เลขาธิการ สรส.ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ อัดยับ “สมชาย” ดื้อตั้ง ครม.ขัดความรู้สึกประชาชน ปล่อยผีนักการเมืองโกงชาติเป็นเสนาบดี เผยถึงเวลาประชาชนทุกภาคส่วนร่วมออกแบบการเมืองใหม่ เสนอทางออกแก้ไขวิกฤตประเทศ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสาวิตย์ แก้วหวาน ปราศรัย
วันนี้ (24 ก.ย.) เวลา 01.00 น. นายสาวิตย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ขึ้นเวทีปราศรัยว่า รัฐบาลไม่แยแสกับความรู้สึกนึกคิดของประชาชน แต่งตั้งคนที่ขัดต่อความรู้สึกของประชาชนมาเป็นรัฐมนตรี ไม่ได้สนใจเสียงสังคมแม้แต่น้อยนิด ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังคงต้องชุมนุมยืดเยื้อมาจวบจนทุกวันนี้
ทั้งนี้ นายสาวิตย์ ระบุว่า นักการเมืองโกงชาติโกงเมืองเหล่านี้คิดเพียงแค่จะเข้ามากอบโกยผลประโยชน์จากการเป็นรัฐมนตรี โดยเฉพาะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มิหนำซ้ำยังเชื่อว่า คงมีพฤติกรรมที่ไม่แตกต่างอะไรกับคนในตระกูลชินวัตร ฉะนั้นจำเป็นที่พันธมิตรฯ ต้องเสนอการเมืองใหม่ เพื่อเป็นแนวทางแก้ไขวิกฤตบ้านเมืองในอนาคต
ขณะเดียวกัน นายสาวิตย์ ยอมรับว่า การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนนั้นทำให้ความหมายของการเมืองใหม่เปลี่ยนแปลงไป พันธมิตรฯ ยังไม่ได้ระบุเจาะจง หรือชี้ชัดว่าการเมืองใหม่นั้นต้องมีรูปแบบเช่นใด เป็นเพียงข้อเสนอในที่ประชุมแกนนำเท่านั้น เพียงแต่เมื่อสื่อมวลชนได้ยินได้ฟัง ก็รีบนำไปเสนออย่างครึกโครม แต่ใช่ว่าจะไม่ดี ถือเป็นการเช็คกระแสความนิยมการเมืองใหม่ไปในตัว
นายสาวิตย์ กล่าวต่อว่า พันธมิตรฯ จำเป็นที่ต้องสร้างการเมืองใหม่ เพราะการเมืองเก่านั้นไปไม่ได้แล้ว ที่ผ่านมานักการเมืองมักจะอ้างมาจากการเลือกตั้ง ท้าทายพันธมิตรฯ ลงสมัครการเลือกตั้ง แต่สิ่งเกิดขึ้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ก็พูดชัดเจนถึงการตั้งพรรคการเมืองเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งอยู่บ่อยครั้ง แต่มันก็ไม่ช่วยอะไร เพราะฉะนั้นการเมืองใหม่จึงเป็นวิธีทางเดียวที่จะสามารถออกแบบการบริหารงานของประเทศได้
นอกจากนี้ นายสาวิตย์ เชื่อมั่นว่า การระดมความคิดเห็นเพื่อสร้างการเมืองใหม่เป็นสิ่งที่จำเป็น แกนนำพันธมิตรฯ จะไม่ปล่อยให้ทุนนิยมเข้ามาครอบงำประชาชน ที่ปัจจุบันกำลังตกหลุมพรางบริโภคนิยม จนก่อหนี้ติดตัวมากมาย เพราะฉะนั้นจำเป็นที่ต้องออกแบบการเมืองใหม่ ให้ครอบคลุมทุกด้าน คนทุกชนชั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม ขณะเดียวกันต้องร่วมมือกันออกแบบโครงสร้างทางสังคม ส่วนใดที่ไม่ดี ก็ตัดออกไป นั้นคือเหตุผลหนึ่งที่ ส.ส.ต้องมาจากกลุ่มตัวแทนทุกภาคส่วน ไม่ใช่เจาะจงอยู่กับพวกนายทุนเหมือนอย่างปัจจุบัน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสาวิตย์ แก้วหวาน ปราศรัย
วันนี้ (24 ก.ย.) เวลา 01.00 น. นายสาวิตย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ขึ้นเวทีปราศรัยว่า รัฐบาลไม่แยแสกับความรู้สึกนึกคิดของประชาชน แต่งตั้งคนที่ขัดต่อความรู้สึกของประชาชนมาเป็นรัฐมนตรี ไม่ได้สนใจเสียงสังคมแม้แต่น้อยนิด ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังคงต้องชุมนุมยืดเยื้อมาจวบจนทุกวันนี้
ทั้งนี้ นายสาวิตย์ ระบุว่า นักการเมืองโกงชาติโกงเมืองเหล่านี้คิดเพียงแค่จะเข้ามากอบโกยผลประโยชน์จากการเป็นรัฐมนตรี โดยเฉพาะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มิหนำซ้ำยังเชื่อว่า คงมีพฤติกรรมที่ไม่แตกต่างอะไรกับคนในตระกูลชินวัตร ฉะนั้นจำเป็นที่พันธมิตรฯ ต้องเสนอการเมืองใหม่ เพื่อเป็นแนวทางแก้ไขวิกฤตบ้านเมืองในอนาคต
ขณะเดียวกัน นายสาวิตย์ ยอมรับว่า การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนนั้นทำให้ความหมายของการเมืองใหม่เปลี่ยนแปลงไป พันธมิตรฯ ยังไม่ได้ระบุเจาะจง หรือชี้ชัดว่าการเมืองใหม่นั้นต้องมีรูปแบบเช่นใด เป็นเพียงข้อเสนอในที่ประชุมแกนนำเท่านั้น เพียงแต่เมื่อสื่อมวลชนได้ยินได้ฟัง ก็รีบนำไปเสนออย่างครึกโครม แต่ใช่ว่าจะไม่ดี ถือเป็นการเช็คกระแสความนิยมการเมืองใหม่ไปในตัว
นายสาวิตย์ กล่าวต่อว่า พันธมิตรฯ จำเป็นที่ต้องสร้างการเมืองใหม่ เพราะการเมืองเก่านั้นไปไม่ได้แล้ว ที่ผ่านมานักการเมืองมักจะอ้างมาจากการเลือกตั้ง ท้าทายพันธมิตรฯ ลงสมัครการเลือกตั้ง แต่สิ่งเกิดขึ้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ก็พูดชัดเจนถึงการตั้งพรรคการเมืองเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งอยู่บ่อยครั้ง แต่มันก็ไม่ช่วยอะไร เพราะฉะนั้นการเมืองใหม่จึงเป็นวิธีทางเดียวที่จะสามารถออกแบบการบริหารงานของประเทศได้
นอกจากนี้ นายสาวิตย์ เชื่อมั่นว่า การระดมความคิดเห็นเพื่อสร้างการเมืองใหม่เป็นสิ่งที่จำเป็น แกนนำพันธมิตรฯ จะไม่ปล่อยให้ทุนนิยมเข้ามาครอบงำประชาชน ที่ปัจจุบันกำลังตกหลุมพรางบริโภคนิยม จนก่อหนี้ติดตัวมากมาย เพราะฉะนั้นจำเป็นที่ต้องออกแบบการเมืองใหม่ ให้ครอบคลุมทุกด้าน คนทุกชนชั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม ขณะเดียวกันต้องร่วมมือกันออกแบบโครงสร้างทางสังคม ส่วนใดที่ไม่ดี ก็ตัดออกไป นั้นคือเหตุผลหนึ่งที่ ส.ส.ต้องมาจากกลุ่มตัวแทนทุกภาคส่วน ไม่ใช่เจาะจงอยู่กับพวกนายทุนเหมือนอย่างปัจจุบัน