xs
xsm
sm
md
lg

“สมเกียรติ” สลดกำพืด “นักการเมืองเก่า” ชี้ทางแก้ตั้งพรรค ล้ม “ระบอบแม้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
“สมเกียรติ” สุดสลดพฤติกรรมนักการเมืองเก่า ชี้เล่นการเมืองเพียงแค่หวังกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตัว ก่อนปลุกสำนึก “ชาวสุพรรณฯ” ลุกขึ้นสู้-เขี่ยทิ้งการเมืองน้ำเน่า พร้อมชี้ทางแก้ต้องตั้ง “พรรคการเมือง” ล้ม “ระบอบทักษิณ” ที่มีทั้งเงิน-กองทัพ-สื่อมวลชน อยู่ในกำมือ

 
 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นาย สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

วานนี้ (8 มี.ค.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ที่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี โดยกล่าวปราศรัยว่า จ.สุพรรณบุรี ท้องฟ้าจะเปลี่ยนสี คนอัปรีย์จะมีอันเป็นไป และต้องขอขอบคุณพี่น้องชาว อ.สามชุก เป็นพิเศษ เพราะเป็นอำเภอเดียวที่สามารถโน้มน้าวเอาแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนมาขึ้นเวทีได้ ที่สำคัญเมื่อ 2-3 วันก่อน นายอำเภอคนหนึ่งเรียกพี่น้องพันธมิตรฯ เข้าไปพูดคุย แล้วบอกว่าให้เลื่อนการจัดงานออกไป ตนจึงโทรศัพท์กลับไปบอกพี่น้องของเราว่า ในชีวิตนี้หากได้เตะนายอำเภอ ถึงจะนอนตายตาหลับ

“วันก่อนไปพูดที่ จ.ลพบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดก็เป็นแบบนี้ คือเป็นสีแดง ซึ่งห้ามไม่ให้พันธมิตรฯ จัดงาน แต่ผู้อำนวยการโรงเรียนพิบูลย์วิทยาลัย ระบุว่า หากพันธมิตรฯ มา จะเปิดสนามโรงเรียนให้จัดงาน ปรากฏว่าผู้ว่าฯ คนดังกล่าว ได้ทำหนังสือไปถึง รมว.ศึกษาธิการ ว่าให้ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว ผมจึงไปบอกกับรัฐมนตรีว่า หากย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนที่อนุญาตให้พันธมิตรฯ จัดงาน ผมก็จะไปขับไล่ผู้ว่าฯ ลพบุรี” นายสมเกียรติ กล่าว

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า ใครที่ตัวไม่สูงแล้วบอกว่าถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลนานๆ แล้วอดอยากปากแห้ง ฉะนั้นคนที่พูดอย่างนี้ หากใครเป็นรัฐบาลเขาก็จะเข้าร่วมหมด ขอให้ได้รับประทานเป็นพอ ซึ่งประชาชนกำลังจะพิพากษาคนประเภทนี้ ที่สำคัญพอตนมาที่ จ.สุพรรณ ก็ได้ข่าวว่าจะมีคนลอบไปเผาตลาด 100 ปี ของ อ.สามชุก ซึ่งถือเป็นมรดกของชาติไทย ตนจึงขออวยพรให้คนที่อยากเผา เสียชีวิตก่อน แล้วค่อยถูกเผา และถ้าหากที่ จ.สุพรรณบุรี ฟ้าเปลี่ยนสี ก็จะเหมือนกับที่ จ.ชลบุรี คือ กำนันคนหนึ่งล้มลง แล้วฟ้าเปลี่ยนสีทั้งภาคตะวันออก ทำให้การเลือกตั้งเปลี่ยนโฉมไปหมด ถามว่าที่ จ.สุพรรณบุรี สามารถที่จะทำให้ฟ้าเปลี่ยนสีได้หรือไม่ ฉะนั้นขอให้พี่น้องช่วยกันโห่ให้คนที่รูปร่างเตี้ยๆ จนต้องห่มผ้าหลายชั้น

“ผมรู้ว่าชาวสุพรรณบุรีอึดอัด อยากจะเปลี่ยนเผ่าพันธุ์ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถือเป็นตัวเลือกสุดท้าย ถ้าพ้นไปจากนายอภิสิทธิ์ แล้วเราจะกลับไปหาร้อยตำรวจเอกคนนั้น นักเลงเฒ่าโบราณแห่งสระแก้ว คนตับแข็งที่เป็นลูกเขาพระวิหาร หรือเราจะกลับไปหาเลือดเนื้อเชื้อไขซึ่งเป็นคนนครศรีธรรมราช หรือสามีของซาลาเปาเน่า เราจะเอาหรือไม่ ฉะนั้นแกนนำพันธมิตรฯ 5 คน จึงมีมติว่า ไม่ต้องไปชักชวนให้มีการตั้งพรรค เพราะถ้าการเมืองเก่าไปไหนไม่ได้ พรรคการเมืองใหม่มันก็มาเอง และถ้าแกนนำพันธมิตรฯ ไม่ตั้งพรรค พี่น้องก็จะเป็นคนตั้งพรรคกันเอง” นายสมเกียรติ ระบุ

นายสมเกียรติกล่าวอีกว่า ขณะนี้การเมืองเก่ากำลังเน่าเฟะ โดยเฉพาะแถวๆ ภาคกลาง เพราะพี่น้องประชาชนมีความรู้ และวิจารณญาณสูง เพราะเวลาเลือกพรรคไหน พรรคนั้นจะถูกยุบ พอเลือกตั้งนักการเมืองก็ถูกอายัดทรัพย์ ฉะนั้นตนจึงต้องมาขอบคุณพี่น้องขาวสุพรรณบุรี เพราะเลือกพรรคไหน พรรคนั้นถูกยุบ ที่สำคัญหากไม่มีสถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี การต่อสู้ของประชาชนจะไม่ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร และจะไม่ลือกระฉ่อนโลกเหมือนเช่นทุกวันนี้ และถ้าเราไม่ช่วยกัน จอของ เอเอสทีวี ก็จะพร่ามัวลงไปเรื่อยๆ ฉะนั้นขอให้คิดเอาเองว่า พรรคการเมืองที่มีอยู่พึ่งพาได้หรือไม่ ถ้าพึ่งพาได้ก็ไม่ต้องมีพรรคการเมืองใหม่ แต่พรรคการเมืองที่มีอยู่ยังไม่ดีพอ รวมทั้งนักการเมืองที่เหลืออยู่ไม่สามารถนำพาประเทศได้ ดังนั้นการเมืองใหม่จึงต้องมา แต่จะในรูปแบบใดคงต้องคุยกัน

“ระบอบทักษิณ ขณะนี้มีครบสูตร คือ 1.มีพรรคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ชนะ 2.มีกองทัพส่วนตัว คือ สั่งให้เคลื่อนไหว หรือสั่งให้ชุมนุมเมื่อใดก็ได้ และ 3.เขามีแนวร่วมที่เป็นสื่อมวลชน และมีนายทุนคอยจ่ายเงิน ในขณะที่พันธมิตรฯ ยังไม่มีพรรคการเมือง แต่เรามีกองทัพของเป็นเราเอง ซึ่งมีแต่ความเอื้ออาทร และทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกัน ส่วนแนวร่วมของเราก็มี รวมทั้งเงินก็มี แต่ยังไม่มากพอ ฉะนั้นตนจึงวิงวอน และเรียกร้องว่าอย่าเพิ่งตำหนิเรื่องที่พันธมิตรฯ คิดอ่านจะตั้งพรรคการเมือง เพราะองค์กรที่จะต่อสู้กับฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น จะต้องใช้พรรคการเมืองด้วย” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว

นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า ฉะนั้นการเมืองใหม่คือการต่อรูปของคนดี ซึ่งตั้งใจทำงานเพื่อชาติ ศาสนา และสถาบัน มารวมกัน ก็เหนือกว่าการรวมตัวกันของกองทัพกู้ชาติ ซึ่งจะกลายเป็นองค์กรที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งในรัฐสภา และต่างประเทศ คือ องค์กรพรรคการเมือง ฉะนั้นองค์ประกอบนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ส่วนใครที่ไม่เห็นด้วย ขอให้ตำหนิติติงกันเข้ามา เพราะตอนนี้เราต้องถามกันแล้วว่า สมควรที่จะตั้งพรรคการเมืองหรือไม่ แต่ถ้าพันธมิตรฯ ทั่วประเทศระบุว่า ทุกพรรคการเมืองที่มีอยู่ เป็นการเมืองเก่า ไม่สามารถที่จะนำพาประเทศได้ ถึงเวลานั้น เราก็พร้อมที่จะตั้งพรรคการเมือง เพราะเราถามประชาชนแล้ว ที่สำคัญวันนี้ ชาวสุพรรณบุรี ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพันธมิตรฯ จึงขอขอบพระคุณสตรีเหล็กคนหนึ่งแห่ง อ.สามชุก และคณะกรรมการทั้งหมดที่กล้าจัดงานให้กับพันธมิตรฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น