ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หนุนพันธมิตรฯตั้งพรรคการเมือง ชี้ เป็นพรรคของประชาชน ยอมรับอาจกระทบฐานเสียงพรรคคนใต้ แต่ทำให้เกิดการแข่งขัน ทำให้นักการเมืองต้องแข่งขันกันทำงาน ฟุ้งมวยถูกคู่
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศในการชุมนุมย่อยที่เกาะสมุย ว่า จะตั้งพรรคการเมือง โดยเก็บเงินจากสมาชิกพรรคคนละ 100 บาท ว่า พธม.เองอยากเห็นภาพของพรรคการเมืองที่เป็นของประชาชนจริงๆ ถ้ากลุ่ม พธม.ตั้งพรรคการเมืองขึ้นจริง ก็ยินดี เพราะคงเห็นอดีตที่ผ่านมาแล้ว ว่า มีกลุ่มทุนที่ต่างก็เข้ามาแล้วกอบโกย หรือเอื้อผลประโยชน์ให้เฉพาะกลุ่ม บางพรรคการเมืองก็ล่มสลายไป
นายสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ทางกลุ่ม พธม.ระบุว่า ห้าม ส.ส.ของพรรคแย่งเป็นรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกคนจะบริจาคเงินเดือนให้กับองค์การสาธารณกุศล ว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องยากในทางปฏิบัติ เพราะการทำงานนอกจากได้คนที่มีความรู้ ความสามารถ มีความทุ่มเททำงาน ทั้งสติปัญญาและแรงกายแล้ว กำลังทรัพย์ก็มีความสำคัญ และคนที่มีความสามารถทุกคนได้ใช่ว่าจะมีกำลังทรัพย์ที่พร้อม การตั้งกฎเกณฑ์เช่นนี้ คิดว่าคงเป็นการสร้างภาพลักษณ์เพื่อปลุกขวัญกำลังใจในการริเริ่มตั้งพรรคมากกว่า
เมื่อถามว่า แกนนำ พธม.ประกาศจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ ยกเว้น จ.ตรัง และพื้นที่ กทม.เพื่อเว้นให้ นายชวน หลีกภัย และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสมบูรณ์ กล่าวว่า คงเพราะเห็นว่า นายชวน และ นายอภิสิทธิ์ เป็นต้นแบบของนักการเมืองที่ได้รับการยอมรับในผลงานและความดีที่ทำมา ที่ควรได้รับการยกย่อง และเห็นเป็นแบบอย่างของ ส.ส.ที่ดี ซึ่งต้องขอขอบคุณโดยเฉพาะที่จะไม่ส่งคนลงสมัครที่ จ.ตรัง
เมื่อถามต่อว่า การตั้งพรรคของกลุ่ม พธม.จะส่งผลกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ เพราะมีคนภาคใต้ส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนกลุ่ม พธม.นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ยอมรับว่า มีผลกระทบแน่นอน หากกลุ่ม พธม.ตั้งพรรคการเมืองขึ้นจริง แต่ถ้ามองในแง่ดีคือผลประโยชน์จะตกไปสู่ประชาชน เพราะ ส.ส.ของทุกพรรคการเมืองต่างต้องเร่งมือทำงาน โดยเฉพาะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต้องขยันมากขึ้น เพื่อแข่งขันทำงานให้ชาวบ้านยอมรับในผลงาน ถือว่าเป็นมวยถูกคู่ ที่พรรคประชาธิปัตย์จะพบคู่แข่งอย่างพรรคของกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะพื้นฐานของพรรคนี้มาจากประชาชนที่รวมตัวกันจากการเมืองภาคประชาชนจนมาเป็นพรรคการเมือง ต่างจากอดีตที่เราต้องสู้กับพรรคการเมืองของกลุ่มทุนต่างๆ