xs
xsm
sm
md
lg

เผย กกต.เคยยกคำร้อง “พปช.” ถ่ายคู่ทักษิณ-วอน “เพื่อแม้ว” เล่นการเมืองให้พอดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพปกซีดีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ถ่ายภาพคู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ซึ่งนายสุรพงษ์ใช้แจกหาเสียงในการเลือกตั้ง 23 ธ.ค.2550
อดีตผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ สวนกลับ “เพื่อแม้ว” ยันคำวินิจฉัย กกต.ให้ “เนวิน” พ้นผิด กรณีกอด “มาร์ค” เป็นบรรทัดฐานที่เคยใช้มาแล้ว เพราะเคยยกคำร้อง “ดร.ปึ้ง” แจกซีดีมีรูปถ่ายคู่ “ทักษิณ”หาเสียง ส่วนกรณี “ประแสง” ถูกดำเนินคดีเพราะทำให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมและดูหมิ่น กกต. จวก “สุรพงษ์” ควรมีจิตสำนึกเล่นการเมืองแต่พอดี

นายจักรวาล วรรณาวงค์ นักวิชาการประจำคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดเชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 1 เปิดเผยว่า หลังจากนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต.เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมืองโดยได้กอดคอกันและตกลงกันร่วมจัดรัฐบาลกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี เรียกร้องถึงขั้นให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ และต่อมาเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ประชุม กกต.มีมติด้วยเสียงข้างมาก เห็นว่าการที่นายเนวินพบปะกับนายอภิสิทธิ์ไม่ขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะนายเนวินแค่โดนเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไม่ได้ถูกห้ามให้พบปะกับใครนั้น น่าจะเป็นการวินิจฉัยที่เป็นบรรทัดฐานเดียวกับการที่ตนเองเคยยื่นคำร้องคัดค้านการประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 1 เมื่อครั้งการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 มาแล้ว

นายจักรวาล กล่าวต่อว่า คู่แข่งขันของตนในขณะนั้นคือ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชาชนไปแจกจ่ายวีซีดีแก่ประชาชนในเขตเลือกตั้งโดยมีรูปภาพของนายสุรพงษ์ กอดคอถ่ายรูปคู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจากกรณีการยุบพรรคเช่นเดียวกัน และเนื้อหาภายในวีซีดีก็มีการพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ หาเสียงให้เลือกผู้สมัครพรรคพลังประชาชนอีกด้วย ซึ่งต่อมา กกต.ก็ได้ยุติเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ติดใจในการทำหน้าที่ของ กกต.และเข้าใจในการตีความบทบัญญัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัดของ กกต.อย่างดีและมั่นใจว่าจะเป็นบรรทัดฐานในการวินิจฉัยข้อร้องเรียนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ที่มีความยุติธรรมและไม่มีการเลือกปฏิบัติ ดังนั้น ตนเองจึงไม่แปลกใจกับผลการลงมติของ กกต.กรณีนายเนวินกับนายอภิสิทธิ์แต่อย่างใด

นอกจากนี้ กรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยเปิดแถลงข่าวกล่าวหาว่า กกต.มี 2 มาตรฐาน โดยเปรียบเทียบกับกรณีของนายประแสง มงคลศิริ นั้นก็ปรากฏชัดเจนว่าเป็นคนละเรื่องกัน เพราะ กกต.มีมติให้แจ้งความดำเนินคดีอาญาต่อนายประแสง มงคลศิริ อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุทัยธานี พรรคพลังประชาชน ที่มีความผิดตามมาตรา 53 (1) และการไปรณรงค์หาเสียงที่ จ.สุพรรณบุรี โดยที่รถหาเสียงไม่ได้มีการระบุว่าตนเองเป็นผู้สมัคร จ.อุทัยธานี ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน จ.สุพรรณบุรีเข้าใจผิดในคะแนนนิยมเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 53 (5) รวมทั้งจากการที่มีการบันทึกภาพถ่ายการมาปราศรัยหาเสียงของนายประแสงที่บริเวณหน้าสำนักงาน กกต.และที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พบว่ามีเนื้อหาที่ดูหมิ่น กกต. จึงให้แจ้งความดำเนินคดีอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136 ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน โดยความผิดในคดีเลือกตั้งนั้นมีบทลงโทษกำหนดไว้ในมาตรา 137 ว่าให้มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่นถึง 2 แสน และอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี

นายจักรวาลกล่าวต่อว่า การที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ยังคงติดใจว่า กกต.มีการเลือกปฏิบัติและจะไปยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อ ก็เป็นสิทธิของนายสุรพงษ์ แต่ตนเองอยากจะขอเรียกร้องถึงจิตสำนึกในการเล่นการเมืองอย่างพอดีในเรื่องที่ควรจะยุติลงด้วยความเหมาะสม เพราะมีบรรทัดฐานอยู่แล้วในกรณีดังกล่าวซึ่งนายสุรพงษ์เองก็เคยได้รับประโยชน์จากการยุติเรื่องในครั้งนั้นด้วย แต่ในครั้งนี้กลับจะมีการต่อความยาวสาวความยืดไม่มีที่สิ้นสุดจึงขอเรียกร้องผ่านสื่อมวลชนมา ณ โอกาสนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น