“สุเทพ” ยืนยันกลางสภา เล็งขึ้นเงินเดือน-ค่าตอบแทน 50% ให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน หมอประจำตำบล ในงบประมาณ ปี 53 พร้อมดันแก้ไขกฎหมายคงตำแหน่งให้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐทำหน้าที่ช่วยเหลือนายอำเภอ เพื่อเป็นกลไกสร้างเสริมประชาธิปไตย
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา ส.ส.จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้กระทู้ถามสด เรื่องการปรับเพิ่มอัตราเงินค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ให้แก่กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนันและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ว่า กำนันผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีภารกิจมาก ดูแลประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง แต่ค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์มีน้อยมาก รัฐบาลที่ผ่านมามองข้าม รัฐบาลปัจจุบันมีนโยบายปรับเพิ่มค่าตอบแทนอย่างไรให้สอดคล้องภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน นอกจากนี้ เมื่อมีการยกฐานะเทศบาลมากขึ้น กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จะหายไปหรือไม่
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ชี้แจงว่า รัฐบาลตระหนักถึงชีวิตความเป็นอยู่ ตนเคยเป็นกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน มาก่อน ทราบดีถึงภาระหน้าที่ว่า หนักและต้องทำเต็มเวลาทุกวันและเป็นตัวขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลทุกรัฐบาล ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2549 มีการปรับค่าตอบแทน กำนันเป็น 5 พันบาท ผู้ใหญ่บ้าน 4 พันบาท แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนันผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 2,500 บาทต่อเดือน เท่ากับว่า น้อยกว่าอัตราค่าแรงขั้นต่ำ และไปประกอบอาชีพอื่นเต็มเวลาไม่ได้ ยิ่งภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน อัตราค่าตอบแทนจึงไม่สอดคล้อง และต้องเสียค่าใช้จ่ายเองในการทำงานบางอย่าง กระทรวงมหาดไทย ได้รับรู้ความเดือดร้อนนี้ และเสนออัตราใหม่ให้ ครม.พิจารณา โดยขอให้พิจารณาขึ้นค่าตอบแทน 100 เปอร์เซ็นต์ ครม.ก็จะนำเข้าพิจารณาเร็วๆนี้
“ทั้งนี้ เรื่องนี้รัฐมนตรีทั้งหลายก็เห็นสอดคล้องกัน เพียงแต่รอหนังสือทางการจากกระทรวงมหาดไทย อย่างไรก็ดี กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน มีเกือบ 3 แสนคน จึงเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างมาก โดยอัตราปัจจุบันต้องจ่าย 859 ล้าน ต่อเดือน หรือปีละ 1.3 หมื่นล้าน ถ้าอัตราใหม่ก็จะตก 2.6 หมื่นล้าน แต่รัฐบาลตั้งใจแน่ว่า จะขึ้นเงินเดือนให้ โดยปีงบประมาณหน้าอาจจะขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ก่อน แล้วค่อยดูปีงบประมาณต่อไปว่ามีขีดความสามารถจะขึ้นให้อีกอย่างไร” รองนายกฯ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ร่าง พ.ร.บ.ลักษณะการปกครองท้องที่ และ ร่าง พ.ร.บ.เทศบาล ที่กระทรวงมหาดไทย จะเสนอแก้ มีประเด็นให้ดำรงกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ไว้ เพื่อเป็นกลไกเสริมสร้างประชาธิปไตย บำบัดทุกข์บำรุงสุข ซึ่ง ครม.และสภาคงต้องมาช่วยกันคิด แต่ส่วนตัวอยากให้คงไว้ เพราะถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้ช่วยนายอำเภอ ดูแลความเดือดร้อนของประชาชนทั่วประเทศ
