xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ”ซัด“ใจ”ปั้นเรื่องเท็จโจมตีสถาบัน-“ไข่แม้วดำ”กลับเชิดชู-สะท้อนชัดขบวนการเดียวกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ”จวก “ใจ อึ๊งภากรณ์” รับเชิญปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยลอนดอน นำเรื่องโกหกพกลม โจมตีสถาบันอย่างหน้าด้านๆ แถมบิดเบือนใส่ร้ายพันธมิตรฯ ตั้งข้อสงสัย จุฬาฯ ให้ตำแหน่ง รศ.ได้อย่างไร แฉ “วีระ”ขึ้นเวทียกย่องเป็นกำลังสำคัญของคนเสื้อแดงในต่างประเทศ ชี้ชัดกระบวนการล้มล้างสถาบันล้วนเกี่ยวโยงพรรคเพื่อไทย และ “ทักษิณ ชินวัตร” ยก “อภิสิทธิ์”พิสูจน์วุฒิภาวะ จากการประชุมอาเซียน พร้อมทำนายการบินไทยเตรียมตัวเจ๊งต่อเนื่อง หลังตั้งคนมีมลทินมาเป็นบอร์ดใหม่ จวกสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศไม่ต่างจากพวกสมาคมเต๊ะจุ๊ย อำนาจเงินเข้าแทรกแซงได้


คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "Good Morning Thailand"

รายการ “Good Morning Thailand” ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกอากาศทางทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 06.00-07.00 น. วันจันทร์ถึงศุกร์ วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม 2552 ได้วิเคราะห์ถึงกรณี นายใจ อึ้งภากรณ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่หลบหนีคดีไปอยู่ประเทศอังกฤษ และได้รับเชิญไปพูดที่ SOAS แห่งมหาวิทยาลัยลอนดอน เมื่อวันจันทร์ที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งนายใจได้บิดเบือนข้อมูลโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรง

“สวัสดีครับท่านผู้ชมและพ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้ วันที่ 2 มีนาคม 2552 Good Morning Thailand กลับมาครั้งที่ 2 รายการนี้จะมีให้ท่านผู้ชมได้ชมกันทุกวัน ตั้งแต่วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 06.00-07.00 น. ยกเว้นช่วงไหนก็ตามที่ไปต่างจังหวัด ก็จะพยายามจัดสด เหมือนอย่างอาทิตย์นี้เราจะไปร่วมจัดคอนเสิร์ตทางการเมือง ที่สมุย วันที่ 5 ตอนเช้า 06.00 น.เราจะจัดสดจากสมุยมาให้ท่านนะครับ แต่ถ้าเราไปอเมริกาเราคงจะจัดสดให้ไม่ได้ พี่ปองของผมก็จะเป็นคนดูแลรายการนี้แทน

เมื่อกี้นี้เราเปิดเพลง "กำลังใจ" ของวงโฮป จะเล่าให้ฟังว่า เมื่อวานนี้ครบรอบ 5 ปีของ ASTV วันนี้เป็นวันที่ขึ้นรอบปีที่ 6 พ่อแม่พี่น้องครับ ท่านผู้ชมที่เคารพรัก ASTV อยู่มาแล้ว 5 ปี อยู่อย่างลำบากยากเย็น อยู่ท่ามกลางอันตราย อยู่ท่ามกลางการข่มขู่ของอำนาจรัฐที่จะปิด ASTV ขึ้นศาลไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง ไปขอคำสั่งศาลคุ้มครอง ASTV การต่อสู้ในทางสื่อด้วยกันที่โจมตีว่า สื่อ ASTV เป็นสื่อเถื่อน ทั้งๆ ที่ ASTV ไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ตลอดจนการถูกกลั่นแกล้งจากเคเบิ้ลท้องถิ่นบางส่วน ทั้งหมดนี้รวมไปจนถึงการฝ่าคมหอกคมดาบ ลูกกระสุนปืน ระเบิดต่างๆ ASTV เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งเดียว และแห่งแรกในประเทศไทย ตลอดจนพนักงาน ASTV ทุกคน เป็นพนักงานทีวีแห่งเดียวและแห่งแรกในโลกนี้ ที่มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความเป็นความตายตลอดเวลา เพื่อที่จะมารายงานข่าว รายงานความจริง และกล้าแสดงจุดยืนบนความถูกต้องให้กับพ่อแม่พี่น้อง ยังไม่นับถึงความลำบากยากเย็นในการจะหาทุนทรัพย์เข้ามาเพื่อสนับสนุน ASTV ต่อไป แต่ด้วยความรัก ASTV ที่พ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้แสดงออก ไม่ว่าจะเป็นการสมัคร SMS ซึ่งขณะนี้เรายังต้องการปริมาณคนสมัคร SMS มากกว่าเดิม หรือ พ่อแม่พี่น้องหลายท่านโอนเงินมาให้ ในช่วงการต่อสู้กัน 193 วัน ที่เวทีมัฆวานและทำเนียบรัฐบาล ก็มีคนเข้ามาบริจาคเรื่อยๆ เมื่อการต่อสู้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว ความเร่งรีบ หรือความดุเดือดลดน้อยลง เลยทำให้การบริจาคลดลงไปอย่างมหาศาล ลดลงหายไปเกือบ 70-80 เปอร์เซ็นต์ แต่ที่พูดเช่นนี้ไม่ใช่ ASTV มาบ่นให้ฟัง กำลังเล่าให้ฟังว่า ถึงจะไม่มีเงินอย่างไรเราก็จะเดินหน้าต่อไป นอกเสียจากว่าเราสู้ไม่ไหวจริงๆ แล้ว เราพร้อมจะหยุด อย่างน้อยที่สุดเราได้ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ ขึ้นปีที่ 6 วันนี้เป็นวันแรก ผมในฐานะเป็นหัวหน้าใหญ่ของ ASTV ขอยืนยันต่อพ่อแม่พี่น้องต่อไปว่า ในอนาคตนั้น ASTV จะไม่มีวันเปลี่ยนจุดยืน ไม่ว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้น จะไม่ตกเป็นทาสน้ำเงินของใครก็ตาม หากเราอยู่ไม่ได้จริงๆ แล้วเราจำเป็นต้องทำงานต่อไป เราจะไม่ขายจิตวิญญาณของเราเพื่อเงิน ถ้าเราจะต้องขายจิตวิญญาณของเราเพื่อเงิน เรายินดีจะปิดสถานีโทรทัศน์ ASTV ยังดีเสียกว่าที่เราจะไปขายจิต ขายใจให้กับเงินทอง

วันนี้วันที่ 2 มีนาคม อย่างที่พูดไปให้ท่านพ่อแม่พี่น้องฟัง วันนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นเยอะแยะไปหมด เอาเป็นว่าก่อนที่จะเริ่มเรื่องราวต่างๆ ที่จะเล่าให้พ่อแม่พี่น้องฟังนั้น ไปดูบรรยากาศเวทีคอนเสิร์ตการเมืองที่พิษณุโลกสักเล็กน้อยแล้วค่อยกลับมาเข้าสู่รายการหลัก เขาบอกว่า ไม่มีภาพครับ พูดต่อเนื่องหน่อยครับ ก็คือมันก็เป็นอย่างนี้แหละครับพ่อแม่พี่น้องครับ คนที่อยู่ในห้อง MCR ของผม บางวันก็ห่วยแตก เป็นอย่างนี้ต้องทำใจกันสักหน่อย ขนาดเจ้านายใหญ่สุดมาออกก็ยังบอกว่า ไม่มีภาพครับพูดต่อเนื่องหน่อยครับ พวกนี้เวลาเงินเดือนออกช้าก็บ่นกันอุบอิบ เขาบอกว่า ให้เข้าเบรกได้ครับเพราะว่าเขาไม่ได้เตรียมตัว เอาเบรกสักหน่อยแล้วกัน ผมต้องฝากความแค้นอันนี้ได้กับพนักงานในห้อง MCR ทั้งหลาย

พ่อแม่พี่น้องครับ วันนี้เรามาเข้ารายการเลยดีกว่านะครับ อย่าไปพึ่งพาอาศัยเลยไอ้พวกที่อยู่เบื้องหลัง ไว้ใจมันไม่ได้สักคนเลย

วันนี้จะเล่าเรื่อง นายใจ อึ้งภากรณ์ นิดหนึ่ง วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 ไม่ได้เป็นข่าวในประเทศไทยแต่เป็นข่าวในต่างประเทศ นายใจ อึ้งภากรณ์ ได้รับเชิญไปพูดที่ SOAS เป็นสถาบันการศึกษาเรื่องแอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นของมหาวิทยาลัยลอนดอน SOAS เป็นสถานที่หนึ่งที่เคยไปพูด ตอนที่เหตุการณ์ 19 กันยา ปี 2549 ผมบินไปกับ อ.ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ไปพูดที่ SOAS ไปเล่าให้ฟังถึงการต่อสู้ แล้วที่ SOAS มีพวกนักศึกษาฝ่ายซ้าย ซึ่งเป็นฝ่ายทักษิณเยอะ แล้วเป็นพวกอาจารย์ พวกไร้เดียงสาไม่น้อยเลยที่พยายามจะโจมตีเหตุการณ์ วันที่ 19 กันยา โดยโยงเข้าไปสู่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แล้วโยงไปสู่สถาบันกษัตริย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่เห็นในรายการ ที่กำลังพูดแนะนำนายใจ ผู้หญิงคนนี้ชื่อ นางซีมัว เป็นคนซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวเกี่ยวกับประเทศไทย แต่ว่าต้องใช้คำพูดที่แรงนิดหนึ่ง แต่ทะลึ่งมาออกความคิด ความเห็นชื่นชมนายใจเป็นอย่างมาก นายใจไปพูดที่ SOAS Youtube ได้เอามาลง นายใจไปพูดที่ SOAS มีคลิปประมาณ 4 คลิป คลิปแรก คือ เรื่องของการว่าทำไมกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพถึงทำลายประชาธิปไตยในเมืองไทย คลิปที่ 2 นายใจพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับประเทศไทย พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ส่วนตอนที่ 2 ที่เขาพูดมี 4 คลิปใน 1 ตอน แต่ตอนที่ 2 เขาพูดถึงเรื่อง การตกต่ำของประชาธิปไตยในเมืองไทย ที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาบอกว่า เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงนั้นเป็นเรื่องโกหกหลอกลวง ตอนที่ 3 ที่เขาพูดต่อไปนั้น ตอนที่ 3 ตอนที่ 4 อธิบายไม่ได้เลย เพราะเป็นคำพูดที่ดูหมิ่นศาลไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์ และสถาบันกษัตริย์ อย่างรุนแรง ไม่สามารถจะเผยแพร่ได้

สรุปสั้นๆ ง่ายๆ แล้วกันว่า นายใจพูดความจริงประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นโกหกหมด ที่ผมมีความรู้สึกคือ ผมมีความรู้สึกว่า นายใจอดีตเป็นถึง รศ.-รองศาสตราจารย์ ของคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมอยากจะฝากไปแล้วผมตั้งข้อสงสัยนิดหนึ่งว่า ตั้งข้อกังขาว่า คนอย่างในใจซึ่งไปโกหกหน้าด้านๆ ที่อังกฤษ ได้เป็น รศ.ได้ยังไง แล้วได้มาสอนหนังสือที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้อย่างไร ผมรู้ว่าคงจะมีคนโต้แย้งผมเยอะ แต่ผมคิดว่า ประเด็นหลักก็คือว่า

ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ นายใจไปโกหกที่ SOAS บอกว่า วันที่ 7 ตุลาคม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีอาวุธเต็มไปหมด มีทั้งปืน ทั้งระเบิด ทั้งอาวุธร้ายแรงทั้งสิ้น ถ้าคนที่มีสติปัญญา แล้วไม่มีความอคติ แล้วไม่มีมิจฉาทิฐิ ต้องเห็นชัดว่า คนที่มีปืน มีระเบิด ถ้ามีอย่างที่นายใจพูด แล้วตัวเองถูกฆ่าแบบนี้ การตอบโต้อย่างรุนแรงต้องเกิดขึ้น มีตำรวจที่ไหนตายบ้าง มีระเบิดตกไปด้านตำรวจ มีใครแขนขาด ขาขาด มีตำรวจเสียชีวิต ไม่มี มีแต่ประชาชนตาย

นายใจ อึ้งภากรณ์ สังเกตอย่างหนึ่ง ผมจะโยงให้เห็นนิดหนึ่ง วันที่ 26 กุมภาพันธ์ เป็นวันสุดท้าย คืนสุดท้ายของม็อบ ที่เราเรียก ม็อบประจำเดือนมา นายวีระ มุกสิกพงศ์ เขาประกาศบนเวทีว่ายังไง นี่คือคำพูดเขา เขาพูดว่า "ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศนั้นนายใจ อึ้งภากรณ์ บุตรชายคนเล็กของ ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ ปูชนียบุคคลระดับประเทศ ผู้มีลูกศิษย์ลูกหานับแสนๆ จะเป็นแนวรบในต่างประเทศ ที่สำคัญอย่างยิ่งของกลุ่มคนเสื้อแดง และกำลังจะสร้างผลงานต่อเนื่อง" บทพิสูจน์อันนี้มันพิสูจน์ชัด พ่อแม่พี่น้อง มันพิสูจน์ชัดว่า นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ตลอดจนกลุ่มเสื้อแดง และคนที่อยู่เบื้องหลังเสื้อแดง กับนายใจ อึ้งภากรณ์นั้นเป็นกลุ่มเดียวกัน เมื่อเป็นกลุ่มเดียวกัน วันนี้พิสูจน์ชัดแล้ว ว่ากลุ่มเสื้อแดง ซึ่งพวกที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกัน ก็คือ พรรคเพื่อไทย เกี่ยวโยงกันไปก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่จ้องจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นแล้วบทนี้เป็นบทพิสูจน์ได้ชัด

แล้วจากการที่นายใจไปพูดที่อังกฤษ 3-4 ตอน ในวันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ อย่าลืมนะครับ นายใจพูด 23 กุมภาพันธ์ นายวีระ มุสิกพงศ์ พูด 26 กุมภาพันธ์ แสดงว่า เมื่อนายใจพูดพวกนี้รับรู้หมดแล้ว รับรู้หมดว่านายใจพูดเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ยังไง ตำหนิติเตียน กล่าวหาตลอดเวลา หลังจากนายใจพูด 23 แล้ว 26 นายวีระถึงพูด ทวนอีกทีนะครับ "ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศนั้นนายใจ อึ้งภากรณ์ บุตรชายคนเล็กของ ดร.ป๋วย จะเป็นแนวรบในต่างประเทศ ที่สำคัญอย่างยิ่งของพวกเรา และกำลังจะสร้างผลงานต่อเนื่อง" พี่น้องเห็นหรือยังครับ

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้วต้องอธิบายความต่อไปนิดหนึ่ง ว่าในขณะนี้กระบวนการโลกล้อมประเทศ ก็คือ จะเอาเรื่องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เอาบทบาทของกษัตริย์ที่ถูกบิดเบือน เอามาโจมตี แล้วไม่ใช่เฉพาะนายใจอย่างเดียว กระบวนการของนายใจประกอบไปด้วย ที่ปรึกษานายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเดินสายอยู่ข้างนอก การว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์ นายมูน ซึ่งมีความสนิทชิดเชื้อกับสื่อมวลชนต่างประเทศ แล้วนิตยสาร เช่น ดิอีคอลนอมิส ของอังกฤษ ตลอดจนไฟแนนเชียลไทมส์ ซึ่งพวกนี้เป็นเครือข่ายต่างๆ ของกลุ่มนายทักษิณ แล้วนายแซม มูน ไปปล่อยข่าวว่าเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลประเทศไทย เป็นที่ปรึกษารัฐบาลประเทศนิการากัว พี่น้องจะเห็นกระบวนการต่างๆ เหล่านี้ พี่น้องไม่ต้องประหลาดใจ กระบวนการต่างๆ เหล่านี้จะไม่มีวันหยุด ด้วยเหตุนี้ คำพูดของนายใจ คนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงในประเทศไทย เมื่อฟังนายใจพูดจะเออออห่อหมกเห็นด้วย เพราะฉะนั้นแล้วกระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านรัฐมนตรีว่าการ กษิต ภิรมย์ ท่านมีความจำเป็นที่จะต้องเดินสาย หรือท่านมีความจำเป็นที่จะต้องใช้งบโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อต่อสู้กับขบวนการใส่ร้ายประเทศไทย ซึ่งดำเนินการโดยคนพวกนี้

ผมจะยกตัวอย่างคำพูดของนายใจ บางอย่างให้กับพ่อแม่พี่น้องดู แล้วพ่อแม่พี่น้องจะรู้ ทั้งหมดมี 4 ตอนที่นายใจพูด ตอนแรกในการสัมมนา ทำไมข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพถึงทำลายประชาธิปไตย ข้อที่ 2 ความพอเพียงที่หลอกลวงการเสื่อมถอยของประชาธิปไตย นับตั้งแต่ปี 2549 ข้อที่ 3 ลัทธิฟาร์สซิสของพันธมิตรและการกระจายการเผยแพร่การเซ็นเซอร์ ข้อที่ 4 ราชวงศ์ที่ล้มเหลวและสังคมใหม่เสื้อแดง พ่อแม่พี่น้องครับ ผมอ่านข่าวชิ้นนี้ ผมศึกษาข่าวชิ้นนี้แล้วผมอึ้ง ที่ผมอึ้ง ผมอยากจะให้พ่อแม่พี่น้องคิดสักนิดหนึ่ง เหมือนที่ผมพูดไปคราวที่แล้วว่า นายใจเป็นถึง รศ. คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ หรือว่ายังมีอีกหลายคน พี่น้อง บางคนเป็น ศ.-ศาสตราจารย์ เป็น รศ. อยู่ที่ธรรมศาสตร์ มีคนหนึ่งเป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คนซึ่งเป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์ ซึ่งสอนกฎหมาย แต่ยังไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ แล้วยังมากล่าวหา แล้วไม่ยอมพูดถึงความผิดของนายทักษิณ ที่นายทักษิณผิดกฎหมาย มีสิทธิ์อะไรจะมาสอนหนังสือให้เด็ก ลำพังแค่สอนหนังสือยังไม่ควรจะเป็นแล้ว ยังมาเป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วย เพราะฉะนั้นสังคมไทยอยู่ในช่วงวิกฤตจริงๆ

พี่น้องครับ นายใจโกหกอะไรบ้าง นายใจโกหก บิดเบือนถึงสถาบันกษัตริย์ ให้ร้าย โกหก เช่นบอกว่า คปค.ดำเนินการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน ในนามสถาบัน เขาพูดอย่างนี้ครับ Stating the coup on behalf of the King นอกจากนี้ยังโกหกว่า ระหว่างทำการรัฐประหาร ประชาชนไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ คปค. ที่ในเวลาต่อมาเปลี่ยนเป็น คมช. โดยระบุว่า คมช.ถ้าวิพากษ์วิจารณ์เท่ากับว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์สถาบัน และต้องถูกตั้งข้อหา หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ไม่เป็นความจริงเลยครับพ่อแม่พี่น้อง ทั้ง คปค. คมช. ทั้งขิงแก่ ขิงอ่อน ทั้งสุรยุทธ์ จุลานนท์ ทั้ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหนาสาหัสสากัน ผมเองก็เป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่วิพากษ์วิจารณ์คนพวกนี้ แล้วสิ่งที่นายใจพูดโกหกหมด ที่ไปกล่าวหาว่า ถ้าวิพากษ์วิจารณ์ คปค.หรือ คมช. เท่ากับหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แค่นี้นายใจก็โกหกคำโตๆ แล้ว ถ้าโกหกคำโตๆ อย่างนี้แล้ว มองย้อนกลับไปคนๆ นี้สอนหนังสือได้ยังไงที่จุฬาลงกรณ์ ผมต้องย้ำเรื่องนี้

เดี๋ยวจะให้ดูคลิปของนายใจ ที่กล่าวว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นปีศาจ ฟังคลิปนายใจสักนิดหนึ่ง

(เสียงคลิป นายใจ อึ้งภากรณ์)

พี่น้องครับ ผมรู้สึกดูถูกและเหยียดหยามคนอย่าง นายใจ อึ้งภากรณ์ มาก และผมยังจะตั้งข้อสงสัยกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเหมือนกันที่หลุดให้ตำแหน่ง รศ. กับนายใจ อึ้งภากรณ์ ได้อย่างไร แล้วผมก็สมเพช แล้วผมก็สงสารเด็กๆ ที่เคยเรียนกับนายใจ อึ้งภากรณ์ เขาบอกว่า พวกเราพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เขาเรียกว่าเป็น The Dark Monster เป็นการรวมตัวกันในนรกที่มาจากนักธุรกิจและนิยมกษัตริย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล มีนักธุรกิจที่ไหนมารวมตัว มีแต่หลบกันให้วุ่นเลย นักธุรกิจที่รวมตัว ถ้าจะรวมตัวกันอย่างน้อย ASTV ต้องมีโฆษณาบริษัทใหญ่ๆ แล้วซิ ไม่มี กลัวกันหมด นอกจากกลัวแล้วยังแอบไปด่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยข้างหลังอีก ส่วนบอกว่าผมเป็นฝ่ายขวาจัด เอียงขวา ผมเอียงขวา ผมจะเอียงอะไรไม่ทราบ แต่ผมเป็นคนที่เห็นว่าประเทศชาตินั้นจะขาดซึ่งสถาบันกษัตริย์ไม่ได้ เพราะสถาบันกษัตริย์นั้นได้มีบทพิสูจน์มาแล้วตั้งแต่ประวัติศาสตร์ไทย ว่ามีบทบาทในการเสริมสร้าง ปกป้องประเทศชาติบ้านเมือง และบทบาทของสถาบันกษัตริย์นั้น ก็สามารถโยงได้ว่า ได้วิวัฒนาการ พัฒนาการมาเรื่อยๆ ที่สำคัญคือ กษัตริย์ไทยทุกพระองค์ เป็นกษัตริย์ที่อยู่ในทศพิธราชธรรมครับพ่อแม่พี่น้อง แล้วก็ยังมีการกล่าวหา พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ว่าเป็นพวกต่อต้านการทำแท้งเสรี ละเมิดสิทธิสตรี แล้วต่อต้านการนับถือศาสนา ลองฟังเขาอีกสักนิดหนึ่งนะครับ ลองดูนะครับ

(เสียงคลิป นายใจ อึ้งภากรณ์)

พี่น้อง ผมไม่รู้จะใช้คำพูดอะไรอธิบายการโกหกพกลมของ นายใจ อึ้งภากรณ์ ได้ ทุกข้อที่นายใจพูดไปเมื่อกี้โกหกหมด คุณจำลอง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ท่านต่อต้านการทำแท้งเสรี จะไม่ให้ท่านต่อต้านได้อย่างไรครับ เมื่อเช้าตรู่ เมื่อท่านตื่นมา ผมเห็นท่านก้มลงกราบพระแล้วท่านสวดมนต์เป็นเวลาตั้งนาน ก่อนนอนท่านก็สวดมนต์เป็นเวลาตั้งนาน แล้วท่านปฏิบัติธรรม ท่านรักสันติ ท่านทานเจ ทานอาหารมื้อเดียว ที่เขาเรียก มหามื้อเดียว มาเป็นเวลาตลอดชีวิตของท่าน ท่านไม่ยึดติดกับสมบัติอะไร นี่คือพุทธแท้ เมื่อเป็นพุทธแท้แล้ว การทำแท้งคือการฆ่าคน ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต มันก็ผิดศีลข้อที่ 1 มันต้องตกนรก พี่ลองถึงค้าน ผมก็ค้าน พ่อแม่พี่น้องที่ดูทีวีอยู่ทุกวันนี้ ถ้าถามว่า อนุญาตให้ทำแท้งเสรีได้จะค้านไหม ผมเชื่อว่า 99.99 เปอร์เซ็นต์ ก็ค้าน อันนี้เป็นความเชื่อมั่นในศาสนาของเรา นายใจกลับพูดว่า ต่อต้านสิทธิเสรีภาพผู้หญิง การทำแท้งเสรี เห็นหรือยังพี่น้อง นายใจยังไม่เข้าใจศาสนาพุทธเลยแม้แต่นิดเดียว

เพราะฉะนั้นแล้วเขาบอกว่า พันธมิตรฯ มาจากนรก ถ้าเขาพูดเช่นนี้ แสดงว่า นายใจคือหัวหน้าซาตานที่อยู่ในนรก พี่น้องจะเห็นได้ชัด แล้วเขาก็ว่า อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พี่พิภพ ธงไชย พี่สมศักดิ์ โกศัยสุข ทำไมเขาไม่ตั้งข้อสังเกตบ้าง ว่าคุณพิภพ ธงไชย ผู้นำองค์กรเอกชน คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข ผู้นำแรงงาน อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ผู้ซึ่งต่อสู้ให้กับประชาชนผู้ยากไร้ ทำไม 3 คนนี้เขาถึงมาร่วมกับคนซึ่งต่อต้านการทำแท้งเสรี แล้วเข้ามาร่วมกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นผู้ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสาร ทำไมเขาถึงอยู่ด้วยกันได้ ที่เขาอยู่ด้วยกันได้ก็เพราะว่า เขาไม่ยอมรับระบอบทักษิณ นายใจไม่ได้พูดถึงระบอบทักษิณเลย นายใจเห็นนายทักษิณเป็นพ่อเขาแทน ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ ฉะนั้นแล้วสิ่งซึ่งนายใจไปพูดที่ SOAS ลอนดอน เป็นการโกหกพกลมอย่างบัดซบที่สุด จนกระทั่งสงสัยว่า นายคนนี้มาสอนหนังสือตั้งนานที่จุฬาลงกรณ์ได้ยังไง แล้วมีอาจารย์อีกหลายคน ไม่ว่าที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นลักษณะนายใจ อึ้งภากรณ์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เป็นลักษณะนายใจ อึ้งภากรณ์ เขาไม่เคยบิดเบือน เขาบอกว่าพันธมิตรฯ ไม่เคยพูดถึงเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน มัวแต่ดาทักษิณ และเรื่องการคอร์รัปชั่น ทำไมคุณถึงโง่อย่างนี้คุณใจ เราพูดถึงการฆ่าคนตายทางภาคใต้ เราพูดถึงผู้ต้องหายาเสพติดที่ถูกระบอบทักษิณฆ่าไปแล้ว 2,500 กว่าคน แสดงว่าคุณไม่เคยเข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นเลยใช่ไหม คุณรู้อยู่อย่างเดียว คุณพูดด้วยความแค้นใช่ไหม คุณมีความอาฆาตแค้นกับสถาบันมาแต่งดั้งเดิม ตั้งแต่สมัย 6 ตุลาแล้ว คุณเอาความอาฆาตแค้นของคุณอันนี้มากล่าวร้ายโจมตี มาใส่ร้ายป้ายสี

พี่น้องครับ เห็นรึยังครับ เรื่องต่างๆ แบบนี้ ทีวี ฟรีที่วีไม่เอามาออกหรอก แต่เอเอสทีวีเอามาออก เพราะฉะนั้นแล้วขึ้นปีที่ 6 ของเอเอสทีวี เราจะไม่ถดถอย ไม่มีวันถดถอยไปกับการเสนอความจริง ที่ร้ายมากกว่านั้นอีก พ่อแม่พี่น้อง นายใจ มาโจมตีเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่าไม่มีหลักการ หลักเศรษฐศาสตร์ใดๆ ทั้งสิ้น นายใจเนี้ยะไม่เข้าใจ ผมคิดว่าเป็นคนโง่ โง่จริงๆ แต่เผอิญได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะมัวผิดหลักเศรษฐศาสตร์ นายใจนี่ไม่รู้ใช่มะฮะว่า สหประชาชาติเคยให้รางวัลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ถ้าบอกเศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้อยู่ในตำราเศรษฐศาสตร์ แล้วสหประชาชาติมาให้รางวัลกับพระองค์ท่านได้ยังไง ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่ไปทั่วโลก นายใจยังไม่รับทราบ แสดงว่า เด็กนักเรียนที่เรียนกับนายใจ รับความโง่ของนายใจเข้ามาเต็มๆ เลย

ขณะเดียวกัน พวกคณะรัฐศาสตร์ นักรัฐศาสตร์ หรือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เชิดชูนายใจแล้วให้เป็นรองศาสตรจารย์ ก็ต้องตั้งคำถามถามตัวเองแหละ ว่า คนๆนี้ ได้มาเป็นรองศาสตรจารย์ได้ยังไง ผมจะแนะนำให้ไปรองอ่านบทความของ ดร.ปราโมทย์ ที่พูดถึง ดร.ป๋วย และนายใจ อึ๊งภากรณ์ ท่านพูดในหนังสือพิมพ์ เอเอสทีวี ผู้จัดการ รายวัน ดีมาก สั้นๆ ท่านบอกว่า ดร.ป๋วยเป็นลูกเจ๊ก นายใจก็เป็นลูกเจ็ก ลูกอังกฤษ แม่เป็นอังกฤษ อย่ามาว่าประเทศไทยเลย คุณไปแก้ปัญหาประเทศจีน และประเทศอังกฤษซิ ก็คุณเป็นลูกเจ๊กนี่ คุณอ้างว่าคุณภูมิใจ ที่คุณเป็นลูกเจ๊ก ก็จีนคอมมิวนิสต์ฆ่าประชาชนตัวเองที่เทียนอันเหมิน คุณไปลุยเขาซิ ก็คุณเกิดจากที่นั่น คุณก็ไปว่าซิ คุณยืนยันว่าคุณไม่ใช่คนไทย แล้วอังกฤษที่คุณเทิดทูน เชิดชูหนักหนา ไอ้ปัญหาโลกนี้ที่มันเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่อิรัก ไม่ว่าจะเป็นที่ปากีสถาน ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม มันไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะสันดานคนอังกฤษที่ล่านิคมในอดีตหรือไง คุณไปจัดการเขาดีกว่า นะครับ อย่ามายุ่งกับประเทศไทย เพราะเมื่อคุณบอกคุณไม่ใช่คนไทยแล้ว อย่ากลับมา เพราะคุณร่วมกับพวกเสื้อแดง นายวีระ มุสิกพงศ์ ชี้ชัดแล้วว่า เขากับคุณเป็นขบวนการเดียวกัน

ท่านผู้ชมครับ ครึ่งหลังนี้ตอนสุดท้ายเรามาพูดกันเรื่องอาเซียนนิดหนึ่ง การประชุมอาเซียนซัมมิตที่หัวหินและชะอำสิ้นสุดลงด้วยดี และการประชุมอาเซียนนั้นที่น่าดีใจเป็นอย่างยิ่ง คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของเรา ได้แสดงวุฒิภาวะผู้นำ ถึงแม้อายุจะน้อยกว่าทุกคนในบรรดาผู้นำทั้งหลาย แต่วุฒิภาวะคุณอภิสิทธิ์ ตลอดจนวิสัยทัศน์ของคุณอภิสิทธิ์นั้น ต้องถือว่า เหนือชั้น เราต้องร่วมกันดีใจนะครับ ข้อแตกต่างเห็นได้ชัดเลย ระหว่างคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับอดีตนายกรัฐมนตรี อย่างเช่น นายทักษิณ ชินวัตร ที่พูดนี้ไม่ได้พูดด้วยอคติ แต่จากการเปรียบเทียบในการประชุมหลายๆ ครั้งของคุณทักษิณ ชินวัตร เมื่อเปรียบเทียบกับคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเห็นความสำรวมของคุณอภิสิทธิ์ จะเห็นความอ่อนน้อมถ่อมตนของคุณอภิสิทธิ์ และที่สำคัญที่สุดคือ จะเห็นคุณอภิสิทธิ์ พูดจาเป็นผู้เป็นคน มีความเป็นมนุษยธรรมอย่างมากๆ

ประเด็นสำคัญที่อาเซียนได้มีการตกลงกันไปนั้น ไม่จำเป็นต้องเล่าให้ฟัง คือทั่วๆไป เปิดการค้าเสรีซึ่งกันและกัน จะต้องร่วมกันพัฒนาการค้า ร่วมกันทำโครงการ ซึ่งมันก็เป็นธรรมดาของคนในหมู่บ้านเดียวกัน เมื่อมารวมตัวกันแล้ว ก็ต้องประกาศว่าจะทำอันนั้นร่วมกัน อันนี้ร่วมกัน มีปัญหาเข้ามา เศรษฐกิจตกต่ำจะช่วยกันจับมือแก้ไขปัญหา การจะเอาเงินสำรองต่างประเทศซึ่งทุกคนมีอยู่ เอามารวมตัวกันหมด เราหมู่บ้านเรามีคนตั้ง 570 ล้านคน เราต้องใช้ศักยภาพ 570 ล้านคนนั้น 570 ล้านคน ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน แต่สิ่งหนึ่งที่คุณอภิสิทธิ์ได้ทำ แสดงออกถึงคนที่เป็นคนมีวิสัยทัศน์และมีคุณธรรมและมนุษยธรรม คือ ระหว่างการประชุมอาเซียนนั้นได้มีบรรดาองค์กรเอกชนมาแสดงความเห็นคัดค้านการกระทำของหลายประเทศในเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งคุณอภิสิทธิ์เองก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะมันก็มีข้อตกลงในกลุ่มประเทศอาเซียน ว่า ถ้าเป็นวาระอะไรก็ตามที่ไม่ใช่เอกฉันท์ คือ 11 ต่อ 0 9 ต่อ 0 เนี้ยะ โดยที่ต้องไม่มีใครคัดค้านถึงจะเข้าได้ ถ้ามีซัก 1 หรือ 2 ประเทศคัดค้าน ไม่สามารถเอาวาระนั้นเข้าที่ประชุมได้

ด้วยเหตุนี้วาระของสิทธิมนุษยชนก็เลยไม่ได้ถูกเอาเข้าไป แต่คุณอภิสิทธิ์ก็ออกมาพูดให้กำลังใจ ว่าเขาจะพยายามทำงาน ทำหน้าที่ ที่จะส่งเสริมให้มีไดอะล็อกการพูดจามากขึ้น ในเรื่องของสิทธิมนุษยชน เช่น ปัญหาเรื่องโรฮิงยา ผู้เร่ร่อน หรืออีกหลายประเทศ พี่น้อง อาเซียนตอนนี้ มีปัญหาเรื่องแรงงาน การไหลเทของแรงงาน แรงงานอินโดนีเซียที่ไปอยู่มาเลเซีย แรงงานอินโดนีเซียที่ไปอยู่ฮ่องกง ไปอยู่สิงคโปร์ แรงงานพม่าที่มาอยู่ไทย แรงงานลาว เขมรที่มาอยู่ไทย แรงงานคือปัญหาการเข้าออกข้อที่ 1

ข้อที่ 2 คือปัญหาสิทธิมนุษยชนของพวกเขา เช่นที่สิงคโปร์นั้น แรงงานอินโดนีเซียไปอยู่ที่สิงคโปร์ คือ ไปทำงานบ้านที่สิงคโปร์ ก็จะถูกกดขี่ ถูกกดเหง ถูกรังแก ไม่ให้สิทธิเขา และเมื่อเศรษฐกิจตกต่ำที่ไร แรงงานพวกนี้ก็จะเป็นพวกแรกที่จะตกงาน เพราะฉะนั้นแล้วปัญหาในเรื่องต่างๆ เหล่านี้ เป็นปัญหาใหญ่ของอาเซียน

ประเทศไทยเรามีแรงงานพม่าเข้ามา มีใครบ้างละครับ อย่างน้อย 30-50% ในประเทศไทย ในกรุงเทพฯก็ต้องมีแรงงานพม่า แต่เมื่อวานนี้ ผมไปทานอาหารตอนเย็นที่ริมถนนเยาวราช ผมเจอคนเสิร์ฟ ซึ่งพูดภาษาไทย ผมก็ฟังเกือบตาย ผมก็ว่าเอ๊ะไอ้นี่ ทำไม พูดไม่รู้เรื่อง ผมก็ฟังไปฟังมา อ๋อ พม่านิหว่า ผมก็เลยทำความเข้าใจกับเขานะฮะ มีหมดทุกอย่าง เราจะแก้ปัญหาตรงนี้ยังไง มาเลเซียจะแก้ปัญหาแรงงานอินโดนีเซียยังไง ไทยจะแก้ปัญหาแรงงานพม่ายังไง การแก้ปัญหา ไม่ใช่ว่า การแก้ปัญหาจะสักแต่แก้ปัญหา แต่ต้องคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนของเขาด้วย ตรงนี้ตะหากที่อาเซียนไม่ได้ตกลง และไม่กล้าที่จะตกลงเรื่องนี้ คือปัญหารากเหง้า ปัญหาของโรฮิงยา พวกคนเร่ร่อนก็คือ ปัญหามาจากรัฐบาลทหารพม่า เพราะฉะนั้นแล้วพม่าก็ไม่ยอมรับ การที่จะให้พม่าหยุดกดขี่ข่มเหงพวกคนเร่ร่อน โรฮิงยาเนี้ยะ พม่าก็ไม่ทำ พม่ามันมองว่า เป็นปัญหาส่วนตัวของเขา เพราะฉะนั้นแล้ว ประเทศในอาเซียน อย่างจีนเนี้ยะ ล้วนแล้วแต่มีผลประโยชน์กับพลังงานกับพม่า ถูกไม่ถูก เขาจะต้องไปขุดน้ำมันที่พม่า เพราะฉะนั้นถ้าพม่าไม่เอาซะอย่าง จีนกับประเทศในอาเซียน ประเทศไทยยังต้องซื้อแก๊สจากพม่าเลย เพราะงั้น พ่อแม่พี่น้องต้องเข้าใจว่า การประชุมอาเซียนซัมมิตในลักษณะหนึ่งดูเหมือนจะได้ผลพอสมควร แต่ในลักษณะหนึ่งซึ่งเป็นข้อเท็จจริงคือว่า ไม่ได้ผลเลย ได้แต่การเซ็นสัญญาเฉยๆ แต่สิ่งหนึ่งซึ่งเราเห็นชัดคือว่า บทบาทของคุณอภิสิทธิ์ ที่มีต่อสังคมโลกสูงเด่นมาก

อีกประการของการตกลงที่อาเซียนซัมมิทนั้น ที่น่ากลัวสำหรับผมนะฮะ คือ จะมีผลต่อประชาชนมากคือ เรื่องการค้าเสรี คือการเปิดเสรีหมดทุกอย่าง การเปิดเสรีทุกอย่างจะสังเกตได้ชัดนะครับ ว่า เมื่อเปิดเสรีโดยที่เราไม่ได้เตรียมตัวให้พร้อม คนที่เสียเปรียบนะฮะ คือประชาชนเป็นผู้เสียเปรียบ ยกตัวอย่างให้ฟังกันง่ายๆ พี่น้องจำสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ไหม คุณทักษิณ เป็นคนที่เปิดเสรีมามากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสรีกับจีน กับออสเตรเลีย แต่ปรากฏว่า คนที่เก็บเนื้อเก็บตัว คือ คนไทย พี่น้องจำเรื่องผลไม้ พืชผักได้ไหม ที่เปิด ก็เจ้าของหอม กระเทียมที่อยู่ทางภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง ที่เจ๊งหมดเพราะอะไร ก็เพราะการเปิดการค้าเสรีของคุณทักษิณที่เปิดกับจีน แล้วทำไมต้องเปิดกับจีน เพราะจีนจะได้มาเซ็นสัญญาเช่าดาวเทียม ไอพี สตาร์ กับคุณทักษิณไงหล่ะ เห็นมะ

เพราะฉะนั้นแล้ว พ่อแม่พี่น้องจะได้เห็นชัด หรือว่า ออสเตรเลีย ปรากฏว่า ออสเตรเลียเขาบอกว่า เขาก็ต้องใช้ไอพี สตาร์ ของคุณทักษิณ เหมือนกัน ออสเตรเลียก็ต้องส่งนมเข้ามาราคาถูก ในที่สุดแล้วคนที่เลี้ยงโคนมของคนไทยก็ต้องเอานมนั้น ไปราดตัวประท้วงอยู่ท่ามกลางลาน เห็นรึยังพี่น้อง การเปิดเสรีไม่ผิด แต่การเปิดเสรีที่ผิดจังหวะในขณะซึ่งหลายๆ ส่วนในสังคมเรายังอ่อนแอ นั้นผิด พี่น้อง

เดี๋ยวเรามาพูดเรื่องต่อไป อีกเรื่องหนึ่งนะฮะ เวลายิ่งมีน้อย เราจะพูดเรื่อง การบินไทยซักนิดหนึ่ง วันนี้เนี้ยะ เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว การบินไทยได้แถลงข่าวออกมางบขาดดุล งบกำไรประจำปี 2551 นั้น การบินไทยขาดทุนไป 20,000 กว่าล้าน จริงๆ แล้ว การบินไทยขาดดุล 20,000 กว่าล้าน ยังไม่น่าประหลาดใจ เหตุผลก็เพราะว่าการบินไทยขาดทุนมีแนวโน้มจะขาดทุนมาตั้งนานแล้ว เผอิ๊ญ เผอิญปีนี้ขาดทุนหนัก โดยที่ อันนี้ก็ต้องเห็นใจเขานะฮะ ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขานิดหนึ่ง ส่วนหนึ่งเนี้ยะ คือ เขาต้องตัดค่าเสื่อม จาก 20 ปี เหลือ 15 ปี มันก็เลยทำให้ยอดค่าเสื่อมซึ่งต้องตัดออกสูงมาก

คำว่า ค่าเสื่อม คืออะไร พ่อแม่พี่น้องรู้ไหมฮะ เราซื้อคอมพิวเตอร์ตัวนี้มา ตัวนี้นะฮะ ตีซะว่า 100 บาท ตามฐานะทางบัญชีบอกว่า เมื่อเราใช้ไปแล้ว 1 ปี ต้องตัดค่าเสื่อม คือเราซื้อมา 100 บาท เขาจะอนุญาตให้ตัดค่าเสื่อมได้ใน 20 ปี ก็คือปีละ 5 บาท ถูกไหมละฮะ เพราะฉะนั้นเราใช้ไปปีหนึ่ง เราก็ต้องลงว่า ตัดค่าเสื่อมสินค้า 5 บาท นั่นก็คือต้นทุนค่าใช้จ่ายต้องตัดออก 5 บาท มันไม่ใช่เงินสด มันเรียกว่า Non Cash Item แต่ว่ามันเป็นภาระทางบัญชีต้องลง เหมือนที่เราซื้อเครื่องจักรมาเครื่องจักรหนึ่ง ราคา 2,000 บาท เขาบอกว่า ตามหลักการบัญชี เขาให้สอยตัดค่าเสื่อมนี้ได้ 20 ปี 2,000 บาท ก็ปีละ 100 บาท จู่ๆ งวดบัญชีเขาลดเหลือ 15 ปี จาก 2,000 บาท แทนที่จะตัดได้ 20 ปี ก็ต้องตัดได้แค่ 15 ปี เพราะฉะนั้นแล้วยอดการตัดต่อปีมันจะสูง อันนี้เห็นใจ เข้าใจดี แต่ว่าปัญหามันมีอย่างนี้ ปัญหามันมีว่าการบินไทย นอกจากค่าเสื่อมแล้ว ยังขาดทุนจากการปฏิบัติการอีก ที่น่าสนใจพี่น้อง เขายอมรับว่า เขาไปเก็งกำไรราคาน้ำมัน หลังจากโดนพวกเราตำหนิติเตียน ผมเอาเรื่องของการไปซื้อ ซื้อไปเล่น เล่นน้ำมันล่วงหน้าเอามาต่อว่าเขา จนกระทั่งในที่สุด การบินไทยก็มีการพิสูจน์ โดยยอมรับว่า ส่วนหนึ่งก็คือการที่เขาขาดทุนจากการไปเล่นน้ำมัน

อีกอันซึ่งน่าสนใจมากพี่น้อง เขาบอกว่า เขากำลังจะจัดตั้งคณะกรรมการฟื้นฟู เขาจัดตั้งยังรู้ไหมพ่อแม่พี่น้อง เขาก็เอากลุ่มคนเนี้ยะ กลุ่มคนที่ทำการบินไทยเจ๊งวันเนี้ยะ มาที่จะทำแผนฟื้นฟู และเมื่อพี่น้องดูรายชื่อแล้ว พี่น้องจำไว้อย่างนะ เมื่อใดก็ตาม กลุ่มอุตสาหกรรม หรือกลุ่มธุรกิจอะไรก็ตาม ถ้าเราเอาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาเป็นประธานการฟื้นฟูเนี้ยะ พี่น้องเชื่อขนมได้เลย เซ็นเช็กลงนรกได้ทันทีเลยว่า เจ๊งแน่ๆ

ผมจะตั้งให้ดูนะฮะ ท่านสุรชัย ธารสิทธิพงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการบริษัทฯ ประกาศแผนฟื้นฟูธุรกิจและการเงิน โดยตั้งคณะกรรมการบริหารแผนฟื้นฟู ซึ่งก็หน้าเดิมทั้งนั้น 1 นายพิชัย ชุณหวชิร เป็นประธาน ก่อนหน้านี้เป็นแค่หนึ่งในบอร์ดเท่านั้นเอง นายพิชัยคือใคร นายพิชัยคือรองกรรมการผู้จัดการ ปตท. แล้วนายพิชัยเนี้ยะก็เป็นตัวการหลักที่ออกมาว่า ออกมาพูดตลอดเวลาว่า การบินไทยเจ๊ง เพราะเราไปปิดสนามบินสุวรรณภูมิ

ผมเลยอยากฝากบอกคุณพิชัยไปนิดหนึ่ง ถ้าคุณมีสติปัญญาค้นข้อมูลซักนิดหนึ่ง คุณต้องรู้ว่า คนที่สั่งปิดสนามบินสุวรรณภูมิไม่ใช่พันธมิตรฯ แต่คือนายเสรีรัตน์ คู่เขย กับนายวีระ มุสิกพงศ์ สั่งปิดไม่ให้เครื่องบินลง เครื่องบินขึ้น เราไม่ได้ห้ามคนที่จะไปขึ้นเครื่องบิน หรือคนลงมาจากเครื่องบิน หากการกระทำเราก็เปรียบเสมือนเราเดินทางไปที่หน้าสนามบิน แต่เราไม่ได้ปิด ใครจะเข้าใครจะออก เราเปิดทางให้ตลอดเวลา คุณไม่เชื่อ คุณไปดู และเขากำลังจะฟ้องนายเสรีรัตน์ ฟ้องบอร์ดการท่าฯ ว่ามีการสั่งปิดสนามบินโดยไม่ถูกกฎหมาย พันธมิตรฯไม่ได้ปิด คุณวิชัยคุณเข้าใจตรงนี้ด้วย แต่ในมุมกลับ ตัวคุณเองมีส่วนทำให้การบินไทยเจ๊ง คุณเนี้ยะมีส่วนในการที่ทำให้การบินไทยต้องไปเร่งราคาน้ำมันล่วงหน้า จาก 140 เหรียญ ต่อ 1 บาร์เรล กลายเป็น 40 เหรียญต่อ 1 บาร์เรล

อีกหลายคนนะฮะ มีอยู่ 2 คนผมอยากจะพูดถึง นายวัลลภ พุกกะณะสุต ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการพาณิชย์ พี่น้องรู้ไหม ทำไมผมต้องพูดถึง นายวัลลภ พุกกะณะสุต ที่ผมต้องพูดเพราะนายวัลลภเป็นคนเสนอตั้งศูนย์บริการผู้โดยสารในเมืองตรงลาดพร้าว พี่น้อง พี่น้องการบินไทยก็รู้ ไอ้ศูนย์บ้านี่ตั้งขึ้นมาเพื่ออะไร พี่น้องรู้เปล่า ตั้งขึ้นมาเพื่อเช่าสถานที่กับคนรู้จักกัน ให้เขาได้เงิน การบินไทยลงทุนไป 200 กว่าล้าน แล้วเกิดอะไรขึ้น พี่น้องรู้ไหม สิ่งที่เกิดขึ้นคือว่า ทุกวันนี้มีบริการรถผู้โดยสารจากสนามบินมาที่ศูนย์นี้ เฉลี่ยแล้ว รถ 1 คัน มีผู้โดยสารนั่งไม่เกิน 2 คน ขาดทุน พินาศ ฉิบหายกัน ก็ยังหน้าด้านทำกันอยู่ และเป็นไอเดียที่มาจาก นายวัลลภ พุกกะณะสุต และจากนายเรือเอกเรืออากาศเอกอภินันท์ สองคนนี้ อภินันท์ไม่อยู่แหละ วัลลภก็เกษียณไปแล้ว ยังดึง นายวัลลภ พุกกะณะสุต กลับมาอีก ผมอยากเห็นนายวัลลภสั่งปิดศูนย์บริการที่ลาดพร้าว เพราะที่ตั้งขึ้นมา ตั้งขึ้นมาเพื่อเอื้อประโยชน์กับเจ้าของที่ดิน รู้จักกัน เพื่อให้เจ้าของที่ดิน มีงานมีการทำ มีเงินทองใช้กัน เห็นชัด

อีกคนคือ นายโชคชัย ปัญญายงค์ ผู้อำนวยการใหญ่โครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายโชคชัยนี่ก็เหมือนกัน หัวเด็ดตีขาด หัวชนฝา ต้องการที่จะย้ายดอนเมืองกลับไปสุวรรณภูมิ จนกระทั่งเขาคัดค้านกันเต็มที่ นายโชคชัยเป็นคนประเภทยืนกุมไข่ และพอการเมืองบอกว่า ย้ายกลับนะ ครับท่าน ครับท่าน เดี๋ยวผมจัดการให้ ไปจัดการอยู่เลย ทุกอย่าง โดยไม่สนใจ ไม่ถามเขาซักคำ ว่าทำไมต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น
ด้วยเหตุอันนี้ ผมเห็นรายชื่อกรรมการแล้ว ผมก็ถอดถอนหายใจ ผมว่า ขอโทษนะฮะ ฉิบหายแน่นอน เพราะอุตสาหกรรมการบิน นายกสมาคมไอแอตต้า สมาคมขนส่งทางอากาศ เขาบอกอุตสาหกรรมการบินจะลดลง ลดลงตลอดเวลา เดือนมกราคมลดลงมากกว่าเดือนธันวาคม และคาร์โก้ตกลงไป 22% ที่ตกมาที่สุดว่า สายการบินที่มาจากเอเชีย ที่ส่งออกไปเมืองนอก คาร์โก้ลดลง 28% และจะต้องลดลงต่อไป คณะกรรมการชุดนี้ยังไม่ทันไรเลย ก็ติดสันดานเดิม โม้ทันทีว่า สิ้นปีนี้จะกำไร 4,000 ล้าน จะพนันกันมะ ถ้ากำไรจริงๆ โดยไม่มีตัวเลขแต่งนะฮะ กำไรจริงๆ พนันกันไหมฮะ ผมพร้อม ถ้าท่านกำไรจริงๆ ท่านเอารองเท้าท่านมาลูบหน้าผม แต่ถ้าขาดทุนไม่กำไรจริง ขออนุญาตเอาถุงเท้าผมตบหน้าท่านแทน โอเคไหมครับ ผมว่าอย่างนี้แฟร์

ท่านผู้ชมครับ เป็นช่วงสุดท้ายนะครับ วันนี้จะพูดถึงเรื่องคุณทักษิณ ที่ฮ่องกงสั้นๆ ส่วนประเภทเจ็บๆ คันๆ โยนให้พี่ปองของผม ก็แหล่งข่าวผมเอง ซึ่งค่อนข้างเชื่อถือได้ ยืนยันว่าคุณทักษิณเนี้ยะ นอกจากไม่ได้ไปพูดที่ฮ่องกงแล้ว จะไม่มีการโฟนอิน ไม่มีวิดีโอทั้งสิ้น ไม่มีใดๆ ทั้งสิ้นเลย ที่ฮ่องกง

ก่อนจะพูดจบรายการนี้ อยากอธิบายคำว่า สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศนิดหนึ่ง พี่น้อง FCCT นะครับ FCCT มันย่อมาจาก The Foreign Correspondents' Club of Thailand ฮ่องกงก็ FCCS แสดงว่า ผู้สื่อข่าวต่างประเทศไม่ได้มีอะไรต่างไปจากสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย หรือสมาคมบาบอคอแตกที่เกี่ยวกับสื่อมวลชน คือ เป็นที่รวมตัวของพวกเต๊ะจุ๋ย ไอ้พวกสื่อมวลชนฝรั่ง มันจุ๋ยมาก มันเป็นที่ มันไปนั่งกินเหล้ากัน ที่มานั่งกินเบียร์กัน และไปโม้กัน แต่ละคนก็นักข่าวก็กระจอก ไอ้คนประเภทที่ทำมาหากินในวงการสื่อมวลชน และไปแอคอาท เต๊ะจุ๋ยแถวนั้น นักข่าวเช่น นิวยอร์กไทมส์ วอชิงตันโพสต์ หรือ CNN พวกนี้เขาจะไม่เข้าไปสุงสิง มีรายการอะไรเขาถึงจะไปสุงสิง แต่พวกนี้ทำตัวเป็นใหญ่ FCCT ก็เหมือนกัน ผมเคยไปพูดที่ FCC ฮ่องกง มาเนี้ยะ 3 ครั้ง ถ้าจำไม่ผิด ครั้งหนึ่งเป็นดินเนอร์ 2 ครั้ง เป็น LUNCH LUNCH นี่เขาจะมีทุกวัน ตลอดเวลา ก็จะเชิญเขามา

ทั้งหมดเนี้ยะ FCC มันก็เลยถูกแทรกแซงได้ คนที่แทรกแซง คนที่เข้าไปตีสนิท ก็มีคุณจักรภพ เพ็ญแข ที่ตีสนิทกับ FCCT สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในประเทศไทยเนี้ยะ เชิญผมมา 5 ครั้ง ผมปฏิเสธที่จะไป ครั้งสุดท้ายเขาบอกว่า ทำไมถึงไม่ไป ผมบอกผมขี้เกียจ ไปเสริมบารมีพวกคุณ เพราะพวกคุณตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ว่าคิดยังไงกับพวกผม เพราะคุณเป็นพวกคุณทักษิณ นายโจนาธาน เฮด เนี้ยะ ตัวดี อุตสาห์ติดต่อผ่านมาหลายคน แล้วมาพูดกับผม ที่ไปเปิดโอกาสให้พูด ผมไม่ต้องการพูด เพราะคำถามคุณเนี้ยะตั้งเป้าไว้เรียบร้อยแล้วว่า คุณจะถามแบบไหน คุณมีความสุขกับกลุ่มฝ่ายทักษิณ ก็มีความสุขไป คนอย่างผมจะไม่ให้คุณสัมภาษณ์เป็นอันขาด และผมก็ไม่แคร์ด้วยว่า คุณจะเขียนถึงผมยังไง เพราะสำหรับผมแล้วคุณไม่ได้ต่างไปกว่าสื่อที่อยู่ในการบริหารของคุณทักษิณ ไม่ได้ต่างไปกว่ารายการความจริงวันนี้ เลยแม้แต่นิดเดียว คุณก็รู้อยู่แล้ว แม้แต่นิตยสารไทมส์แมกกาซีน เข้าไปสัมภาษณ์ เข้าไปเดินอยู่ในทำเนียบ ก็เห็นชัดๆ ว่าเราเป็นยังไง ยังเสือกไปเขียนอีกว่า เรานั่งกินเหล้ากัน เราพกปืนกัน ผมว่าคุณบ้าไปแล้ว ผมก็เลยไม่ให้ความสำคัญกับ FCCT หรือ FCC ที่ไหนก็ตาม เพราะฉะนั้นแล้ว การที่ทักษิณจะไปตรงนั้น ก็เพราะว่านายทักษิณ เขามีนายจักรภพ เพ็ญแข เขามีนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เขามีนายแซม มูน ลอบบี้ยีสต์ ซึ่งอยู่ในวงการสื่อมวลชน เพราะฉะนั้นแล้วเขาก็จะใช้สื่อมวลชนพวกนี้ เข้ามาล้อมประเทศไทย

พี่น้องครับ เดี๋ยวไปเจอพี่ปองของเรา วันนี้พี่ปองมีแขกพิเศษ ซึ่งพี่ปองหลอกมาออก แล้วค่อยดูกันว่าแขกพิเศษคือใคร และก็ลองดูซิว่า ผมพูดนี่ผิดไหม เพราะพี่ปองถนัดนักในเรื่องจิกคน กัดคน แต่ผมเข้าใจวันนี้ แขกที่มาใส่เสื้อเกราะมาดีพอสมควร สวัสดีครับ ท่านผู้ชม พรุ่งนี้เจอกัน



กำลังโหลดความคิดเห็น