“อภิสิทธิ์” ยันดำเนินการกับ “ใจ” ตามกฎหมาย หลังหมิ่นสถาบัน พร้อมการันตีกระบวนการยุติธรรมไทยให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคน เผยคำแถลงการณ์ “แดงสยาม” ระดมคนเคลื่อนไหวลามทางเน็ต ย้ำต้องใช้วิจารณญาณ ชี้ไม่อยากให้ปานปลาย เชื่อคุมอยู่
นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายใจ อึ๊งภากรณ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินทางไปประเทศอังกฤษ หลังถูกกล่าวหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน ของอังกฤษ โดยระบุว่าไม่มั่นใจที่จะได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมของไทยว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งได้ย้ำไว้ก็คือว่าต้องบังคับใช้กฎหมาย โดยไม่ให้เกิดปัญหาว่ามีการกลั่นแกล้งหรือมีการละเว้น กรณีของนายใจก็ใช้แนวทางนี้และอยากจะให้ความมั่นใจเช่นเดียวกันว่ากระบวนการยุติธรรมต้องให้ความเป็นธรรมทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการวางเกมอย่างไร เพื่อให้มีเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างเสรีภาพทางวิชาการกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีความซับซ้อนมาก อาจจะไม่ถึงกับง่าย แต่คิดว่าดูจากเจตนาและดูจากพฤติกรรม ยกตัวอย่างเช่นการจะเขียนบทความทางวิชาการ วิเคราะห์ในเชิงโครงสร้างทางการเมืองในเชิงสถาบันเป็นความเห็นทางวิชาการก็คงทำได้ แต่ว่าการไประบุในข้อเท็จจริงซึ่งก็คลาดเคลื่อนแล้วก็สร้างความเสียหายกับสถาบันอย่างนี้ไม่ได้จะต้องพิจารณาไปว่า ข้อเขียนนี้เป็นลักษณะไหน
ต่อข้อถามว่าเนื้อหาของแถลงการณ์แดงสยามมีการปลุกคนเสื้อแดงขึ้นมา นาย อภิสิทธิ์ กล่าวว่า เพิ่งเป็นการกระทำใหม่ ส่วนที่พูดถึงคดีเข้าใจว่าเป็นเรื่องของข้อความบทความหรือหนังสือที่เขียนไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อถามว่าแถลงการณ์ตัวใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อสังคมไทยหรือไม่เพราะมีการปลุกคนเสื้อแดงให้มาร่วมขบวนการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่ามีการส่งต่อกันอยู่ในทางอินเตอร์เน็ตเป็นหลักและก็คนที่อ่านก็ต้องรู้และต้องใช้วิจารณญาณเอาเองว่าเป็นอย่างไรส่วนที่มีการกระทำที่ผิดกฎหมายทางเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการไป
เมื่อถามว่ากระทรวงไอซีทีต้องมีความเข้มงวดมากกว่านี้หรือไม่ เพราะแถลงการณ์ที่ออกมาสัปดาห์กว่าๆ แล้วค่อยมีการดำเนินการณ์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เข้าใจว่ามันเป็นข้อความที่ส่งต่อๆ กันมากกว่า ส่วนจะดูแลอย่างไรนั้นถ้าผิดกฎหมายก็ให้ดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ ที่ประเด็นนี้จะทำให้คนเสื้อแดงยิ่งรวมกลุ่มกันขึ้นมา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราอยู่บนความพอดีและได้ให้นโยบายไปแล้วว่าให้รักษากฎหมาย อย่าไปทำให้เกิดสถานการณ์ที่ทำให้ปัญหาลุกลามบานปลาย เพราะฉะนั้นก็ต้องดูตรงนี้ และก็ยังติงอยู่เลยว่าบางทีเราไปพูดถึงว่ามีการปิดเว็บไซต์เป็นหลายพันเว็บไซด์ ทำให้ดูน่ากลัวมาก ข้อเท็จจริงไม่ใช่ 4,000 เว็บไซต์อยู่แล้ว มัน 4,000 ยูอาร์แอล เว็บไซต์เดียวกันแต่ว่านับซ้ำเข้าไป 20-30 หน แต่เวลาตัวเลขออกมา ก็ตกใจกันแม้กระทั้งเมื่อวานนี้สื่อต่างประเทศมาสัมภาษณ์ตน บอกตนว่าปิดไปตั้ง 4,000 เว็บไซต์ ตนก็ได้ชี้แจงไป