“เทพไท” เย้ยเสื้อแดงยิ่งประกาศยกระดับคนยิ่งน้อย เหตุมีปัญหา “น้ำเลี้ยงค้างท่อ” จับโกหก อ้างคนเสื้อแดงไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย แต่แถลงการณ์ยกระดับการชุมนุม กลับประเทศจะต่อสู้ทั้งในสภา-นอกสภา สะท้อนชัดมี “ทักษิณ” เป็นเจ้าของเหมือนกัน ผนึก “ดีสเตชั่น” ป่วนรัฐบาลอภิสิทธิ์
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการ “คนในข่าว” ทางเอเอสทีวี เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันที่ 26 ก.พ.ว่า ยิ่งยกระดับเป็นการขับไล่รัฐบาล คนจะยิ่งน้อยลงเพราะมีปัญหาเรื่องเงินค้างท่อ ท่อรั่ว หรือโดนอม
นอกจากนี้ การจัดการชุมนุมก็ไม่ดีเท่าพันธมิตรฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ซึ่งมีไม่เพียงพอเหมือนกับพันธมิตรฯ การจัดกรรมบนเวทีก็ไม่หลากหลายเหมือนพันธมิตรฯ มีการห้ามไม่ให้คนที่นำมวลชนมาร่วมปราศรัย เพราะกลัวคุมประเด็นไมได้ หรือกลัวไม่พูดตามที่แกนนำต้องการ
อย่างไรก็ตาม นายเทพไทยอมรับว่า เป็นห่วงเรื่องการใช้ความรุนแรงหรือการทำผิดกฎหมายมากขึ้น ทั้งนี้ เชื่อว่าอาจจะเป็นการหาทางลง แต่จะลงแบบไหน แบบรุนแรงหรือไม่ เป็นเรื่องที่ยังน่ากังวล และเมื่อสังเกตการให้สัมภาษณ์ของแกนนำบนเวทีที่เกรี้ยวกราดมาก แสดงให้เห็นว่าคงจะเสียอารมณ์ในการทำม็อบ คนพวกนี้เป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องกับตนมาก่อน เคยทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยร่วมกันมา รู้ทางหนีทีไล่กันเป็นอย่างดี เมื่อเห็นสถานการณ์อย่างนี้ ก็น่าเป็นห่วง
นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีที่การ์ด นปช.ทำร้ายทหารที่ไปสังเกตการชุมนุมของคนเสื้อแดงว่า แกนนำจะต้องรับผิดชอบ เพราะการจับคนไปซ้อมแบบนี้ไม่เคยมีที่ไหนทำมาก่อน แม้แต่ทหารที่จับเชลยศึกได้ก็ยังไม่ทำ ในการชุมนุมของพันธมิตรที่มีคนแปลกปลอมเข้าไปเมื่อจับได้ก็ไม่าเคยทำแบบนี้ มีแต่จับส่งตำรวจ
นายเทพไทกล่าวเพิ่มเติม กรณีเงินค้างท่อที่ทำให้ม็อบเสื้อแดงต้องถอยว่า ม็อบเสื้อแดงนั้น เป็นม็อบมีเจ้าของ เหมือนพนักงานคนหนึ่งที่เคลื่อนไหวในการทำม็อบ เมื่อเจ้าของม็อบส่งเงินมาให้มีการอมไว้ เกิดการรั่วไหล การทำม็อบนี้เป็นเรื่องเงินล้วนๆ ไม่เข้าใครออกใคร เมื่อเงินผ่านระดับหัวโจกก็หักเงินเอาไว้ เกิดอาชีพนายหน้าการเมืองขึ้นมา ก็เกิดสภาพเงินค้างท่อ หรือที่เรียกว่าเงินรั่วไหล
สำหรับ 4 ข้อเรียกร้องของคนเสื้อแดงนั้น นายเทพไทกล่าวว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำได้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ประกาศแล้วว่าทำไม่ได้ จะให้ปลดนายกษิต ภิรมย์ ออกจาก รมว.ต่างประเทศด้วยเหตุผลอะไร นายกษิตเป็นคนมีความรู้สามารถด้านการต่างประเทศ และมีประสบการณ์ด้านนี้ จึงเลือกมา เพราะถ้าเอาคนไม่รู้มาจะมีปัญหาในสถานการณ์อย่างทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นการที่นายกษิตได้เป็น รมว.ต่างประเทศไม่เกี่ยวกับการเป็นพันธมิตร และนายกษิตก็ไม่มีความผิดอะไรเลย ถ้าจะอ้างว่าเคยเคลื่อนไหวกับพันธมิตรต้องเอาออก ก็ไม่ชอบธรรม เพราะนายถาวร เสนเนียม ก็เคยไปในที่ชุมนุมจนถูกกระสุนยางยิงด้วยซ้ำ ทำไมไม่เรียกร้องให้ปลดออก
ส่วนการจะเอารัฐธรรมนูญ 2540 มาใช้แทน 2550 เลย ก็ทำไม่ได้ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีกระบวนการอยู่แล้ว ซึ่งนายกฯ กำลังหากลไกอยู่ ล่าสุดได้มอบหมายให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นเจ้าภาพในการปฏิรูปการเมือง โดยให้มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน
ส่วนข้อเรียกร้องให้ยุบสภา จะยุบเพื่ออะไร วันที่บ้านเมืองเจอทางตัน พวกเขาก็ยืนกระต่ายขาเดียวไม่ยุบสภา ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติด้วย แต่วันนี้บ้านเมืองกำลังไปได้ดี ความเชื่อมั่นกำลังจะกลับมา คุณก็เสี่ยงจะให้ยุบสภา เพื่อให้ตัวเองมีโอกาสกลับมาใหม่
ด้านการดำเนินคดีต่อพันธมิตรฯ นั้น ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลไปแทรกแซงไม่ได้ ไม่ว่าเสื้อแดง เสื้อเหลืองจะไปว่าเราละเลย ก็ยังไม่เห็นตรงไหนว่าเราไปจับแต่เสื้อแดง ไม่ดำเนินการกับเสื้อเหลือง วันนี้สังคมนินทาด้วยซ้ำไปว่าเราเข้มงวดกับเสื้อเหลืองมากเกินไปหรือเปล่า
นายเทพไท กล่าวถึงแถลงการณ์ของคนเสื้อแดงที่ประกาศจะต้อสู้ทั้งในสภาและนอกสภา ทั้งในเมืองและในชนบท ในประเทศและต่างประเทศ ว่า การต่อสู้ในสภานั้นจะต่อสู้อย่างไร เพราะว่า นปช.ไม่มี ส.ส.ในสภา เห็นเขาอ้างว่า นปช.กับพรรคเพื่อไทยไม่เกี่ยวกันมาตลอด และจะใช้กลไกอะไรเคลื่อนไหวในสภา แต่เมื่อเขาพูดหลุดออกมาก็เลยเป็นคำยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย กับ นปช.คือพวกเดียวกัน ตรงกับที่ตนยืนยันว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำการเมืองผ่าน 3 เวที คือ ในสภาผู้แทนราษฎร ใช้ความเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย เคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล ขัดขวาง โจมตีทุกรูปแบบ เพื่อให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ และนำไปสู่การยุบสภา 2.กลุ่มคนเสื้อแดง ที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเจ้าของ ทักษิณโฟนอินมาที่เขาใหญ่มีการขอบคุณคนเสื้อแดงที่ยืนเคียงข้าง ขอบคุณนายจตุพร นายณัฐวุฒิ นายวีระ นายอดิศร นายจาตุรนต์ และ 3.ทำการเมืองผ่านสื่อ โดยสร้างโทรทัศน์ “ดีสเตชั่น” ขึ้นมา นี่คือวิธีการที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเคลื่อนไหวกดดันล้มล้างรัฐบาลผ่านคนเหล่านี้