นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ระหว่างประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้ามานั่งพูดคุยกับตนโดยได้เปรยถึงบรรดา ส.ส.ที่ยังทำตัวเป็นนกสองหัวว่า ตอนนี้ พรรคเพื่อไทยกำลังเช็คดูว่ามีใครบ้าง เพื่อขอให้รีบออกไป จะได้รู้ว่าเหลือเลือดแท้กี่คน ไม่ต้องรอให้พรรคมีมติขับไล่
อย่างไรก็ดี ตนเชื่อว่า ในการโหวจลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ คงจะเห็นภาพที่ชัดเจนว่า ใครคิดอย่างไร มีกี่คน ในการลงมติงดออกเสียง จะรู้ว่าใครจะอยู่ หรือใครจะไป ถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้
นายปัญญา กล่าวว่าปัญหาของบ้านเมืองวันนี้ รัฐบาลต้องเดินหน้าเร่งอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในมาตรการที่รัฐบาลช่วยเหลือ ซึ่งเท่าที่ลงพื้นที่ชาวบ้านต่างพอใจกับความตั้งใจทำงานของรัฐบาล จริงๆ แล้วฝ่ายค้านควรให้โอกาสรัฐบาลทำงานแก้ไขปัญหา อย่างเต็มที่ แต่เพราะกลัวว่า จะทำงานแล้วมีผลงานออกมาดีจนประชาชนพอใจ
ส่วนกรณีที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ 4 รัฐมนตรีและอาจมีรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยด้วยนั้น นายปัญญา กล่าวว่า ประเด็นที่จะอภิปราย ก็พูดเป็นข่าวหมดแล้ว ไม่ทราบจะเอาอะไรมาอภิปรายอีก ที่สำคัญรัฐบาลเพิ่งทำงานมา 2 เดือนยังไม่เห็นมีอะไรเสียหาย ส่วนตัวแล้วมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ที่จะถูกอภิปราย สามารถชี้แจงใสภาได้
นายปัญญา กล่าวว่า ที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในกลุ่มอีสานพัฒนา จะยื่นอภิปรายฯ นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รมว.มหาดไทย นั้น เป็นเพราะอดีต รมช.มหาดไทยสายอีสานพัฒนา คิดว่างบประมาณที่เคยทำหรือตั้งไว้ไม่เป็นไปตามที่วางไว้ กลัวงบที่จัดสรรไว้ไม่ได้ลงในพื้นที่ หรือกลัวจะถูกรื้อโครงการ ซึ่งอย่าไปตื่นตระหนกเพราะเชื่อว่า รมว.มหาดไทยคงทราบดีว่างบประมาณใด มีความจำเป็นต่อการแก้ไขปัญหาของประชาชนไม่ว่าภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ รวมถึงปัญหาปากท้อง จึงเป็นหน้าที่รัฐบาลเข้าไปดูแลให้ทั่วถึง
ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนจะเสนอให้ยื่นอภิปรายฯ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เพราะทราบว่า การซ่อมยานยนต์ในกองทัพของบริษัทเอกชนใช้ปลอกระสุนทองเหลืองซึ่งมีราคาสูงถึง 150 บาทต่อกิโลกรรมเป็นค่าอบแทน และไม่มีใครทราบว่าปลอกกระสุนทองเหลือง ของกรมสรรพาวุธจากทั่วประเทศมีมากแค่ไหน ราคารวมกันจะมากเท่าไหร่ อาจมีราคามากกว่า ค่าซ่อมยานยนต์ของกองทัพก็เป็นได้
นอกจากยังมีข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อรถหุ้มเกราะจากประเทศยูเครน มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นรถของสหภาพโซเวียน ที่มาดัดแปลงใหม่ ซึ่งในอนาคตจะไม่มีอะไหล่ และการซื้อยังผิดระเยียบกระทรวงกลาโหมที่ระบุว่าการจัดซื้ออุปกรณ์ ทางทหารต้องมีข้อตกลงความร่วมมือทางทหารกับประเทศนั้นๆ
