“สดศรี” กัดไม่ปล่อย ยันสอบเส้นทางการเงินบริจาคย้อนหลังได้ อ้างไม่มั่นใจข้อมูลบริษัทตรวจสอบบัญชีที่ในอดีต กกต.ให้ช่วยตรวจสอบเงินพรรคการเมือง หลังยังไม่มี สตง.-ปปง.เผย ปชป.เคยใช้เงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง 25 ล้าน จ้างแมสไซอะทำโฆษณา
วันนี้ (13 ม.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงเงินบริจาค 250 ล้านบาท ให้พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2548 ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบเงินดังกล่าว ว่า ถึงแม้ขณะนี้ พ.ร.บ.พรรคการเมืองปี 41 จะไม่ได้นำมาบังคับใช้แล้ว แต่กรณีเงินบริจาค 250 ล้านบาท หากตรวจสอบพบว่า มีการรับบริจาคและไม่แจ้งให้ถูกต้อง โดยหากมีผู้ร้องมา กกต.สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ โดยไม่เจาะจง ว่า เป็นพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เพราะขณะที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.พรรคการเมืองปี 41 ยังไม่มี สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสรรพากร และกรมบัญชีกลาง เข้ามาช่วย กกต.ตรวจสอบ แต่มีการว่าจ้างบริษัทตรวจสอบบัญชี จึงไม่แน่ใจว่า การตรวจสอบจะถูกต้องหรือไม่ อีกทั้ง พ.ร.บ.พรรคการเมือง ปี 50 ก็มีเนื้อหาใกล้เคียงกับ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ปี 41 ซึ่งตามมาตรา 6 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมืองปี 50 ได้ให้อำนาจนายทะเบียนพรรคการเมืองเข้าไปควบคุมตรวจสอบการดำเนินกิจการของพรรคให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ดังนั้น หากพบว่า การกระทำที่ผ่านมาไม่ถูก เราก็สามารถตรวจสอบได้
“เรื่องที่ผ่านไปแล้วไม่ใช่ผ่านไปเลย โดยไม่ต้องมีการตรวจสอบ อีกทั้งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่กฎหมายตรวจสอบย้อนหลังได้หรือไม่ได้ แต่หากตรวจสอบพบว่า มีการแจ้งรายงานงบการเงินประจำปีเป็นเท็จ และมีผู้ร้องมา ก็ไม่ได้มีการตัดอำนาจนายทะเบียนที่จะเข้าไปตรวจสอบแต่อย่างใด” นางสดศรี กล่าว
นางสดศรี กล่าวต่อว่า หนังสือของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ขอให้ กกต.ตรวจสอบเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์นั้น มีการขอให้ตรวจสอบว่า เงินดังกล่าวมีการใช้ในการโฆษณาหาเสียงจริง หรือมีการนำไปแจกจ่าย ส.ส.ใช้ในการอื่นหรือไม่ โดยมีการระบุชื่อ บริษัท แมสไซอะ ซึ่งจากที่ได้รับรายงานทราบว่า ในปี 2548 พรรคประชาธิปัตย์ได้นำเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองที่ได้รับ 25 ล้านบาท ไปว่าจ้างบริษัท แมสไซอะ ในการประชาสัมพันธ์ โดยมีการนำหลักฐานมาชี้แจงต่อ กกต.อย่างชัดเจน ซึ่งก็ได้รายงานให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทราบแล้ว ส่วนในข้อมูลที่ว่ามีการนำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้ในการอื่นหรือไม่ เราไม่มีข้อมูล
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพบว่า มีการให้เงินกับ ส.ส.เพื่อใช้ในการเลือกตั้งจะเข้าข่าย ว่า พรรคประชาธิปัตย์กระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ขึ้นกับดุลพินิจของศาล ว่า เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ และมาตรา 94 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่เป็นเหตุให้ต้องพิจารณายุบพรรคหรือไม่