“ปู่ชัย” ดักคอ ส.ส.อย่านับองค์ประชุมพร่ำเพรื่อ

ปธ.สภาฯ กำชับวิปรัฐ-ฝ่ายค้าน เคร่งครัดตามเงื่อนไขการอภิปรายงบรายจ่ายทั้ง 3 ข้อ ลั่นเพราะเป็นมติร่วมกันไม่มีใครบังคับ เตือนห้าม ส.ส.นับองค์ประชุมพร่ำเพรื่อ ขู่ พ.ร.บ.งบเสร็จไม่ทันต้องร่วมกันรับผิดชอบ

วันนี้ (12 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ทำข้อตกลงร่วมกัน 3 ข้อประกอบด้วย 1.การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2552 ในวันแรกจะปิดการประชุมในเวลา 03.00 น.ของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2.การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 20.00 น.ของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 3.ห้าม ส.ส.เสนอขอนับองค์ประชุมอย่างพร่ำเพรื่อว่า หากการประชุมวันนี้ยังมีการนับองค์ประชุมพร่ำเพรื่ออีกตนถือว่าทั้ง 2 ฝ่ายต้องร่วมรับผิดชอบ เพราะเป็นการตกลงร่วมกัน ซึ่งตนไม่ได้บังคับให้ตกลงร่วมแต่เป็นการลงชื่อยินยอมของทั้ง 2 ฝ่ายเอง อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยของฝ่ายรัฐบาลเขาก็พร้อมให้นับองค์ประชุม ทั้งนี้การที่ทำเงื่อนไขว่าต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 20.00 น.ของวันนี้ ตนเห็นว่าเวลาก็ต้องมีคลาดเคลื่อนกันบ้างเอาอะไรแน่นอนไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อตกลงกันของวิปทั้ง 2 ฝ่าย ประธานสภาได้เป็นผู้บังคับให้ทำหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ตนไม่ได้บังคับ แต่เป็นการบอกให้วิปทั้ง 2 ไปตกลงกัน อีกทั้งการเสนอให้นับองค์ประชุมนั้น ไม่มีในข้อบังคับ มีเพียงการเสนอปิดประชุม ซึ่งเมื่อฝ่ายหนึ่งเสนอให้ปิด และมีผู้รับรองอย่างถูกต้อง ในฐานะประธานต้องทำตามจะให้ตัดสินว่ารัฐบาลทำถูก ฝ่ายค้านทำผิดไม่ได้

สำหรับการพิจารณา พ.ร.บ.เพิ่มเติมงบประมาณปี 2552 จะใช้เวลานานหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณมีถึง 23 มาตราก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป หากพิจารณาไม่เสร็จในวันนี้ ก็สามารถเลื่อนออกไปได้ ซึ่งก็ไม่เห็นจะเป็นปัญหาอะไรเพราะเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องของภาษีพวกเรา ดังนั้นต้องมีความรอบคอบในการพิจารณา ส่วนสาเหตุในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาที่การอภิปรายเป็นไปอย่างช้านั้น เป็นเพราะตนให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของ ส.ส.ทุกคนโดยเปิดโอกาสให้อภิปรายนาน แค่มาตราเดียวก็ใช้เวลาไปถึง 7.30 ชม. ซึ่งไม่เคยมีในประวัติศาสตร์

ส่วนกรณี ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ร้องเรียนว่ามีการกดบัตรแทนนายชยุต ภุมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคกิจสังคม ทั้งที่ตัวไม่อยู่ในที่ประชุม นายชัย กล่าวว่า ตนได้สอบถามในเบื้องต้นจากนายชยุตแล้ว เจ้าตัวยืนยันว่าปวดท้องหนักต้องเข้าห้องน้ำจึงให้เพื่อนกดแทน ซึ่งเครื่องกดบัตรไม่ได้ผิดพลาดและไม่ต้องมีการกำหนดกติกา เพราะมีอยู่ในระเบียบแล้ว

เมื่อถามว่า เหตุใดยังมีการออกมาโวยวาย นายชัยกล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อไม่ได้อยู่พรรคเดียวกันเหมือนในอดีต ก็ต้องมีการจับผิดกัน ส่วนความคืบหน้ากรณีนายตุ่น จินตะเวช ส.ส.อุบลราชธานี พรรคชาติไทยพัฒนาที่ถูกร้องเรียนเรื่องเดียวกัน ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเพราะนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้ทำเรื่องร้องเรียน เพราะตามระเบียบนายประชา ต้องร้องเรียนก่อนที่จะดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม ตนต้องขอชมว่าฝ่ายค้านทำงานดีขึ้น

ส่วนหากขอได้ตอนนี้ อยากขออะไรจาก ส.ส. นายชัย กล่าวว่า ตนไม่จำเป็นต้องขอ เพราะตนเป็นคนกลาง ขนาดวางตัวเป็นกลางขนาดนี้เขายังไม่ยอมรับเลย ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อย่างไรก็ตาม ในความเห็นของตนอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลรวมเป็นพรรคเดียวกันทั้งหมด เพื่อชาติเพื่อบ้านเมืองมาร่วมกันแก้ปัญหา พราะปัญหาเกิดขึ้นจากทั้ง 2 ฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นายชัยเดินทางมาถึงรัฐสภา นายชัยได้แสดงเอกสารข้อตกลงร่วมทั้ง 2 ฝ่ายต่อผู้สื่อข่าวทันที พร้อมกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “มีหลักฐาน”