โฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แฉ “เจ้ามูลแม้ว” กบดานอยู่ฮ่องกง ชักใย ส.ส.เพื่อไทย-ม็อบเสื้อแดงป่วนประเทศ เร่งโหมช่วงประชุมสุดยอดอาเซียน จี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่านิ่งเฉย เร่งประสานอัยการสูงสุด-บัวแก้ว ลากคอกลับมาดำเนินคดีโดยเร็ว ชี้ทำได้เพราะเป็นดินแดนของจีนที่มีสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน
วันนี้ (20 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เกาะฮ่องกง ประเทศจีนว่า ประเทศจีนมีกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพราะฉะนั้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องเริ่มต้นประสานไปยังอัยการสูงสุดและกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประสานขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมายังประเทศไทยตามกระบวนการทางกฎหมาย ดังนั้น กรณีที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอให้รัฐบาลเจรจากับรัฐบาลจีนในการควบคุมตัว พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นต้องเป็นกระบวนการหรือแนวทางที่ต้องประสานงานกันระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการสูงสุด และกระทรวงการต่างประเทศ โดยต้องเริ่มที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วส่งไปยังอัยการสูงสุดและกระทรวงการต่างประเทศ แต่จนถึงขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่มีกระบวนการที่จะดำเนินการเพื่อเอาตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทย ทั้งที่จีนเป็น 1 ใน 14 ประเทศมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย
นายเทพไทยังได้เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยุติการอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของ ส.ส.กลุ่มต่างๆ และขอให้กลุ่มเสื้อแดงเว้นวรรคความเคลื่อนไหวระยะหนึ่งและใช้ดุลพินิจ เพราะหากเคลื่อนไหวในช่วงนี้จะสร้างความเสียหายต่อประเทศ โดยเฉพาะการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่สื่อต่างชาติจะเดินทางมาประเทศไทยจำนวนมาก จึงอาจมีการรายงานความเคลื่อนไหวไปทั่วโลก ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติอย่างแน่นอน
“ผมเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ฮ่องกงจริง เพราะเป็นสถานที่ที่สามารถสื่อสารไปมาหาสู่กับสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้สะดวก เนื่องจากอยู่ใกล้ประเทศไทย การไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถที่จะเคลื่อนไหวไปชอปปิ้ง อาหารการกินบริบูรณ์จึงน่าจะเป็นที่ชื่นชอบของบรรดา ส.ส.” นายเทพไท กล่าว
โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทยระบุว่าแกนนำพรรค ปชป. อยากจับมือพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล ได้สอบถามแกนนำพรรคทุกคน ตั้งแต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคฯ ก็ไม่ปรากฏว่ามีใครไปร่วมรับประทานอาหารตามที่ ร.ต.ท.เชาวรินกล่าวอ้าง แม้แต่สมาชิกพรรคที่เป็น ส.ส.ก็ไม่มีใครพบเช่นกัน จึงเป็นการกุข่าวของ ร.ต.ท.เชาวรินให้เกิดความแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อว่าเป็นขบวนการที่ถนัด ตั้งแต่เป็นคนสร้างตำนานขุดทองถ้ำลิเจียหลอกลวงคนทั้งประเทศจนไม่มีใครเชื่อ มีแต่ พ.ต.ท.ทักษิณหลงเชื่อคนเดียว ที่จะเอาดาวเทียมไปหาทองให้ ตนคิดว่านี่ก็เป็นละครบทหนึ่งที่ต้องการหลอก พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่สังคมไม่มีใครเชื่อ
“เรายังมีความสุขสนิทสนมกลมเกลียวกับพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีความแตกแยก ดังนั้นการที่ ร.ต.ท.เชาวริน พยายามสร้างข่าวเพื่อให้เกิดความหวาดระแวงในพรรคร่วมรัฐบาลเป็นแค่ฝันกลางวันของคนสติเฟื่องบางคน และจะตรวจสอบว่าคนเหล่านี้เป็นคนที่มาจากกลุ่มคนแซ่บ่าง(ช่างยุ) หรือแซ่เสี้ยมหรือเปล่า” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไทกล่าวยืนยันว่า พรรคไม่มีความกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ และยังไม่มีการตั้งทีมเพื่อตอบโต้พรรคฝ่ายค้านเพราะประเด็นฝ่ายค้านยังไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่ารัฐมนตรีของพรรคสามารถแก้ต่างให้ตัวเองได้อยู่แล้ว แต่ถ้ามีการพาดพิงถึงบุคคลอื่นที่ไม่อยู่ในสภา ก็อาจจะใช้สิทธิ์ในการฟ้องร้องเพราะถือเป็นผู้เสียหายและไม่มีสิทธิ์ชี้แจง ดังนั้นฝ่ายค้านต้องระมัดระวังในการอภิปรายใส่ร้ายบุคคลนอกสภาด้วย
“เราไม่เคยเกรงกลัวใครในสภา การที่ฝ่ายค้านจะนำเรื่องสถานะทางสังคมมาอภิปรายโดยเชื่อมโยงว่ามีการปกปิดทรัพย์สินนั้น ความจริงแม้จะไม่มีการแสดงสถานะแต่กระบวนการของ ป.ป.ช. หรือ ปปง. ก็สามารถเข้าไปดูแลได้อยู่แล้วหากมีการถ่ายเททรัพย์สินจริง การเป็นคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล หากมีการอภิปรายกรณีนี้จริงรัฐมนตรีของพรรคสามารถชี้แจงได้ โดยพรรคจะไม่มีการแฉข้อมูลฝ่ายค้านกลับ แต่จะใช้สิทธิ์พาดพิงเท่านั้น ส่วนจะทำให้ประชาชนเกิดความเสื่อมศรัทธาต่อรัฐบาลหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของประชาชน แต่ทางที่ดีฝ่ายค้านควรทำพรรคให้เป็นเอกภาพหาตัวผู้อภิปรายให้ครบห้าประเด็นก่อนแล้วค่อยมาบอกว่าจะน็อครัฐบาล ซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็นข้อมูลฝ่ายค้าน ถ้าจะเปรียบก็เหมือนกับกำลังรำมวยแบบเก้งก้างสะเปะสะปะและขาดทิศทาง” นายเทพไท กล่าว