“เรืองไกร” แฉ “สุเทพ” แจงบัญชีทรัพย์สินไม่ครบ อ้างแอบซุกมูลค่าฟาร์มหอยไว้ไม่ชี้แจง จี้ “มาร์ค” จัดการ ยกกฎเหล็ก 9 ข้อคุม ขณะที่ “สุเทพ” ปัดแจงครบถ้วน หยันเรื่องตลก
ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขอให้ตรวจสอบเรื่องที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2551 ทั้งนี้ ในการเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.ของนายสุเทพ เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2550 ได้แจ้งว่ามีรายได้จากฟาร์มหอยนางรม 4 แสนบาทโดยประมาณ ทำให้เข้าใจได้ว่านายสุเทพมีรายได้จากฟาร์มหอยนางรมในปี 2551 ประมาณ 4 แสนบาท แต่จากการตรวจสอบรายการทรัพย์สินที่แจ้งไว้ทั้ง 2 ครั้ง ไม่พบว่ามีการแสดงมูลค่าของหอยที่เลี้ยงไว้ในฟาร์มที่จะต้องถือว่าเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่งอันก่อให้เกิดรายได้ตามที่นายสุเทพได้ประมาณไว้ ดังนั้น จึงสมควรต้องแจ้งมูลค่าหอยไว้ในมูลค่าทรัพย์สินตามแบบฟอร์มที่ ป.ป.ช.กำหนด ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎเหล็กทั้ง 9 ข้อที่นายกรัฐมนตรีได้กำหนดไว้ จึงแจ้งมาเพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ และกำกับดูแลรัฐมนตรีในคณะของท่านคือนายสุเทพ ให้ปฏิบัติให้ถูกต้องต่อไป
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่ครบว่า ยื่นไปหมดแล้ว ไม่มีปัญหา เมื่อถามย้ำว่าเป็นมูลค่าทรัพย์สินของหอยนางรม นายสุเทพ กล่าวว่า “วู้ ตลกแล้ว”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย และอดีตประธานเครือบริษัท ทีพีไอ ระบุว่าได้บริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์จำนวน 250 ล้านบาทเพื่อเป็นค่าโฆษณา เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เคยพูดเรื่องนี้มาเป็นปีแล้ว เป็นเรื่องเก่าไม่อยากพูด
เมื่อถามว่าถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นกฎหมายปรองดองแห่งชาติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการนิรโทษกรรมกับ ส.ส.ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องเก่า ตนตอบไปแล้ว และไม่คิดว่าจะมีปัญหา
