“ความมั่นคง” มั่นใจคุม “ม็อบเสื้อแดง” อยู่ เหตุเพราะผู้ชุมนุมมีกำลังน้อยกว่า “เจ้าหน้าที่” ชุดรักษาความปลอดภัยในทำเนียบฯ ก่อนเปรียบ “แกนนำหัวขวด” ประสบการณ์คุมมวลชนอ่อนด้อยกว่า “พันธมิตรฯ” ด้าน “กองทัพ” การันตี “ทหาร” พร้อมสนับสนุนหากสถานการณ์บานปลาย
วานนี้ (25 ก.พ.) แหล่งข่าวด้านความมั่นคง ประเมินการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง หรือ นปช.ที่ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลว่า คิดว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และคงไม่เกิดความรุนแรงบานปลาย โดยเฉพาะเหตุการณ์การปะทะกันของกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 เพราะแกนนำ นปช.ได้ประกาศแล้วว่า จะชุมนุมอย่างสงบ ไม่มีการบุกรุกเข้าไปในทำเนียบฯ แต่อย่างไร โดยขณะนี้กำลังทหาร และตำรวจที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในทำเนียบฯ มีประมาณ 15,000 นาย ถ้าเทียบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เคลื่อนไหวบริเวณข้างทำเนียบมีประมาณ 10,000 คนเท่านั้น
“วันนี้กลุ่มเสื้อแดงที่ปักหลักชุมนุมอยู่ข้างบริเวณทำเนียบฯ มีไม่ถึง 1,000 คน ส่วนที่เหลือเดินทางไปเรียกร้องให้นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ลาออกจากตำแหน่งเท่านั้น โดยเดินทางไปก็มีไม่มาก เพราะประชาชนส่วนใหญ่ที่เดินทางมาร่วมชุมนุม ได้เดินทางกลับบ้านเป็นจำนวนมาก เนื่องจากทนอากาศที่ร้อนจัดไม่ไหว” แหล่งข่าว ระบุ
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงยังเปิดเผยอีกว่า การชุมนุมของกลุ่ม นปช.กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แตกต่างกันมาก โดยเฉพาะแกนนำของกลุ่ม นปช.ที่นำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจักรภพ เพ็ญแข มีประสบการณ์น้อยในการปลุกระดมมวลชน ไม่เหมือนกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มีนายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกสัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายพิภพ ธงไชย และพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่แต่ละคนล้วนแต่ชำชองในการเคลื่อนไหว ซึ่งคาดว่ากลุ่มผู้ชุมนมอาจจะสลายตัว เพราะจุดประสงค์ของแกนนำกลุ่มเสื้อแดง เพียงต้องการลองเชิงดูเท่านั้น
พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า ไม่น่าห่วงอะไรถ้าหากเป็นไปตามแกนนำ นปช.ระบุว่า จะไม่บุกเข้าไปในทำเนียบฯ แต่เท่าที่ติดตามสถานการณ์การชุมนมที่ผ่านมา เห็นว่าแกนนำ นปช.สามารถควบคุมคนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมได้เป็นอย่างดี จึงไม่น่าจะเกิดความรุนแรงอะไร ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ได้มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ให้ติดตามสถานการณ์ และดูแลสถานที่ราชการสำคัญไม่ให้ประชาชนเข้าไปก่อความวุ่นวาย
“กำลังที่ออกไปสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะเจ้าพนักงาน มีจำนวนทั้งหมด 21 กองร้อย ตามแผนอาร์มทอง โดยดูแลรักษาความปลอดภัยในทำเนียบฯ และ กระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงสถานที่ราชการสำคัญใกล้เคียง ทั้งนี้กำลังทหารจะปฏิบัติภารกิจจนกว่าการชุมนุมจะยุติ ส่วนจะเพิ่มกำลังทหารข้าไปสนับสนุนกำลังที่ออกไปปฏิบัติภารกิจอยู่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ขอยืนยันว่า กำลังที่มีอยู่พร้อมแล้ว และเชื่อว่าสถานการณ์การชุมนุมคงจะไม่บานปลาย” พล.ท.คณิต กล่าว
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กำลังทหารที่ออกปฏิบัติหน้าที่ตามการร้องขอของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาว่าจะปฏิบัติงานเมื่อไหร่ แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานของกำลังสนับสนุนจนกว่ากลุ่มเสื้อแดงจะสลายการชุมนุม ดังนั้นทหารที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่จะยุติก็ต่อเมื่อกลุ่มเสื้อแดงยุติการชุมนุม และจากการประเมินสถานการณ์การชุมนุมดังกล่าว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรง เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมก็ปฏิบัติตามกฎกติกาของกฎหมาย โดยเฉพาะแกนนำ ที่ปฏิบัติตามคำที่ได้ประกาศเอาไว้ว่าจะชุมนมกันอย่างสงบ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ทุกฝ่ายควรเห็นแก่ประโยชน์ของชาติบ้านเมือง
“กองทัพบกไม่ได้มีการจัดตั้งวอร์รูมในการติดตามการเคลื่อนไหว เพียงแต่ติดตามสถานการณ์ตามปกติเท่านั้น ทั้งนี้จากภาพลักษณ์ของการชุมนุมหนึ่งวันที่ผ่านมา ถือว่าทางแกนนำได้ปฏิบัติตามที่ได้ชี้แจงเอาไว้ว่าการชุมนมจะยึดตามกรอบกติกาของกฎหมาย ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ไม่ได้มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ แต่เข้าใจว่าทางผู้ใหญ่ของกองทัพบก คงมีการรายงานให้กับ ผบ.ทบ.ทราบตลอดเวลาอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะเป็นห่วงอะไร” พ.อ.สรรเสริญ ระบุ