xs
xsm
sm
md
lg

“เรืองไกร” ชี้หากศาลชี้สรรหา ส.ว.มิชอบทำให้กรณี “สมัคร” โมฆะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ
“เรืองไกร” ส่งหนังสือถึงประธานวุฒิฯ ให้ระงับการจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนที่เหลือทั้งหมด ระบุหากผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมชี้ว่าการสรรหามิชอบจะทำให้ผลการปฏิบัติหน้าที่ผ่านมาเป็นโมฆะ รวมทั้งกรณียื่นให้ “สมัคร” พ้นจากเก้าอี้นายกฯ กรณี “ชิมไปบ่นไป” หรือไม่

วันนี้ (21 ก.พ.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ระงับการจ่ายเงินประจำตำแหน่ง เดือนละ 62,000 บาท และเงินเพิ่มเดือนละ 42,330 บาทให้กับตัวเองหลังจากต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยในหนังสือระบุว่า เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากในการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และเกิดความยุ่งยากสับสนกับตัวข้าพเจ้า นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา ที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่อันเนื่องมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้งได้วินิจฉัยว่า องค์กรที่ส่งข้าพเจ้ารับสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภาแบบสรรหานั้น ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยให้เหตุผลว่าองค์กรนิติบุคคลอาคารชุดไม่ใช่หน่วยงานที่ดำเนินกิจการเพื่อสังคม หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันจะยังประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของวุฒิสภาแต่อย่างใด จึงมิใช่องค์กรที่มีสิทธิเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเรื่องอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล

นายเรืองไกร กล่าวว่า หากภายหลังผลปรากฏว่าศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้เพิกถอนการสรรหาการเป็นสมาชิกของตนเมื่อใดแล้ว จึงจะเป็นเหตุทำให้สมาชิกภาพการเป็นสมาชิกวุฒิสภา ต้องสิ้นสุดลงนับแต่วันที่ศาลฎีกามีคำสั่งดังกล่าว และให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาใหม่แทน ในกรณีนี้ตนจะต้องคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนในส่วนนี้ รวมทั้งเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมา เนื่องจากการดำรงตำแหน่งดังกล่าว โดยนับแต่วันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศผลการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมาจนถึงวันที่พ้นจากตำแหน่งทั้งหมดให้กับทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาด้วย ทั้งนี้ ตามนัยมาตรา 92 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

“หากศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้มีการเพิกถอนการสรรหาผมแล้ว จึงจะมีผลทำให้สมาชิกภาพของผมต้องสิ้นสุดลงและให้ดำเนินการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาใหม่ และหากเป็นกรณีที่ได้ออกจากตำแหน่ง เพราะเหตุที่ผมได้รับการสรรหามาโดยไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 ด้วยแล้ว ผมจะต้องคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาด้วย พร้อมให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะต้องดำเนินการฟ้องคดีทางแพ่งเพื่อเรียกเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นทั้งหมดคืนต่อไป” นายเรืองไกร กล่าว

นายเรืองไกร กล่าวว่า หากจะต้องถูกดำเนินการฟ้องคดีทางแพ่งเพื่อเรียกเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นทั้งหมดคืนต่อไป ถ้าถูกวินิจฉัยว่ากระบวนการสรรหาข้าพเจ้านั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาว่าองค์กรไม่มีสิทธิที่จะเสนอชื่อตนเข้ารับการสรรหา ทั้งที่ผู้พิจารณาให้องค์กรมีสิทธิเสนอผู้รับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภาได้นั้นคือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่อยู่ในการกำกับดูแลโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง

จึงเรียนมายังประธานวุฒิสภาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการโดยด่วนที่สุดในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ 1.ขอให้ระงับการจ่ายเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 62,000 บาท และเงินเพิ่มเดือนละ 42,330 บาท รวมเงินได้ก่อนหักภาษี 104,330 บาทต่อเดือนของข้าพเจ้าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2552 เป็นต้นไป 2.ขอให้คำนวณผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่ข้าพเจ้าได้รับมาตั้งแต่วันที่มีสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกวุฒิสภาจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2552 ว่ามีจำนวนเงินก่อนหักภาษีเท่าใด เงินภาษีที่ถูกหักไปแล้วมีจำนวนเท่าใด เป็นเงินได้สุทธิที่อาจจะต้องคืนเป็นเท่าใด สำหรับเงินภาษีที่ถูกหักไปแล้วเห็นว่าวุฒิสภาควรเรียกคืนจากกรมสรรพากร

3.ผลประโยชน์อื่นที่ได้รับเนื่องจากการเป็นสมาชิกวุฒิสภา เช่น ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ ขอให้คำนวณค่าเบี้ยประกันเฉพาะในส่วนของข้าพเจ้าเพื่อจะได้คืนให้ราชการต่อไป 4.ผลประโยชน์ที่ได้รับจากงบประมาณศึกษาดูงานต่างประเทศประมาณ 140,000 บาทเศษ ที่ได้ไปที่ประเทศสเปนและโปรตุเกสเมื่อปี 2551 (สำหรับงบประมาณต่อรายอีกจำนวนเท่ากันมิได้ใช้เนื่องจากไม่ได้ร่วมเดินทางไปดูงานด้วย) ขอให้พิจารณาว่าจะต้องคืนเงินเป็นจำนวนเท่าใด

5.ประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่จะต้องคืน หมายความถึงอะไรบ้าง ทั้งส่วนที่เป็นรูปตัวเงินและส่วนที่มิได้เป็นรูปตัวเงินใช่หรือไม่ เช่น ค่าอาหารและเครื่องดื่มในขณะที่ประชุมวุฒิสภา ค่าเดินทางโดยเครื่องบินในประเทศ เป็นต้น 6.สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะดำเนินการอายัดเงินในบัญชีที่ธนาคารกรุงไทยสาขาย่อยรัฐสภาเพื่อเป็นหลักประกันในกรณีจะต้องดำเนินการฟ้องคดีทางแพ่งเพื่อเรียกเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นทั้งหมดคืนหรือไม่ ทั้งนี้ ได้เตรียมเงินในบัญชีดังกล่าวไว้คืนให้ทุกบาททุกสตางค์แล้ว

7.ขอให้คำนวณเบี้ยประชุมกรรมาธิการทั้งหมดตั้งแต่วันปฏิบัติหน้าที่จนถึงวันหยุดปฏิบัติหน้าที่ว่ามีจำนวนเท่าใดที่สมควรจะต้องคืนให้ราชการ 8.ขอให้หารือกรมสรรพากรด้วยว่าในกรณีที่ข้าพเจ้าได้นำเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มที่รับมาของปี 2551 ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2551 ที่ต้องยื่นภายในวันที่ 31 มีนาคม 2552 นั้น ถ้าต่อมาข้าพเจ้าถูกให้พ้นจากตำแหน่งโดยผลจากคำสั่งศาลฎีกาแล้ว กรมสรรพากรจะคืนเงินภาษีในส่วนที่เสียไปหรือไม่

และ 9.ถ้ามีการเรียกคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นทั้งหมดคืน ผลของการปฏิบัติหน้าที่ในสถานภาพของสมาชิกวุฒิสภาของข้าพเจ้าที่ผ่านมาจะถือเป็นโมฆะหรือไม่ เช่น ในการเข้าชื่อร้องในกรณีของเขาพระวิหาร ในกรณีของรัฐมนตรีที่ถือหุ้นเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือในกรณีการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภาในการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญและทำหน้าที่หลักของฝ่ายผู้ร้องในศาลรัฐธรรมนูญว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช ต้องสิ้นสุดลงจากการไปเป็นพิธีกรในรายการ “ชิมไปบ่นไป” หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น