“ไกรศักดิ์” ระบุคลิป “ใจ” ผุดเต็ม YouTube แพร่เนื้อหาบิดเบือนสุดขั้ว เข้าขั้นลัทธิ “นาซี” หวังใส่ร้ายสถาบันเบื้องสูง จี้รัฐบาลไทยอยู่เฉยไม่ได้แล้ว ต้องหาทางตอบโต้ “การโฆษณาชวนเชื่อมืด” ก่อนต่างชาติที่ไม่รู้ข้อมูลเข้าใจผิดกันไปใหญ่ เผยนึกไม่ถึงคนเคยรู้จัก จากที่เป็นอาจารย์กลายเป็นโฆษกให้นักโทษหนีคดี คอยทำหน้าที่แทนในประเทศอังกฤษ
นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการ “คนในข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เมือคืนวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ถึงการตอบโต้กับขบวนการโจมตีใส่ร้ายประเทศไทยและสถาบันเบื้องสูง โดยเฉพาะกรณีล่าสุด ที่นายใจ อึ๊งภากรณ์ อดีตอาจารย์คณะรัฐสาสตร์จุฬาฯ ไปพูดที่วิทยาลัยอัฟริกันและบูรพศึกษา (SOAS) มหาวิทยาลัยลอนดอน เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ว่า ค่อนข้างจะยากที่จะตอบโต้โดยตรง แต่หลายเรื่องที่มีการพูดกัน โดยเฉพาะที่ดูนายใจพูด ผ่านทาง YouTube นายใจไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด หรือบางเรื่องรู้สึกบิดเบือนพอสมควรเลย ในกรณีที่ว่า ประเทศไทยเรามีประชาธิปไตยแบบสมบูรณ์ 4-5 ปีที่ผ่านมา
“ซึ่งผมคิดว่ามันไม่สมบูรณ์เลย เพราะถ้าสมบูรณ์นักหนาทำไมมีประท้วงกันเต็มบ้านเต็มเมือง พันธมิตรฯ ทำไมเกิดขึ้นได้ แล้วก็มีสมาชิกและผู้สนับสนุนเป็นล้านทั่วประเทศ”
นายไกรศักดิ์กล่าวต่อว่า อีกประเด็นที่นายใจพูด คือเรื่องเกี่ยวกับการประท้วง ยกตัวอย่าง แกทำตัวเป็นศัตรูของพันธมิตรฯ ไปเลย มองว่าพันธมิตรฯ เหมือนกับว่าเป็นองค์กรปฏิกิริยา เกิดขึ้นจากอำนาจที่ซ้อนอำนาจรัฐอยู่ และไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เป็นอำนาจที่มาจากเบื้องบน มาจากกองทัพ พูดเกือบจะชัดเจนในทำนองนั้น ซึ่งตนคิดว่า เป็นการดูถูกประชาชนหลายแสนคนมาก ที่เขาไม่พอใจจริงๆ ต่อรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วสมัครใจที่จะมาประท้วง แล้วก็หลายคนยอมตาย ตราบใดที่ทักษิณยังมีอำนาจอยู่ แล้วกระบวนการยุติธรรมไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย
นายไกรศักดิ์ระบุว่า ประเด็นต่างๆ เหล่านี้มันขยายตัวไปค่อนข้างจะกว่างสำหรับประชาชนชาวอังกฤษและต่างชาติที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่นัก และมองเพียงประเด็นหนึ่งประเด็นเดียว คือ การครองความเป็นใหญ่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นต้น แล้วก็มีการติดคุกของชาวต่างประเทศคนหนึ่ง คือนายนิโคไล ในข้อหานี้ แต่ก็ได้รับการพระราชทานอภัยโทษแล้ว แต่ว่านายใจเองจับประเด็นนี้เป็นเรื่องหลักเลย
“เข้าใจว่าหนังสือที่อาจารย์ใจเขียน ชื่อ A Coup for the Rich กล่าวหาสถาบันว่าอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารในทำนองนั้น แล้วที่หนีไปเพราะว่าโดนหมายจับ ผมไม่ทราบว่ามีหมายจับหรือยังนะ แล้วก็อ้างว่ากระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่เป็นกระบวนการที่ไว้วางใจได้ เพราะฉะนั้นเขาก็เลยหนีไปต่างประเทศ”
นายไกรศักดิ์กล่าวอีกว่า ใน YouTube ตอนนี้ มี 4-5 เรื่อง นอกเหนือจากการปราศรัยของนายใจที่ SOAS แล้ว ซึ่งเราเถียงได้เกือบจะทุกประโยค ที่แกพูด เราหักล้างได้
“แต่ว่าอันอื่นๆ มันไปกันใหญ่แล้ว แต่ว่า ผมไม่รู้ว่าใครรับผิดชอบในเรื่องนี้ แต่ว่าให้ดูหนังตากใบ แล้วก็อ้างอิงถึงสถาบันว่า สถาบันอยู่เบื้องหลัง อย่างนี้เป็นต้น ทั้งที่มันเกิดในสมัยทักษิณ แต่ทีนี้การบิดเบือนอย่างนี้ เขาเรียกลัทธินาซีแล้ว ยังเงี้ย เป็นการบิดเบือนแบบสุดขั้วจริงๆ”
“เพราะฉะนั้นแล้วนี่ ผมคิดว่าเรื่องนี้เนี่ย เราในฐานะเป็นคนไทย เราอยู่เฉยๆ ก็ไม่ได้ ต้องมีขบวนการตอบโต้ จะตอบโต้อย่างไร มันไปเร็วมากและทำกันอย่างกิจลักษณะเลย เป็นกระบวนการเลย ออก YouTube เนี่ย รู้สึกเกือบ 10 ช่องตอนนี้ ใน YouTube เฉพาะเรื่องนี้ ผมดูจนถึงในราวตีหนึ่ง เมื่อคืนนี้ อยู่ดีๆ ก็ดูไม่ได้แล้ว แต่ว่าดูได้เยอะมาก ผมไม่เคยเห็นว่ากระบวนการมันจะไปได้ไกลขนาดนี้” นายไกรศักดิ์ กล่าว
นายไกรศักดิ์กล่าวต่อว่า เพราะฉะนั้น ตนคิวด่า เราอยู่เฉยๆ ก็จะลำบากใจ ได้คุยกับเพื่อนหลายคนที่อยู่เมืองนอก แล้วก็อยู่ภายในประเทศด้วย หลายคนก็รู้สึกอึดอัดใจว่า เหตุการณ์มันบานปลายไปถึงขนาดนี้ การตอบโต้ หักล้าง มันต้องทำ และต้องทำเป็นภาษอังกฤษด้วย เราทำกันแต่ภายใน และเขาไม่รู้ว่า เอเอสทีวีพูดอะไรบ้าง หรือเนชั่นทีวี หรือสื่ออื่นๆ นี่ ที่เป็นภาษาไทย ฝรั่งไม่รู้ คนต่างชาติไม่รู้ว่าแง่มุมของการถกเถียงไดอะล็อกที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย ความจริงความเท็จมันแค่ไหน
“ตอนนี้นี่ผมเรียกว่าเป็นการ Black Propaganda นะ เป็น"การโฆษณาชวนเชื่อมืด"เลยตอนนี้ ในต่างประเทศตอนนี้” นายไกรศักดิ์กล่าวย้ำ
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การปกป้อง ยกย่องเทิดทูนพระมหากษัตริย์เป็นกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ากรณีนี้มันเกิดขึ้นในต่างประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะต้องรับไปดู แต่แน่นอนเรื่องแรกที่จะต้องทำคือชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งก็ชี้แจงอยู่ต่อเนื่องว่า เรื่องของการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นเรื่องกฎหมายความมั่นคง และเกี่ยวข้องเกี่ยวประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสังคมไทย ที่ยกย่องเทิดทูนพระมหากษัตริย์ คนไทยส่วนใหญ่เห็นด้วย อาจมีไม่เห็นด้วย เป็นธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย และ การถกเถียงในเรื่องนี้ในทางวิชาการก็เปิดกว้าง แต่การดึงเอาสถาบันมาเกี่ยวข้องกับทางการเมืองก็ผิดกฎหมาย เมื่อผิดกฎหมายก็ถูกดำเนินคดี และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นายปณิธานกล่าวต่อว่า ในสังคมประชาธิปไตยในต่างประเทศ เขาก็มีกฎเกณฑ์ลักษณะนี้เช่นกัน เช่นกฎหมายคุ้มครองการหมิ่นศาล ที่ศาลสามารถสั่งลงโทษคู่กรณีได้เลย กรณีเช่นนี้ เมื่อเราชี้แจงต่างประเทศ เขาก็เข้าใจมากขึ้น
“ที่นี้คนที่ไม่เห็นด้วย เรามาดูข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เท่าที่เราเห็นส่วนใหญ่เราเห็นว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริงทางวิชาการ มีหนังสือหลายเล่มที่เขียนวิพากษ์วิจารณ์สถาบันในประเทศต่างๆ ก็ไม่มีปัญหา แต่หนังสือที่อาจารย์ไกรศักดิ์พูดถึงนั้น อาจจะไม่ใช่งานวิชาการ อาจเป็แค่พ็อกเก็ตบุกเล่มเล็กๆ มีข้อมูลนิดๆ หน่อยๆ และข้อเท็จจริงที่เขียนขึ้นมาก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ เพราะฉะนั้นจึงยังไม่ถือเป็นงานทางวิชาการ แต่เป็นความเห็น กลายมาเป็นประเด็นเพราะไม่เที่ยงตรง ไม่แม่นยำ ไม่ใช่งานทางวิชาการ และนำมาสู่ปัญหา เพราะผิดกฎหมาย”
นายปณิธานกล่าวต่อว่า อีกอย่างคนไทยในต่างประเทศ ยังมีความจงรักภักดี เขาก็ตามไปแสดงความคิดเห็นตอบโต้ อย่างเช่นที่นายใจไปพูดก็มีคนไปตอบโต้ และอีกอย่างสังคมฝรั่งเขาอยู่ด้วยเหตุด้วยผล ไม่ช้าไม่นาน พอเขาเห็นตรรกะที่ไม่ได้มีข้อเท็จจริงแล้ว แต่แน่นอนรัฐบาลไทยมีหน้าที่ต้องทำเท่าที่ทำได้ เรื่องของคดีความก็มีขั้นตอนอยู่ กรณีของนายใจอยู่ในขั้นเรียกมาสอบด้วยซ้ำ ซึ่งตัวนายใจเองคงไมได้รับผลกระทบอะไร แต่คนที่จะได้รับผลกระทบคือลูกศิษย์ที่เรียนหนังสือกับนายใจ
“ประเทศไทยอยู่ในสังคมโลก กระทรวงการต่างประเทศจะต้องรณรงค์ แต่ก็จะดำเนินการตามขั้นตอน คนไทยที่ไปอยู่ต่างประเทศและทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการ อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณเราก็ต้องพยาพยามตามจับ ไม่ช้าไม่นานกระบวนการทางกฎหมายจะมีผล”
ด้านนายไกรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากจะไปมองทั้งหมดว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่เบื้องหลังนายใจหรือคนอื่นๆ ก็ อาจจะไม่ได้ เพราะว่า แต่ละคนก็มีความคิดเป็นตัวของตัวเอง แต่ที่นายใจไปใส่เสื้อแดงนั้น มันไปแล้ว ยิ่งไปขึ้นเวทีด้วย ย่อมมีการเชื่อมโยงทางการเมืองอย่างแน่นอน ในทำนองเดียวกันที่ตนเคยขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ก็มีความเชื่อมโยงแต่ไม่ได้หมายความว่าเห็นด้วยกับพันธมิตรฯ ทั้งหมด
“แต่ว่าอันนี้ที่ออกมากลายเป็นขบวนการที่นายใจเป็นตัวแทนของ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว ที่ประเทศอังกฤษ คือทักษิณอยู่ไม่ได้ก็ทำหน้าที่แทน ซึ่งก็ทำให้คาดไม่ถึงว่าคนที่ผมเคยรู้จัก จากอาจารย์จะกลายเป็นเครื่องมือ เป็นโฆษกของทักษิณที่อังกฤษแล้ว ไม่คำนึงถึงเนื้อหาสาระที่มันเกิดขึ้นในประเทศไทยเราเลย
ช่วงของทักษิณที่มีการละเมิดสิทธิสูงที่สุด ยกตัวอย่าง การฆ่าตัดตอนยาเสพติด 2,800 กว่าคน แล้วยังจับไม่ได้สักคน เอาผิดไม่ได้สักคน แล้วเชื่อว่าจากการสอบสวนคณะกรรมการ คตน. เชื่อว่าทุกคดีเป็นการฆ่ามาจากนโยบายปราบปรามยาเสพติด และการฆ่ามาจากฝีมือเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่เองฆ่าประชาชน และเกือบทุกคดีไม่มีปรากฏการณ์เลยว่าเป็นผู้ค้า ผู้เสพ หรืออะไรกันแน่ ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริงๆ มีทั้งหมดมีราว 400 คดีเท่านั้น นี่เจ้าหน้าที่เขาสอบสวนนะ
ผู้บริสุทธิ์ล้มตายอย่างมหาศาลมากในยุคทักษิณ โชคดีที่นายใจ อึ๊งภากรณ์ พูดออกมาเรื่องนี้ ว่า “แต่ผมไม่เห็นด้วยนะครับในเรื่องเกี่ยวกับการฆ่าตัดตอนยาเสพติด ไม่เห็นด้วยในการฆ่าที่ตากใบ” แต่อย่างอื่นชื่นชม(ทักษิณ)เป็นนักประชาธิปไตยที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ทำนองนั้น” นายไกรศักดิ์กล่าว