู้ไหมที่อเมริกาบริษัทรถยนต์ ไครสเลอร์ ขนาดบริษัทรถยนต์ ไครสเลอร์ พยายามให้ส่วนลดรถยนต์ เพิ่มมูลค่าให้ บวกให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เท่ากับ ไครสเลอร์ ลดราคารถยนต์คันละ 5,000 กว่าเหรียญ พี่น้อง รถยนต์คันหนึ่ง 20,000 เหรียญ ลดให้ 5,000 กว่าเหรียญ ยังไม่มีใครซื้อ อเมริกา 20% ของผู้ที่มีบ้านในอเมริกา ค้นพบว่า ได้ซื้อบ้านในราคาที่แพงกว่ามูลค่าที่แท้จริงถึงเท่าตัว เพราะอะไร เพราะสมัยหนึ่งก่อนอเมริกาล้ม มีการปั่นราคาบ้าน คนซื้อบ้านในราคาถูก แต่ ในราคาแพง แต่ว่าผ่อนส่งดาวน์ถูก และสามารถสู้ได้ เพราะว่า ตลาดถูกอ้างอิงว่า ตลาดบ้านขึ้นตลอดเวลา คือ ซื้อบ้านหลังนี้ 500,000 เหรียญ พรุ่งนี้ ขายได้ 600,000 เหรียญ คนก็เลยซื้อกันใหญ่ เหมือนเมืองไทยทุกวันนี้ เมืองไทยดาวน์ 10% ซื้อไปเถอะ พยายามปั่นว่า เดี๋ยวราคาขึ้น อสังหาริมทรัพย์บ้านเราก็เริ่มเจ๊งเหมือนกัน ไม่ใช่เริ่มละ เจ๊งแล้ว เพราะฉะนั้น บ้านเป็นพื้นฐาน ที่อเมริกาก็จะฟื้นยาก บารัค โอบามา ทุกๆ คนบอกเลย นักเศรษฐศาสตร์ทุกคน

พวกนักเศรษฐศาสตร์นี่แหละตัวดี เอ็มบีเอนี่แหละตัวดี ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นเพราะเราใช้เศรษฐศาสตร์ทางตะวันตก คือ เศรษฐศาสตร์ทางการตลาด เอ็มบีเอ อะไร เอ็มบีเอ คือ การเรียนไปเพื่อทำกำไรอย่างเดียว สอนให้คนค้าขาย ทุกอย่าง ไม่สำคัญ พอเพียงไม่สำคัญ เป้าหมายคือกำไร และสอนกันจังพี่น้อง ทุกมหาวิทยาลัย ราชภัฏยังสอนเอ็มบีเอ ทุกแห่งนี่จะบ้ากันเหรอ ยังดูไม่ออกเหรอ โลกทุกวันนี้มันเจ๊งเพราะเอ็มบีเอ และพวกคุณก็ไปเลียนแบบวิชา การสอน ปรัชญาทุกอย่างจากตะวันตก ซึ่งพวกเอ็มบีเอ คือ พวกที่ทำให้เศรษฐกิจโลกมันเจ๊ง และคุณจะสอนเด็กไทยให้มันเลียนแบบไป ใจผมยังคิดเลย ว่า วิทยาลัยไหนที่ดี วิทยาลัยไหนควรจะชะลอเอ็มบีเอ หรือพลิกเปลี่ยนว่าเอ็มบีเอ เพื่อความพอเพียง ไม่เคยมีใครคิดการบริหารจัดการทางธุรกิจมีความสำคัญ แต่ว่า จัดการทางธุรกิจเพื่อความพอเพียง อันนั้นสำคัญกว่า ตลก เราชอบเลียนแบบตะวันตก การศึกษาเลียนแบบเขาหมด

วันนี้เด็กจบใหม่ จบ บีบีเอ พอถามว่า อยากเรียนปริญญาโทอะไร หนูอยากเรียนเอ็มบีเอ ยังโง่อยู่เหมือนเดิม ภูเขาถล่มทลายอยู่ข้างหน้า ยังบอกว่าหนูอยากเรียน ผมอยากเรียนเอ็มบีเอ โถ่ ลูกหลานเอย คิดซะหน่อย ปัญหา คือครูบาอาจารย์ของสถาบันการศึกษามีไม่น้อยที่คิดไม่เป็น มองถึงความพินาศฉิบหาย และไม่สามารถโยงได้ว่า ไอ้นี่คือผลพวงของเอ็มบีเอ นะครับพี่น้อง

ทีนี้ พอมาถึงญี่ปุ่น ญี่ปุ่นประกาศเลยนะ ญี่ปุ่นก็เจ๊ง ที่เจ๊งเพราะเขาส่งออกมาก พี่น้องจะเป็นครั้งแรกในเดือนหน้า จะมีการประกาศผลประกอบการของโซนี่ออกมาแล้ว เขาบอกกิจการอย่างโซนี่ที่ไม่เคยขาดทุนก็ต้องขาดทุน โตโยต้าไม่เคยขาดทุนก็ต้องขาดทุน ที่ญี่ปุ่นขาดทุนหมด เขาบอกไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว ตุลา พฤศจิกา ธันวา 3 เดือนที่แล้ว ไตรมาสที่ 4 ที่ญี่ปุ่นเขาบอกว่า ติดลบ 13.8% นี่เรื่องใหญ่นะพี่น้อง สำหรับญี่ปุ่น ญี่ปุ่นคนเริ่มตกงานมหาศาล เขาถึงบอกไง จำได้ไหม ผมดูทีวีครั้งหนึ่ง เขาบอกมีวัดๆ หนึ่ง มีรูปปั้นให้คนไประบาย คนก็เอาดาบไม้ไปตีรูปปั้น ตีไปร้องไป แหกปากไป ร้องไป ปรากฏว่า แหกปากเรื่องไรรู้ไหม มันเจ็บใจธุรกิจการค้าที่มันเจ๊ง

ทีนี้พอญี่ปุ่นหมด เรามาดู สิงคโปร์ สิงคโปร์ จริงๆ วันนี้เจ๊งไปแล้วนะ พอสิงคโปร์ เอ็กซ์ปอร์ต เบส 85-90% สิงคโปร์มีอะไร ประเทศมันไม่ใช่ประเทศด้วยซ้ำ ข้อแรก ส่งออกสิงคโปร์ก็ไปลงทุนในโรงงานต่างๆ ลงทุนที่จีน ลงทุนที่ไทย ลงทุนที่ฮ่องกง ก็ปรากฏว่า การส่งออกมีผลหมด สิงคโปร์ที่ออกไปตั้งเอ็กซ์ปอร์ต เบส ก็ปิดโรงงานของตัวเองที่ต่างประเทศและตัวเองในประเทศละ คอมพิวเตอร์ชิป ก็ขายไม่ออก ก็เริ่มเจ๊ง และเทมาเส็ก จีไอซี เป็นบริษัทหน่วยลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ มีเงินเยอะเอาไปลงทุนที่ไหนละ ก็เอาไปลงทุนตามตราสารหนี้ต่างๆ ไง เช่น เอไอจี ซึ่งเจ๊งไปแล้ว เพราะฉะนั้น เอไอจี กองทุนเอไอจี ก็เจ๊งไปแล้ว ในข้อเท็จจริง วงในบอกเจ๊งไปแล้ว 70% หมายความว่า มีทุน 100 บาท หายไปแล้ว 70 บาท กบข.ก็เจ๊งเช่นกัน แต่ไม่ได้เจ๊ง เจ๊งนะ กบข.เผอิญโชคดีที่มีมติไว้ว่า ให้ลงทุนต่างประเทศได้ไม่เกิน 25% กบข.ก็ซ่อนตัวเลข เงินบำเหน็จบำนาญ พ่อแม่พี่น้อง โดนเอาไปถลุงจ่าย ซื้อ ตราสารหนี้ที่มันเจ๊ง พี่น้องจำได้ป่าว นี่เป็นบุญกุศลชาติบ้านเมือง พ่อแม่พี่น้อง จำหลวงตามหาบัวได้ไหม ตอนที่ท่านทำผ้าป่าช่วยชาตินะ ท่านให้บริจาคทองคำ ท่านทำไว้เกือบ 10 ปี ที่แล้ว ท่านรู้ได้ยังไง ว่า ท่านทำเมื่อสมัยนั้น ทองคำบาทละ 8,000 วันนี้ ทองคำที่ท่านส่งแบงก์ชาติ บาทละ 16,000 เพราะฉะนั้นมูลค่าทองคำเนี้ยะที่ท่านส่งให้เมื่อ 8 ปีที่แล้ว หรือ 5 ปีที่แล้ว วันนี้มัน 2 เท่าแล้วพี่น้อง พระอริยสงฆ์ มีให้กับชาติบ้านเมือง วันนี้พี่น้องเห็นรึยังว่า ใครก็ตามที่ร่วมทำบุญกับท่าน ได้บุญได้กุศลหมด และที่สำคัญ เกือบตายพี่น้อง มีอยู่ครั้ง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ท่านเสนอแก้กฎหมาย ที่จะเอาเงินจากคลังหลวง เอาไปลงทุนได้ พี่น้องจำได้ไหม สมัยนั้นผมเคยออกต่อต้าน ผมโดนด่า เอ้ย สนธิ คุณรู้อะไร คุณเป็นนักประวัติศาสตร์ คุณเก่งพูดหน้าจอทีวี คุณจะไปรู้เรื่องได้ไง คุณไม่รู้เรื่องการเงินหรอก การเงินต้องอย่างนี้อย่างนั้น เงินทิ้งไว้เฉยๆ มันไม่งอก ก็สู้เอาเงินก้อนนั้นไปซื้อตราสารหนี้ไปลงทุน ในสถาบันที่มีชื่อเสียงของโลก ผมอันหลัง ผมจะให้คนค้นข้อความอันนี้ คนพวกนี้คือคนที่ชอบถุยน้ำลายขึ้นฟ้า แล้วบนหน้าตัวเอง

พี่น้องสถาบันที่มีชื่อเสียงของโลก เจ๊งไปแล้วไง เอไอจีก็เจ๊งแล้ว เมอร์ริล ลินช์ ก็เจ๊งแล้ว พี่น้อง ซิตี้แบงก์ ใครเคยคิด กำลังโดนรัฐบาลอเมริกาซื้อไปเกือบ 100% แล้วพี่น้องรู้ไหม หุ้นของซิตี้แบงก์ เคยราคา 50 เหรียญ ต่อ 1 หุ้น วันนี้ ต่ำกว่า 1 เหรียญ นี่ไง สถาบันที่มีชื่อเสียงในสายตาของพวกเอ็มบีเอ ธนาคารชาติ พวกนักเศรษฐศาสตร์ พวกดอกเตอร์ผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐศาสตร์ ที่มาได้ไอ้ลูกเจ๊กอย่างผม ว่าไม่รู้เรื่อง ผมต่อต้านมา หลวงตามหาบัว ต่อต้านมา หลายคนยิ้มเยาะหลวงตามหาบัว ว่า ท่านเป็นพระจะรู้ได้ยังไง ผมไม่รู้ว่าท่านจบเศรษฐศาสตร์ที่ไหน ท่านไม่ได้จบอะไรเลยทั้งสิ้น หนุ่มๆ เดินอยู่ในป่าในเขา ท่านเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่านภาวนา ท่านทำคุณงามความดี เอ๊ะ แล้วท่านรู้ได้ไงละว่า ทองคำที่ท่านระดมทุน 8,000 บาท เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว วันนี้ 16,000 บาท

นักเศรษฐศาสตร์ นักเอ็มบีเอ ทั้งหลาย เจ้าหน้าที่แบงก์ชาติทั้งหลาย เวลาพวกคุณไปรับทองจากท่าน ผมรู้ พวกคุณก็รับไปอย่างนั้น แต่คุณกำลังหาวิธีที่จะเอาเงินคงคลัง ที่พวกเราสู้กันอยู่เอาไปลงทุน หรือ จีน ประเทศจีนสุดท้าย เกาหลีใต้เจ๊งไปหมดแล้ว พี่น้อง ฮุนได ซัมซุง ทุกคน บาดเจ็บหมดไม่มีเหลือ วันนี้ แดจังกึม กลับชาติมาเกิดก็ช่วยเกาหลีใต้ไม่ได้

จีน เขาว่าจีนเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลก จีน ถ้าจีนฟื้นตัวขึ้นมาก็จะดี พี่น้องรู้เปล่าเกิดไรขึ้น จีนตั้งเป้าไว้ที่จะเอาเงินมาช่วยเหลือสังคม เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการใช้จ่ายได้ ตั้งไว้ประมาณเกือบ ล้านล้านหยวน 1 ล้านล้านหยวน แต่ว่าจีนใช้แค่ 130,000 หยวน เมื่อปลายปีที่แล้ว คล้ายๆ ว่า ใช้ไปทีละนิด วางโครงสร้างไว้ เมื่อวันสองวันนี้ รัฐบาลจีนตกใจ เรื่องไร เฮ้ยเศรษฐกิจมันยังดิ่งเหว เขาเลยตัดสินใจเอาส่วนที่เหลืออีกล้านล้านหยวน เกือบล้านล้านหยวน ทุ่มให้หมดเลย ผมยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นกรวดก้อนหนึ่งที่ตกลงในมหาสมุทรหรือเปล่า

สรุปง่ายๆ ว่า ทุกอย่างขณะนี้ มันเป็นเรื่องพี่น้อง ถ้าจะมองทางพุทธ ก็อนิจจัง สมัยก่อนใครทำงานอยู่ ลีมานบราเทอร์ส ในเมืองไทย เท่เหลือเกิน ใครทำงานซิตี้แบงก์ หนูทำงานที่ไหน หนูทำงานซิตี้แบงก์ค่ะ ไอ้คนก็ ผมทำงานเอเอสทีวีครับ ตัวห่อเลยไม่รู้ ซิตี้แบงก์มันเงินเดือนสูง หยิ่ง เท่ ใส่เสื้อนอก สะพายกระเป๋าราคาแพง เอเอสทีวี ก็ใส่เสื้อยืดคอกลมตัวหนึ่ง เงินเดือนไม่รู้จะออกทันเวลารึเปล่า เงินเดือนก็น้อย อับอายขายหน้า ไปอายอะไร วันนี้เอเอสทีวี เห็นรึเปล่าเราอยู่อย่างมีความสุข ถึงเงินเดือนเราไม่มากเท่าเขา แต่เราก็กัดฟัน เพราะประชาชนช่วยเหลือเรา พี่น้องจะเห็นชัด และดูอีกอย่าง ตลาดหุ้น ตลาดหุ้นเป็นดัชนีชี้เลยนะ เพราะตลาดหุ้นมัน คือ ตลาดเล่นการพนัน เมื่อเป็นตลาดเล่นการพนันแล้ว ตลาดหุ้นขึ้นหรือลงก็บอกถึงความเชื่อมั่น เป็นครั้งแรกที่ตลาดอเมริกาตกมาแค่ 6,000 กว่า พี่น้อง อเมริกาใช้เวลาไม่ถึง 4 ปี ที่จะเบิลหุ้นอเมริกาเป็น 12,000 จุด วันนี้เหลือ 6,000 กว่าจุด แปลว่าอะไร มันจะต้องลงเรื่อยๆ และถึงที่สุด พี่น้องรู้ไหม รัฐบาลเองก็ไม่มีใครมีเงิน รัฐบาลไทยก็ไม่มีเงิน ทุกคนก็ต้องควักเงินที่ตัวเองมี ไม่มีก็ต้องกู้ต่อไป เหลืออยู่อย่างที่รัฐบาลไทยพอมีข้อดีอยู่ คือ รัฐบาลไทยมีเงินทุนสำรองที่เป็นดอลลาร์อเมริกันอยู่ประมาณ 100,000 กว่าล้าน เราจะบริหารเงิน 100,000 กว่าล้านได้อย่างไร

พี่น้องครับ พักกันซักครู่ เดี๋ยวค่อยกลับมา

(เบรก)

ท่านผู้ชมครับ กลับมาสู่ช่วงสุดท้ายกลับรายการ “Good Morning Thailang” นะครับ มีข่าวชิ้นหนึ่งเมื่อวานนี้น่าสนใจมากนะครับ แล้วก็เป็นการสะท้อนแล้วก็ชี้ให้เห็นข้อแตกต่างเปรียบเทียบได้นะครับ ศาลอนุมัติหมายจับ 6 เสื้อแดง ที่ถ่อยรุมยำทหาร พี่น้องจำกันได้ใช่ไหมครับว่ามีเรื่องทหารที่ถูกพวกเสื้อแดงรุมเหยียบ รุมกระทืบ แล้วก็ นายณัฐวุฒิ ก็ปรากฏอยู่ในนั้นด้วยนะครับ แต่ปรากฏว่า วันนี้ศาลออกหมายจับ 6 คน ไม่มี นายณัฐวุฒิ นะ ซึ่งจริงๆควรจะอยู่ด้วย เพราะว่าน่าจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดนะครับ ปรากฏว่า ฝ่ายเสื้อแดงโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นอกจากพูดจาด้วยมิจฉาทิฐิแล้ว โมหะโทสะ ส่อสันดานที่แท้จริงของตัวตนออกมานะครับ

คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ พูดบอกว่า หมายจับออก 6 วัน เร็วจัง ทีพันธมิตรฯ ตั้งนานไม่เห็นจะมี มันไม่มีได้อย่างไร คุณนี่ยังติดนิสัยโกหกพกลมอยู่ พันธมิตรฯ เดินขึ้นโรงขึ้นศาลมาตลอด แล้วเรื่องของพันธมิตรฯ ตอนนี้ไม่รู้ตั้งกี่เรื่อง ตอนนี้ไปถึงมืออัยการแล้ว ของพวกคุณยังแค่ตำรวจเท่านั้นเอง แล้วคุณรู้ไหมว่าทำไมตำรวจเขาต้องจับคุณเร็ว เพราะ ASTV ไง

เพราะ ASTV เอาภาพนี้ออกมา ASTV พูดเรื่องนี้ ตำรวจไม่มีทางที่จะต้องจับ ถ้าตำรวจไม่พูดตำรวจก็ไม่จับ คุณถามตัวคุณเองสิว่าไอ้ที่ยิงพวกเราตายไป 7-8 คน บาดเจ็บอีก 700 กว่าคน ที่ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ มาพูดมาทำคดี เรื่องไม่ถึงไหนเลยเนี่ย แล้วทำไมคุณไม่พูดบ้างละ แล้วผมเอาเรื่อง ดา ตอร์ปิโด จาบจ้วงพระมหากษัตริย์มาเล่าให้ฟัง ไม่เกิน 3 วันตำรวจออกหมายจับผมแล้ว คุณอย่าโกหกพกลมได้ไหม ใช่ไหม

แล้วคุณโกหกพกลมเนี้ยยังไม่พอเพียง คุณยังพูดจาที่ ไม่ใช่ใช้ไม่ได้อย่างเดียวนะ คุณใช้คำว่าขอประทานโทษท่านผู้ชมด้วยนะครับ ต้องใช้คำว่า “ส้นตีน” นี่มันส่อเจตนารมณ์ของสกุลรุนชาติของพวกเสื้อแดงพวกคุณ ผมเสียดายคุณนี่เป็นคนใต้ได้อย่างไรเนี้ย คนใต้นี่เขารักชาติ รักบ้าน รักเมือง เขารู้ว่าเขาสู้เพื่ออะไร คนใต้หลายคนเสียชีวิต แจ๊คชุมพร ขาขาดข้างหนึ่ง คนชุมพร คนสมุยสู้ คนภูเก็ตสู้ คนนครสู้ หลายๆ คนสู้ คนทั่วประเทศสู้ แต่คุณนี่เชื้อสายคนใต้ คุณกลับเห็นแก่เงินทักษิณ แล้วขายชีวิตจิตวิญญาณไป พูดจาหยาบคายในที่สาธารณะ คุณลืมไปได้เลยว่าคุณเป็น ส.ส.นะ

ผมจะเตือนคุณอย่างนะ จุดจบคุณนี่ไม่ดีหรอก คุณไม่เชื่อผมไม่เป็นไร แต่คุณอย่าลืมนะประชาชนเขาเรียกผมว่า “พ่อหมอ” ผมทายอะไรไม่เคยผิด หรือพูดอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม วาจาผมศักดิ์สิทธิ์ ผมเชื่อว่า จุดจบคุณไม่ดีหรอกนะครับ

พี่น้องครับ เอาตลกสักนิดนะ ก่อนที่จะเข้าไปสู่เรื่องสุดท้าย พี่น้องรู้ไหมว่าที่มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล (University of Liverpool) เขามีปริญญาโททางศิลปศาสตร์ใหม่ เขาเรียกปริญญาโททางไหนรู้ไหมครับ ปริญญาโท สาขา The Beatles พี่น้องครับลิเวอร์พูลนี่ ไม่ได้มีแค่ทีมฟุตบอลลิเวอร์พูล ที่มีชื่อนะครับ วง The Beatles ซึ่งมาจากลิเวอร์พูลหมด จริงๆ แล้ว The Beatles เป็นคนที่เอาลิเวอร์พูลปรากฏอยู่ในแผนที่โลก ให้รู้ว่าเมืองลิเวอร์พูลอยู่ที่ไหนนะครับ เขาก็เลยมีการทำปริญญาโทในทางด้าน The Beatles นะครับ เขาไม่ได้บอกละเอียดนะครับเขาบอกว่า มีเกี่ยวกับ Popular Music เพลงป๊อปมีผลต่อสังคมนะครับ ซึ่งมีการสอนอยู่ 12 อาทิตย์ แล้วก็ต้องมีการเขียนวิทยานิพนธ์ ถ้าใครทำผ่านก็จะได้ปริญญาโทจาก University of Liverpool

พ่อแม่พี่น้องเวลาลูกจะไปเรียนขอไปเรียนปริญญาโทที่ลิเวอร์พูล ดูตาม้าตาเรือหน่อยนะครับพี่น้องว่าเรียนวิชาอะไร ไม่ใช่จบมาแล้ว แล้วก็บอกคุณยาย บอกคุณแม่ที่อยู่แถวๆ นครฯ หรือว่าแถวอุดรธานี บอกว่า ข้อยจบปริญญาโท จากลิเวอร์พูล พ่อแม่พี่น้องก็ไปคุยให้ญาติพี่น้องได้ฟังด้วยความภูมิใจ เอาตายห่ามึงจบ The Beatles นี่อะไรของมึงวะ

เอาละครับพี่น้องมาที่เรื่องสำคัญ ความจริงเมื่อคืนนี้ คุณคำนูณ สิทธิสมาน แล้วก็คุณสุวัตร อภัยภักดิ์ พูดแล้วในรายการคนในข่าว คือ เรื่องการล่าชื่อ 50 นักวิชาการฝรั่งมาแก้กฎหมายหมิ่น เรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังน่าสนใจมาก นักวิชาการฝรั่งจะมองภาพรวม มีคนหนึ่งชื่อ นายโนม โชมส์กี ซึ่งผมก็ชอบอ่านเรื่องราวเขา นายโนม โชมส์กี เป็นพวกชอบทางด้านสังคมนิยม ชอบทางด้านรัฐสวัสดิการ ต่อต้านสงคราม ผมเห็นด้วยกับ นายโนม โชมส์กี หลายๆ อย่าง เพราะว่าประเด็นที่ นายโนม โชมส์กี พูดมานั้นเป็นประเด็นทางสากล ที่ถึงแม้ผมจะเป็นคนไทยนั้น คุณจะเป็นคนอเมริกัน คุณจะเป็นอาจารย์อังกฤษ จะเป็นท่านลอร์ดที่ไหนก็ตาม ถ้าเป็นประเด็นทางสากล อย่างเช่น เห็นด้วยไหมที่จะให้สิ่งแวดล้อมมันดี เห็นด้วยครับ เห็นด้วยไหมที่จะยุติสงคราม เห็นด้วยครับ เห็นด้วยไหมที่จะไม่ทรมานผู้ต้องหา โอ๊ยเห็นด้วยครับ เห็นด้วยไหมที่จะไม่ใช้ความรุนแรง โอ๊ยเห็นด้วย

นี่คือ ประเด็นทางสากล เมื่อเป็นประเด็นทางสากลแล้ว กลุ่มของ นายใจ อึ๊งภากรณ์ โดยนำโดย ดร.ธงชัย วินิจกูล ซึ่งเป็นอาจารย์สอนภาควิชาประวัติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ถ้าผมจำไม่ผิด นายธงชัย ก็เอาประเด็นว่ากฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้นเป็นอันตรายต่อเสรีภาพของคน เขาชูประเด็นตรงที่ว่ากฎหมายอันนี้ เป็นกฎหมายที่ไม่ยุติธรรม เป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าบุคคลมีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้ ฝรั่งมันก็ฉลาดทุกเรื่อง แต่มันเสือกโง่เรื่องนี้ มันก็เลยบอกเห็นด้วย มันก็เลยเซ็นชื่อกันมาใหญ่เลย รวมทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยในเมืองไทยอีกไม่น้อยที่โง่แล้วก็เซ็นชื่อไป ผมถึงบอกพี่น้องวันนี้การศึกษาเมืองไทยมีปัญหา เรามีอาจารย์อยู่ 2 ประเภท อาจารย์ประเภทหนึ่ง ก็คือ สอนเด็ก สอนเด็กแบบผิดๆ ผิดอย่างไร คือ สอนเด็กให้เดินผิดแนว เน้นต้องเรียน MBA นะ ต้องเรียนการตลาดนะ ต้องอย่างนู้นอย่างนี้นะ เศรษฐกิจต้องลดดอกเบี้ยนะ ต้องเอาเงินทุ่มเข้าไปนะเพื่อให้เกิดการใช้จ่าย เพื่อเศรษฐกิจมันจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ไม่เคยเล่าที่มาที่ไปว่าใครเป็นคนแบกภาระ ประชาชน อาจารย์พวกนี้ก็คือว่ารู้แค่ผิวเผิน ไม่สามารถจะอธิบายป่าทั้งป่าให้เด็กเข้าใจ

อีกประเภทหนึ่ง คือ ประเภทอย่าง ธงชัย วินิจกูล หรืออีกหลายคนที่อยู่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ หรืออีกหลายคนที่ยังอยู่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ประเภทนี้เป็นประเภทที่เอากระบวนทัศน์ที่ถูกต้องตามหลักสากล แต่ว่าไม่ยอมรับขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีในบ้านเรา แล้วก็บอกว่านี่หนูๆ นักเรียน ไอ้กฎหมายหมิ่นประมาทนี่มันไปจำกัดเสรีภาพนะครับ ทำไมคนเราไม่มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์หรอ คนเราต้องมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์สิ เอาเห็นไหม แต่เขาเรียกร้องมา 3 ข้อ พ่อแม่พี่น้อง ยุติการพยายามสร้างมาตรการกดดันปราบปรามที่เข้มงวดยิ่งกว่านี้ทั้งต่อปัจเจกบุคคล เว็บไซต์ และก็การแสดงความคิดเห็นอย่างสันติ เอ๊ะ สมัยที่คุณทักษิณมีอำนาจเนี้ย คุณทักษิณทั้งปราบปราม ทั้งถอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ทั้งสั่งให้ อ.เจิมศักดิ์ เลิกจัดรายการวิทยุ คุณธงชัย คุณไปซุกอยู่ที่ไหน คุณไปซุกใต้กระโปรงอยู่ที่ไหน ทำไมคุณไม่ออกมาพูด ใจ อึ๊งภากรณ์ ทำไมไม่ออกมาพูด ไม่มีใครออกมาพูดซักคนเลย อาจารย์รัฐศาสตร์ที่ปากกล้านักที่จุฬาฯเนี้ย ทำไมไม่ออกมาพูด อาจารย์ชื่อ สุธาชัย ที่ไปประกัน ดา ตอร์ปิโด ที่เป็นอาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ทำไมคุณไม่ออกมาพูด คณบดีคณะนิติศาสตร์ ที่มหาลัยเชียงใหม่ ทำไมคุณไม่ออกมาพูด นายสมเกียรติ ตั้งนะโม คณบดีคณะศิลปกรรม หรือคณะอาร์ต ฝ่ายอาร์ตของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อธิการบดีของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ทำไมคุณไม่ออกมาพูด นิธิ เอี่ยวศรีวงศ์ ทำไมคุณไม่ออกมาพูด คุณเนี้ยละพวกคนสองมาตรฐานนะ ทักษิณเคยปราบปราม มาสมัยนี้ สมัยก่อนทักษิณปราบปรามอย่างไร ผมเพียงแต่ยกตัวอย่างให้ดู และบอกว่า ไม่ควรก็ถอดผมแล้ว วันนี้เว็บไซต์ที่เข้ามาจาบจ้วง วิพากษ์วิจารณ์ถึงขั้นด่าว่าสถาบันกษัตริย์ แล้วคุณไม่ให้เขาปิดได้อย่างไร พวกคุณมีพ่อแม่ทุกคนนี่ ถ้าใครเขามายืนด่าพ่อคุณแม่คุณ กลางตลาดเนี้ย คุณจะว่าอย่างไร ธงชัย วินิจกูล คุณจะว่าอย่างไร แล้วเขามาด่าพ่อของแผ่นดิน แล้วคุณจะให้เขานั่งเฉยๆ หรอ คุณอย่า 2 มาตรฐานซิ คุณแน่ใจคุณเอาพ่อคุณ แม่คุณมาขึ้นเวที แล้วผมจะให้ประชาชนทั้งประเทศด่า แล้วคุณจะรู้สึกอย่างไร นี่ขนาดปัจเจกบุคคลนะยังไม่นับกษัตริย์ สถานภาพกษัตริย์เนี้ยเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย ซึ่งฝรั่งไม่เข้าใจ โง่ ถึงจะฉลาดหลายเรื่องแต่บางเรื่องนี่ หนึ่ง จงใจโง่ หรือ สอง ไม่ได้สนใจก็เลยพลอยโง่ไปด้วย

ด้วยเหตุอันนี้ข้อเสนอข้อเรียกร้องของคุณเนี้ย เป็นข้อเรียกร้องที่ไม่ใช่เพียงแต่ไร้เหตุผลอย่างเดียวนะ สะท้อนมากเลยว่าคนอย่างคุณมาสอนหนังสือได้อย่างไร คุณไม่สามารถแยกแยะความหลากหลายของสังคม ว่าไม่เหมือนกัน คุณใช้มาตรฐานพวกคุณอันเดียวกันในโลกนี้ แล้วมาประยุกต์กับทุกๆ สังคม เพียงแค่นี้คุณก็ขาดคุณสมบัติของการเป็นอาจารย์ที่ดีแล้วนะครับ

ข้อที่สอง พิจารณาข้อเสนอแนะที่เรียกร้องให้ปรับปรุงกฎหมายแก้หมิ่น เพื่อป้องกันไม่ให้กฎหมายฉบับนี้ตกเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งคุกคามผู้อื่น คุณธงชัย คุณรู้หรือเปล่าว่าไอ้กฎหมายฉบับนี้เนี้ย มันไม่ใช่กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มันเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายอาญาแล้วก็อยู่ในภาคของความมั่นคง ภาคความมั่นคง เพราะว่าความมั่นคงนั้นเขาพิจารณาว่าสถาบันกษัตริย์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย คุณยังไม่เข้าใจตรงนี้เลยหรือ แล้วกฎหมายหมิ่นนี้คนที่มาเล่นผมคนแรกคือใคร คือ ผู้ใหญ่หรือเทวดาที่คุณแอบสนับสนุน นั่นก็คือ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2548 ฟ้องผม คุณธงชัย คุณนี่ผิดไปหมดทุกเรื่อง พิจารณายกเลิกถอนฟ้องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่กำลังดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้ แล้วดำเนินการเพื่อปล่อยตัวผู้ต้องหาถูกตัดสินภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เอ๊ะ คุณธงชัย แสดงว่าอะไร แสดงว่าคุณอยากให้ นายใจ ถ้า นายใจ มีเจตนาบริสุทธิ์ นายใจ ต้องไม่ไปไหนสิ ต้องมาชี้แจงให้กับประชาชนทราบ ชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ทราบ ผมโดนตำรวจระบอบคุณเล่นงานผม หาว่าผมไปหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เหตุผลก็เพราะว่าผมไปชี้ว่า ดา ตอร์ปิโด นั้นพูดจาจาบจ้วงสมเด็จพระนางเจ้าฯ แล้วพูดอย่างนี้ๆ ทำไมตำรวจไม่จัดการ ตำรวจก็เล่นกรณีที่ผมเอาคำพูดดามาพูด ถือว่า ผมผิดมาตรา 112 แล้วทำไมผมไม่หนีละ ผมทำไมถึงต้องอยู่พร้อมที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผม

คุณธงชัย ประการแรก คุณต้องยอมรับก่อน ว่า สถาบันกษัตริย์เป็นส่วนหนึ่งของสังคมหรือเปล่า การที่คุณออกมา 3 ข้อนี้ โดยที่คุณมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง แสดงว่า ลึกๆ คุณไม่ยอมรับอยู่แล้วว่าควรจะมีกษัตริย์ แต่คุณไม่กล้าพูดตรงๆ ใช่ไหม คุณธงชัย เพราะคุณกลัวว่าคุณจะเข้าข่ายผิดกฎหมายความมั่นคง และคุณก็จะมาเมืองไทยไม่ได้ เสร็จเรียบร้อยแล้วคุณก็จะมาปลุกปั่นเมืองไทย คนในเมืองไทยต่อไปไม่ได้

พวก นิธิ เอี่ยวศรีวงศ์ พวก สมศักดิ์ ตั้งมะโน ผมไม่เอ่ยชื่อ คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือพวกหลายๆ พวก นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ อาจารย์วรพล ที่อยู่ธรรมศาสตร์ หรือนายที่ชื่อ พิชิต คนพวกนี้คุณกล้าพูดไหมว่า คุณไม่เชื่อในสถาบันพระมหากษัตริย์ คุณไม่อยากให้เมืองไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์ ลึกๆ คุณเชื่อ แต่คุณไม่กล้าพูดใช่ไหม แต่คุณก็มาตีวัวกระทบคราด

คุณมาดิ้นในส่วนของมาตรา 112 เพื่อที่อะไร เพื่อที่จะทำให้คุณออกมาด่าใครก็ได้ที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้แทนส่วนพระองค์ก็ได้ หรือมาวิพากษ์วิจารณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือสมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็ได้ ด้วยเหตุนี้

เพราะฉะนั้นแล้วใครก็ตามที่คิดเรื่องนี้ นอกจากจะบัดซบในทางจริยธรรมแล้ว ยังบัดซบในเชิงวิชาการอีก แล้วเสือกไปพาฝรั่งโง่ๆ เข้ามาเซ็น

เอาละพี่น้อง ผมจะให้พี่น้องดู พี่น้องรู้ไหมว่านายฝรั่งที่มันติดตารางไป เป็นฝรั่งชนชาติออสเตรเลียนะครับ ฝรั่งชนชาติออสเตรเลียที่พิมพ์หนังสือออกมาขาย 50 เล่ม แล้วทำเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์แล้วก็โดนจับ แล้วก็โดนศาลพิพากษาจำคุกเนี้ย แล้วจำคุกอยู่ประมาณสักไม่ถึงเดือน ก็ได้รับการประราชทานอภัยโทษนะครับ นายคนนี้ คือ นายนิโคลายส์ นะครับ นายนิโคลายส์ นักเขียน แฮร์รี นิโคลายส์ นะครับ แฮร์รี นิโคลายส์ เขาพูดยังไงรู้ไหมพี่น้อง ระหว่างที่อยู่ในคุก นายแฮร์รี นิโคลายส์ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ ซิดนีย์ เฮรัลด์ หนังสือพิมพ์ใหญ่ของ นายรูเพิร์ต เมอร์ด็อก ที่ซิดนีย์ เขาให้สัมภาษณ์อย่างนี้พี่น้องนะครับ เขาพูดบอกใน ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ (Sydney Morning Herald) นะครับ ได้อ้างคำสัมภาษณ์ของนายแฮร์รีตอนหนึ่งนะครับ ผมอ่านเป็นภาษาอังกฤษให้ฟังก่อนนะครับ

เขาบอกว่า On the King's 81st birthday, I saw fireworks in the distance, some prisoners has tears in their eyes praising a man they regard not just as a king, but the father. I may not be Thai, but I am a son, and I know what it means to love a father. I am applying for a royal pardon. I pray the king learns of my plight so I might enjoy his grace. เอาแปลเป็นภาษาไทย นายแฮร์รี นิโคลายส์ พูดกับหนังสือพิมพ์ฝรั่ง ว่า ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ 81 พรรษา ผมได้เห็นพลุในระยะไกล นักโทษบางคนร่ำไห้ออกมา กล่าวสรรเสริญบุคคลซึ่งไม่ได้เป็นเพียงกษัตริย์ของพวกเขา แต่เป็นพ่อด้วย ผมไม่ใช่คนไทย แต่ผมก็เป็นลูก ผมมีความรู้สึกของการรักพ่อของผม ผมจึงดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษ และผมภาวนาว่า พระองค์ท่านจะทรงรับรู้ถึงชะตากรรมของผม และผมจะได้รับความเมตตา นายแฮร์รี ได้รับการพระราชทานอภัยโทษจากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนายแฮร์รี ก็ตกเป็นเครื่องมือของพวกนักวิชาการบัดซบพวกนี้ พี่น้องครับ นักวิชาการพวกนี้บัดซบ 2 อย่าง บัดซบทางจริยธรรม และก็บัดซบทางวิชาการนะครับ

พี่น้องครับก่อนจบรายการนี้ หมู่นี้ คุณเฉลิม ของผมเป็นข่าวคราวเยอะมากนะครับ เอาการ์ตูนผู้จัดกวน หรือการ์ตูนผู้จัดการนะครับ ถ้าผมจำเป็นต้องแย่งซีนน้องเก๋ กับน้องนุก บ้างนะครับ ในเรื่องบางเรื่องก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ เดี๋ยวลืมเล่าว่าเดี๋ยวได้เจอน้องเก๋กับน้องนุก วันนี้พี่ปองกับพี่ต้นไปชลบุรี ไปงานศพของพันธมิตรฯ นะครับ ก็มีน้องเก๋กับน้องนุก น้องเก๋อย่างที่บอกนะครับไม่ได้หนีตามผู้ชายไป ที่หายไปนั้น น้องเก๋นั้นเรียนปริญญาโท กำลังทำวิทยานิพนธ์ กำลังกลุ้มใจ เพราะว่าอาจารย์แต่ละคนที่รัฐศาสตร์ จุฬาฯ นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นปฏิปักษ์กับคน ASTV ทั้งสิ้น นะครับ เรามาดูการ์ตูนของทุกคนคิดถึงคุณวันเฉลิมหมดนะครับ มีการ์ตูนของผู้จัดการหน้าการเมืองนะครับ โอบามาร์คนะครับ โดย บัญชา คามิน อ้าวผมลืมบอกไปโชคดีของคนไทยที่ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยืนยันแข็งแรงไม่อ่อนแอ บอกข้อเสนอของ คุณธงชัย วินิจกูล นั้น ถือว่าใช้ไม่ได้แล้วก็รับไม่ได้ ไม่มีวันรับเด็ดขาด ผมอยากจะบอกท่านนายกฯว่า ไม่เพียงแต่รับเท่านั้น ต้องรุกกลับด้วย ต้องชี้แจงให้เห็นเลยว่า อาจารย์คนไหนถ้าไม่ยอมรับว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย มีความสำคัญต่อสังคม เพราะเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญไทยเนี้ย ให้มหาวิทยาลัยเชิญให้ออกไปไม่ต้องสอน อย่ามาทำตัวเป็นอีแอบ อย่ามาทำตัวบัดซบทางจริยธรรม และบัดซบทางวิชาการนะครับ

เอาละครับกลับมาที่การ์ตูนนิดหนึ่งนะครับ การ์ตูนโอบามาร์คนะครับ เห็นไหมครับ คุณเสนาะ เทียนทอง เทียนทองประติมากรรมรับปั้นนายกฯ จำได้ใช่ไหมครับ เสนาะ เทียนทอง ชอบพูดอยู่เสมอว่าผมเนี้ยปั้นนายกฯมาหลายคนแล้ว วันนี้ตะโกนว่ารับปั้นแต่คนไม่รับปั้นเป็ดนะครับ คุณเฉลิม เนี้ยกลายเป็นเป็ดเหลิมไปแล้ว เพราะฉะนั้นคุณเสนาะก็เลยไม่รับปั้นเป็ด มาดูการ์ตูนยุคหล้อย โดยเงานะครับ กรอบแรกเขียนว่าเราจะยื่นอภิปรายพร้อมเสนอท่านเป็นนายกฯ ท่านนี้เป็นนายกฯแทนคุณอภิสิทธิ์ เราไม่สนพรรคฝ่ายค้านอื่นที่มีวาระซ่อนเร้น ก็มีเสียง ก๊าบๆๆ นะครับ คนที่พูดก็ถามว่าอะไร ทุกคนก็บอกว่าพี่เหนาะโยนส้นตีนมาให้ อันสุดท้ายนะครับ เป็นผู้จัดกวนนะครับพี่น้อง พี่น้องที่เคยอ่าน ASTVผู้จัดกวนนะครับ ให้ดูนะครับ อันนี้ก็เอาไปมองกับชีวิตตัวเองตอนเช้าว่ามันฮาดีนะครับ ผู้จัดกวนเขาบอกว่า หลุยส์ วิตตอง กำลังมีปัญหา กำลังวิ่งโร่เข้ามาซื้อกระเป๋าจากเป็ด คือ เรื่องของเรื่อง คือ มีเป็ดบ้านเราคนหนึ่งอ้างว่ามีข้อมูลลับอยู่ในกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง เจ้าของหลุยส์ วิตตอง ต๊กกะใจ ต๊กใจหมดเลยนะครับ ว่าในที่สุด เป็ดเอาชื่อแบรนด์เนมมาเกี่ยวข้องนะครับ ก็เลยกลัวว่าจะมีปัญหา ก็เลยรีบวิ่งเข้ามาขอซื้อ ทีนี้ประชาชนคนไทยหลายคนก็ต๊กใจหมด ปรากฏว่า เป็ดนี้นอกจากพูดได้ว่า “เยส โน โอเค โคคาโคล่า แล้ว” เพิ่มภาษาอังกฤษอีกคำครับ “หลุยส์ วิตตอง” นะครับ

รายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลซีดีหลุยส์ อาร์มสตรอง มี คุณอาภา ศิวะวัฒนา กทม.นะครับ คุณวรพรรณ ทองโปร่ง กทม.แล้วก็สาม คุณประสงค์ จิตไพศาลสุข จ.ตรัง นะครับ What a Wonderful World โลกช่างสดใสเหลือเกินนะครับ ถ้าปล่อยวางเป็น ทุกอย่างมันเป็นอนิจจังไปหมด ฟังหน่อยนะไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ที่มีจริยธรรมที่บัดซบ แล้วก็มีนักวิชาการความรู้ที่บัดซบ ตลอดจนนักการเมืองที่มีแต่โลภะ โมหะ ทุกอย่างมันล้วนแล้วแต่เป็นอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา สวัสดีครับพี่น้องครับ เดี๋ยวคอยเจอน้องเก๋กับน้องนุ๊กนะครับ วันนี้มาในมาดใหม่นะครับ น้องเก๋ลดไป 7 กิโลนะครับ ผอมลงไปเยอะ แต่ว่าก็ยังปากกว้างเหมือนเดิมครับ สวัสดีครับ”