“สาก” คลั่ง! ไม่มีใครเชื่อข่าว ปชป.จับมือเพื่อไทย ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ย้อนถามคนพูดเรื่องนี้เลวกว่าเป็นชู้เมียชาวบ้านหรือ ขู่อภิปราย รมว.กลาโหม จ้างเอกชนซ่อมยานยนต์เป็นกระสุนทองเหลือง พร้อมขุดเงื่อนงำรถเกราะยูเครนเล่นงาน เถียงคอเป็นเอ็นกินข้าวกับเพื่อนประชาธิปัตย์จริง เชื่อรัฐบาลแห่งชาติทำคนปรองดอง เมินเสื้อแดงค้าน
กรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยกินข้าวด้วยกันกับ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เพื่อหาเรื่องการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ และล่าสุดได้ออกมาแฉ ร.ต.ท.เชาวริน พยายามเรียกไปถ่ายรูปด้วยกันในงานเลี้ยงของกรรมาธิการฯ เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อนำไปเป็นหลักฐานว่าได้กินข้าวด้วยกันนั้น
วันนี้ (27 ก.พ.) ร.ต.ท.เชาวริน ให้สัมภาษณ์ ที่รัฐสภาว่า เรื่องราวของเรื่องมันเกิดจากได้ไปกินข้าวกับเพื่อนคนหนึ่งในพรรคประชาธิปัตย์ และก็ไม่ได้บอกว่าไปกินข้าวกับใคร และเพื่อนคนนี้ได้ปรารภมาว่า อึดอัดกับการทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล นับองค์ประชุมครั้งใดก็สะดุดทุกที และเรื่องนี้ตนก็ไม่เคยพูดในที่สาธารณะ นำไปพูดต่อคณะทำงานเตรียมการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล จากนั้นมาเป็นข่าวได้อย่างไร ก็ไม่ทราบ
“จากนั้นก็มีข่าวออกมาว่าผมไปกินข้าวกับคนนั้นคนนี้ โดยเฉพาะนายสุเทพ ออกมาระบุว่าคนมาพูดเรื่องนี้เลว แหม อันที่จริง ผมก็ไม่อยากถามกลับไปหรอกว่า หากคนที่ออกมาพูดเรื่องนี้มันเลว แต่กับคนที่เป็นชู้เมียชาวบ้านอย่างไหนมันจะเลวกว่ากัน แต่อยากบอกว่าอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ ไม่มีทฤษฎีตายตัวหรอก” ส.ส.สัดส่วนจากพรรคเพื่อไทย ย้ำ
ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า ตนไม่เคยกินข้าวกับนายนิพนธ์และไม่เคยพูดคุยเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ ไม่ทราบว่าทำไมนายนิพนธ์ถึงออกมาแถลงและพูดถึงชื่อตนได้ ในวันแถลงข่าว นส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม โทรศัพท์มาชวนตนไปร่วมแถลงข่าวยืนยันในเรื่องนี้ด้วย แต่ตนมีธุระจึงปฏิเสธการไปแถลงข่าว และก็ยังแปลกใจ ทำไมนายนิพนธ์จึงออกมาแถลงข่าว สงสัยพรรคประชาธิปัตย์เขาจะมีปัญหากันเองหรือไม่
“แต่ยอมรับว่าได้พบกับนายนิพนธ์ ล่าสุดงานเลี้ยงของกรรมาธิการฯ ในโอกาส นายอิสสระ สมชัย ได้เป็น รมว.พัฒนาสังคมฯ แต่ก็ไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ ในวันนั้นยังพูดหยอกล้อเลยว่า มากินข้าวกันวันนี้ นักข่าวมาด้วยไหม เดี๋ยวเขาจะมองว่าพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์มากินข้าวด้วยกัน แต่อย่าลืมเรื่องนี้ หากไม่มีมูล หมามันไม่ขี้หรอก” ร.ต.ท.เชาวริน
ยันหนุนหวังให้คนในชาติปรองดองกัน
ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับรัฐบาลแห่งชาติเป็นอย่างไร ว่า ตนตอบแทนท่าทีของพรรคไม่ได้ ถ้าถามตนก็ ตอบได้ ในสภาพการณ์แบบนี้ แนวทางที่จะทำให้เกิดความปรองดองในชาติ สิ่งที่ต้องทำคือต้องร่วมมือกับทุกฝ่าย หากยังมีรัฐบาล ฝ่ายค้าน มีเหลืองมีแดง ชาตินี้ก็คงไม่มีทางปรองดองกันได้ คนมาเป็นนักการเมืองย่อมมีจิตสาธารณะ ต้องการทำงานให้ประเทศชาติและประชาชน คงไม่มีนักการเมืองคนใดปฏิเสธเรื่องนี้ หากเราจะมาทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ต้องมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ต้องลดทิฐิแล้วมาทำงานร่วมกัน เพื่อก้าวไปข้างหน้า
เมิน “เสื้อแดง” ปัดแนวคิดรัฐบาลแห่งชาติ
ส่วนกรณีถึงกรณี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่าหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล รัฐบาลแห่งชาติ จะเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ ตนไม่ทราบ ต้องไปถามนายสุรพงษ์เอาเอง
เมื่อถามว่าคนเสื้อแดง อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ออกมาปฏิเสธแนวคิดรัฐบาลแห่งชาติอย่างสิ้นเชิง ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า เป็นสิทธิของเขา แต่อยากบอกว่า อะไรจะเกิดขึ้น ก็ต้องเกิด เหมือนที่ตนบอก ทุกอย่างเป็นลิขิตของฟ้าดิน
เผยงบซ่อมในกองทัพ จ่ายปลอกกระสุนทองเหลืองแทน
ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวต่อว่า ได้นำเสนอข้อมูลต่อคณะทำงานอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยได้เสนอข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารกระทรวงกลาโหม เพราะทราบมาว่า การซ่อมยานยนต์ในกองทัพ แทนที่บริษัทผู้รับงานจะรับเป็นเงินจากกองทัพ กลับเสนอเงื่อนไข ขอรับเป็นปลอกกระสุนทองเหลืองแทนซึ่งราคาทองเหลืองเท่าที่ทราบราคา 150 บาทต่อกิโลกรัม และไม่มีใครทราบว่าปลอกกระสุนทองเหลืองของกรมสรรพาวุธจากทั่วประเทศมีมากแค่ไหน ราคารวมกันจะมากเท่าไหร่ ซึ่งไม่มีใครสามารถตรวจสอบได้ อาจมีราคามากกว่าค่าซ่อมยานยนต์ของกองทัพก็เป็นได้
เล็งซักฟอก “กลาโหม” งบซื้อรถหุ้มเกราะ
นอกจากนี้ ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวอีกว่า ยังมีบางคนเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อรถหุ้มเกราะจากประเทศยูเครน มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งรถหุ้มเกราะดังกล่าวเป็นของสหภาพโซเวียตเดิม ที่นำมาดัดแปลงใหม่ ก่อนที่จะเสนอขายกองทัพไทย ในอนาคตรถหุ้มเกราะดังกล่าวไม่มีอะไหล่ เนื่องจากยูเครน เป็นประเทศที่แตกจากสหภาพโซเวียตและโซเวียตไม่มีอะไหล่รถรุ่นนี้แล้ว หากซื้อรถหุ้มเกราะดังกล่าว ยังผิดระเบียบกระทรวงกลาโหม สมัยที่ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เป็น รมว.กลาโหม ที่ออกระเบียบมาว่า การจัดซื้ออุปกรณ์ทางทหารจากประเทศใด ไทยต้องมีข้อตกลงความร่วมมือทางทหารกับประเทศนั้นๆ ส่วนข้อมูลที่ได้เปิดเผยออกมาจะนำมาอภิปราย รมว.กลาโหม ด้วยหรือไม่นั้น คงต้องหารือกับที่ประชุมพรรคเพื่อไทยในวันที่ 3 มี.ค.อีกครั้ง