“ประพันธ์” ชี้หมายจับ 21 พันธมิตรฯ แผนตำรวจซากเดนระบอบทักษิณ ผสมโรงม็อบเสื้อแดงป่วนชาติ จวกเงื่อนไข นปช.4 ข้อไร้สาระ แค่หาเหตุชุมนุมหวังขัดขวางการประชุมอาเซียน ยันหากถูกหมายจับฟ้องกลับ ตร.แน่ เพราะไร้เหตุผล และจะไม่ลาออกด้วยข้อหาสับปะรังเคให้เป็นเครื่องเล่นของพวกเสื้อแดง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายประพันธ์ คูณมี ให้สัมภาษณ์
นายประพันธ์ คูณมี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้สัมภาษณ์กับนางสาวอัญชะลี ไพรีรัก และนางสาวกมลพร วรกุล ในรายการ “ยามเช้าริมเจ้าพระยา” ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา กรณีกระแสข่าวตำรวจเตรียมออกหมายจับพันธมิตรฯ 21 คน ที่เกี่ยวข้องกับการยึดทำเนียบรัฐบาล และสนามบินสุวรรณภูมิว่า การออกหมายจับดังกล่าวเป็นวิธีการของตำรวจซากเดนระบอบทักษิณ ที่ออกมาสอดรับกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อผสมผสานให้ข้อเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ให้ดำเนินคดีต่อพันธมิตรฯ มีความสมเหตุสมผลมากขึ้น ซึ่งถ้าหากตำรวจไม่ดำเนินการกับพันธมิตรฯ ก็จะนำไปกล่าวหาว่ารัฐบาลปล่อยให้พันธมิตรฯ อยู่เหนือกฎหมาย ทั้งที่ความจริงแล้วกลุ่มคนเสื้อแดงต่างหากที่อยู่เหนือกฎหมาย เพราะคดีความต่างๆ ของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ทำลายทรัพย์สินเอกชนและราชการเสียหายยังไม่มีความคืบหน้า
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ข้อเรียกร้องทั้ง 4 ข้อ ของกลุ่มคนเสื้อแดงล้วนเป็นข้อเรียกร้องที่ไร้สาระ ไม่มีเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นข้อเรียกร้องที่ให้ปลดนายกษิต ภิรมย์ ออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพราะนายกษิตไม่ได้ทำผิดอะไร และถ้าจะเทียบกับกรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ทำไมไม่ลาออก และถ้าหากปลดนายกษิตแล้วกลุ่มคนเสื้อแดงก็คงไม่หยุด ถ้าหากรัฐบาลยอมทำตามก็คงเรียกร้องให้ปลดคนอื่นๆ ต่อไปอีก ส่วนข้อเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ นั้น ตำรวจก็ดำเนินคดีอยู่แล้ว ตอนนี้ควรจะต้องเรียกร้องให้ดำเนินคดีคนเสื้อแดง และเรียกร้องให้นำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมารับโทษ ส่วนที่ให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2550 และให้ยุบสภานั้น ตอนที่คนของพวกเสื้อแดงเป็นรัฐบาลทำไมไม่ทำ
ดังนั้น ทั้ง 4 ข้อ เป็นข้อเรียกร้องที่หาเรื่องสร้างความปั่นป่วนให้บ้านเมืองเพื่อขัดขวางไม่ให้รัฐบาลจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนได้สำเร็จ เพราะถ้าจัดการประชุมครั้งนี้สำเร็จลงอย่างราบรื่น รัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจะอยู่ยาวอย่างแน่นอน
กรณีที่ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลให้ตำรวจดำเนินคดีต่อพันธมิตรฯ เท่ากับว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังจะถีบหัวเพื่อนหลังจากที่พาส่งถึงฝั่งแล้วนั้น นายประพันธ์ กล่าวว่า เป็นวิธีการที่จะเสี้ยมพันธมิตรฯ ให้ขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคนอย่างนายนายณัฐวุฒิที่เป็นเด็กเมื่อวานซืนก็คิดได้ตื้นๆ แค่นี้ ไม่สามารถคิดอะไรที่ลึกซึ้งกว่านี้ได้
นายประพันธ์กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าเขาเป็น 1 ใน 21 คนที่จะถูกออกหมายจับว่า มีเหตุผลอะไรในการออกหมายจับ ถ้าตั้งข้อหาว่า มีส่วนร่วมในการชุมนุมที่สนามบินก็ต้องออกหมายจับคนอีกเป็นล้านคน นอกจากนี้การออกหมายจับโดยที่ไม่มีหมายเรียกก่อน ก็ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นการจงใจที่จะประจานให้ได้รับความอับอาย เพราะไม่มีเหตุผลที่จะต้องออกหมายจับ เพราะตนไม่ได้คิดจะหลบหนี หรือจะไปทำลายหลักฐาน หรือใช้อิทธิพลให้มีผลกระทบต่อการดำเนินคดี
นอกจากนี้ แต่ละคนที่มีชื่อว่าจะออกหมายจับไม่ว่าจะเป็นตนเอง นายพิเชฐ พัฒนโชติ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข หรือนายกษิต ภิรมย์ ล้วนแต่มีที่อยู่และที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง เพียงแค่ออกหมายเรียก หรือโทรศัพท์เชิญไปให้ปากคำ ก็ไปแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่จะออกหมายจับ ดังนั้น ถ้ามีการออกหมายจับ ก็จะฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อย่างแน่นอน
นายประพันธ์ ยืนยันว่า หากมีการออกหมายจับ ตนจะยื่นคัดค้าน และจะไม่ลาออกด้วยข้อหาสับปะรังเคแบบนี้ เพราะจะไม่ยอมเป็นของเล่นให้ใคร และเรื่องอะไรจะต้องมาเป็นเครื่องมือให้กับคนอย่างนายณัฐวุฒิ หรือคนไม่มีอนาคตอย่างนายวีระ มุสิกพงศ์ ซึ่งคนพวกนี้แต่ละคนล้วนมีคดีติดตัว ขอเรียกร้องให้รัฐบาลรีบจัดการกับคนพวกนี้ด้วย
นายประพันธ์ เปิดเผยเพิ่มเติมในรายการ “สภาท่าพระอาทิตย์” ทางเอเอสทีวี ในช่วงเช้าวันเดียวกันว่า กรณีที่ตนบอกว่า จะไม่ลาออก หากโดนหมายจับนั้น ไม่ได้หมายความว่าตนดื้อรื้น หรือไม่มีสปิริตทางการเมือง เหมือนที่นายกษิตบอกว่าถ้าถูกออกหมายจับก็จะลาออก แต่เป็นเพราะเห็นว่ากระบวนการออกหมายจับไม่ถูกต้อง เพราะการออกหมายจับนั้น จะต้องผ่านขั้นตอนการออกหมายเรียก และต้องปรากฏหลักฐานว่าบุคคลนั้นทำผิดทางอาญาและจะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น หรือเป็นบุคคลที่ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เพราะฉะนั้นหลายๆ คน ที่เป็นแกนนำที่คาดว่าจะถูกออกหมายจับ มีเหตุอันควรที่พนักงานสอบสวนจะออกหมายจับหรือไม่ เพราะแม่แต่หมายเรียกก็ยังไมเคยเห็น
นอกจากนี้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 36 ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาให้ถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ เพียงแต่ถูกกล่าวหาเท่านั้น เพราะฉะนั้นก็ยังไม่ต้องแสดง และถ้าจะให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ต้องเป็นกรณีการถูกยื่นถอดถอน โดยให้ ป.ป.ช.ชี้มูล ตามมาตรา 272 ก่อน
“ถ้าพวกเสื้อแดงจะมาเรียกร้องให้ผม หรือท่านทูตกษิตแสดงความรับผิดชอบ ก็อย่าไปหน้าบางกับคนพวกนี้ ก่อนอื่นต้องเรียกร้องให้คน 3 คนลาออกก่อนคือ 1.พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนฯ 2.นายมานิต จิตจันทร์กลับ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่มาเสนอหน้าเรียนกร้อให้ปลดท่านกษิต ทั้งที่ท่านกษิตแค่ขึ้นเวทียังไม่ถูกตั้งข้อหา แต่ 3 คนนั้น บุกบ้าน พล.อ.เปรม ถูกตั้งข้อกล่าวหา ถูกจับขังคุก และกำลังส่งฟ้อง ข้อหาไปถึงขั้นนั้นแล้ว ขอให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วย ต้องลาออก อย่าไปนั่งเป็นเสนียดในสภา ถ้าอยากแสดงสิปริต”
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ถ้าจะเอาบรรทัดฐานเรื่องไปร่วมชุมนุมแล้วต้องออกหมายจับกันหมด ทำไมคดีบุกบ้าน พล.อ.เปรม จึงจับแค่แกนนำ แล้วคนที่ไปร่วมชุมนุมและทุบตีชาวบ้าน ทำไมไม่ถูกจับ ต้องจับให้หมดถ้าจะใช้บรรทัดฐานแบบที่เขาเรียกร้องต่อรัฐบาล เพราะฉะนั้นในเวลานี้เราจึงไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เพราะเราเป็นเพียงแค่ผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้น ต่างจากพวกเขาที่เป็นผู้ต้องหาและตกเป็นจำเลยแล้ว ยิ่งต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่าเรา ทำไมยังไม่แสดงสปิริตเลย
“เพราฉะนั้นที่คุณเรียกร้องให้ปลดคุณกษิต และนายประพันธ์ ที่ขึ้นเวที แล้วพวกคุณล่ะ คุณไม่เรียกร้องให้ดำเนินคดีพวกคุณหรือ เหตุผลมันก็จะหักล้างได้อย่างนี้ อย่างหมดจด แล้วเขาจะเถียงไม่ขึ้น เพราะฉะนั้นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ก็เห็นชัด ไม่ว่าให้ปลดท่านกษิต ให้เอารัฐธรรมนูญ 40 มาใช้ ทั้งที่รัฐธรรมนูญ 50 มาจากรัฐธรรมนูญ 40 ถึง 99 %
“ยิ่งยุบสภาไม่ต้องพูดถึง เลอะเทอะ สมัยที่พวกเขาเป็นรัฐบาล ทำไมไม่ยุบ และขณะนี้รัฐสภาก็ยังไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะไปยุบ ส่วนที่จะเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ วันนี้ต้องให้ดำเนินคดีกับพวกเขา ไม่ใช่พันธมิตร เพราะพันธมิตรถูกดำเนินคดีตามกระบวนการหมดแล้ว เหลือแต่คนเสื้อแดงที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี ถูกปล่อยให้ลอยนวลอยู่ แล้วเหตุการณ์ที่หน้ารัฐสภา จับแค่คนเดียว ทำไมไม่จับอีกหลายคน ทั้งที่ภาพก็มี”
อย่างไรก็ตาม นายประพันธ์ กล่าวว่า ถ้ามีการออกหมายมาจริงๆ ตนก็เคารพ ไม่มีปัญหา แต่ต้องมีการปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกัน ด้วยว่าถ้าไปร่วมชุมนุมต้องถูกจับ แล้วที่กำลังจะบุกทำเนียบขณะนี้ต้องจับด้วย