โฆษกมาร์ค เย้ยพฤติกรรมกลุ่มเสื้อแดงโห่ฮา รมต.ให้สังคมตัดสิน ชี้ ผู้ว่าฯลพบุรีสอบผ่านอารักขา “มาร์ค” สวนกลับผู้ใหญ่จรจัดเลิกโฟนอินพร่ำเพรื่อ ทำลายประเทศ วอนให้โอกาสให้ 2 คน ทำงานเพื่อบ้านเมือง
วันนี้ (8 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวถึงผลการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรี เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า โดยภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าการลงพื้นที่จะมีกลุ่มเสื้อแดงไปขัดขวาง ก็ถือว่าเป็นสีสันทางการเมือง เป็นการแสดงออกในระบอบประชาธิปไตย ส่วนที่มีบางพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อาทิ ใช้รองเท้าขวางปา เชื่อว่า หลังจากนี้ สังคมจะพิจาณาได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ รัฐบาลก็จะลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอต่อไป เพราะทุกตารางนิ้วของประเทศไทย รัฐบาลมีสิทธิ์ที่จะลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาของประชาชน โดยไม่หวั่นเกรงกระแสต่อต้าน หรือเป็นพื้นที่สีแดง สีเหลือง หากเป็นประชาชนคนไทย ก็จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม แม้ว่าจะไม่ใช่เสียงสนับสนุนของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนั้นแล้ว รัฐบาลได้ให้ ส.ส.ในสังกัดลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชนด้วย เนื่องจากว่ามีข้อจำกัดที่รัฐมนตรีน้อย จึงไม่สามารถลงพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง
“เชื่อว่า การลงพื้นที่ของรัฐบาล ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ แต่ก็ยอมรับว่า มีคนกลุ่มเล็กๆ ที่เสียผลประโยชน์ คือ เป็นกลุ่มคนที่หวังผลทางการเมือง ซึ่งผมไม่อยากให้กลุ่มคน 3-4 คน ที่เป็นแกนนำปลุกระดมคนเสื้อแดงมาขัดขวางผลประโยชน์ของประชาชนที่เป็นคนส่วนใหญ่ นอกจากนั้น รัฐบาลได้ให้ความสนใจในการแก้ไขปัญหาปากท้อง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และปัญหาภัยแล้งมากกว่าปัญหาทางการเมืองปัจจุบัน” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเคยสบประมาทรัฐบาล ว่า เด็ก 2 คนไม่สามารถแก้ไขปัญหาประเทศชาติได้ ขอเรียกร้องว่าให้เด็กเร่ร่อน หรือผู้ใหญ่จรจัด ละเว้นการปลุกระดมสร้างความแตกแยก หรือความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในประเทศ หากเด็กเร่ร่อน หรือผู้ใหญ่จรจัดคนนั้นยุติบทบาทโดยไม่มีการโฟนอิน พร่ำเพรื่อ ไปยังม็อบเสื้อแดงที่มีอยู่รายสัปดาห์ จนโฟนอินไปถึงงานวัด งานแต่ง งานบวชนาค เชื่อว่า จะทำให้สถานการณ์การเมืองดีขึ้นอย่างแน่นอน
โฆษกประจำตัวนายกฯ กล่าวยืนยันด้วยว่า การลงพื้นที่ของรัฐบาลไม่มีวาระซ่อนเร้นที่จะยุบ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมไม่มีแนวคิดนี้ การยุบสภาเป็นเรื่องอีกยาวไกล ทั้งปัญหาเฉพาะหน้าที่รัฐบาลต้องทำ 2 เรื่อง คือ 1.ปัญหาเศรษฐกิจ และ 2.การปฏิรูปการเมือง ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้มอบหมายให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นเจ้าภาพในการปฏิรูปการเมือง โดยมีนายสุจิต บุญบงการ ประธานสภาพัฒนาการเมือง เป็นประธานคณะทำงาน ซึ่งรัฐบาลจะไม่เข้าไปชี้นำ กดดัน หรือมีธงในการปฏิรูปการเมือง ดังนั้น เชื่อว่า ผลที่ออกมาจะเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วนในสังคม
ผู้สื่อข่าวถามการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีเพื่อหาเหตุผลการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อเอาคนของพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปดำรงตำแหน่งแทน นายเทพไท กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ดูแลกระทรวงมหาดไทย ทางพรรคภูมิใจไทยดูแลอยู่ ซึ่งการโยกย้ายผู้ว่าฯก็ต้องดูความพร้อมเป็นหลัก ไมใช่ว่าเป็นคนของใคร ดังนั้นย้ายคนของพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเป็นผู้ว่าฯ แทน ไม่มีอย่างแน่นอน
ถามต่อว่า การปฏิบัติราชการ ของ นายจารุพงศ์ พลเดช ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ต่อการลงพื้นที่ของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งมีกลุ่มเสื้อแดงออกมาต่อต้าน นายเทพไท กล่าว่า ถือว่าการทำงานของนายจารุพงศ์สอบผ่าน ส่วนการที่ปล่อยให้กลุ่มเสื้อแดงเข้าไปป่วน นายกฯ ไม่ได้ติดใจอะไร