กกต.เตรียมประกาศรับรอง 7 ว่าที่ ส.ส.วันนี้ แนะเพื่อไทยต้องเร่งเฟ้นตัวหัวหน้าพรรค เพื่อเป็นผู้นำฝ่ายค้านก่อนยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดักคอ “ส.ส.เพื่อไทย” ไม่ต้องกลัวการเป็น กก.บห.พรรค หากไม่ทำผิดกฎหมาย
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านกิจการบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า วันนี้จะครบกำหนด 30 วัน นับตั้งแต่วันเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยยังมีอีก 7 ว่าที่ ส.ส. ซึ่ง กกต.ยังไม่ประกาศรับรอง โดยในวันนี้ กกต.จะประชุมเพื่อประกาศรับรองว่าที่ ส.ส.ทั้งหมด เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับผู้ที่ยังคงมีเรื่องร้องเรียนอยู่ แต่ กกต.พิจารณาไม่เรียบร้อยนั้นก็อาจมีความจำเป็นที่ต้องประกาศรับรองไปก่อน แต่หากพบว่ามีความผิดจริงก็จะส่งเรื่องให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณาและสั่งให้เลือกตั้งใหม่หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ส.ส.ที่ยังคงค้างการรับรอง ประกอบด้วย 1.จ.นครพนม เขต 1 นายสุริยา พรหมดี พรรคเพื่อไทย 2.จ.มหาสารคาม เขต 1 นายขจิต ชัยนิคม พรรคเพื่อไทย 3.จ.ร้อยเอ็ด เขต 2 นายปิยะรัช หมื่นแสน พรรคเพื่อไทย 4.จ.ลำปาง เขต 1 นายสมโภช สายเทพ พรรคเพื่อไทย 5.จ.ลำพูน เขต 1 นายขยัน วิพรหมชัย พรรคประชาธิปัตย์ 6.จ.สมุทรปราการ เขต 1 น.ส.สรชา วีรชาติวัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ และ 7.จ.อุบลราชธานี เขต 2.นายอุดร ทองประเสริฐ พรรคเพื่อแผ่นดิน
นายประพันธ์กล่าวถึงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านว่า ตนคิดว่าจำเป็นต้องมี เนื่องจากผู้นำฝ่ายค้านถือเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี เพราะหากอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีก็ต้องเสนอชื่อผู้ที่สมควรเป็นนายกฯ ซึ่งก็คือผู้นำฝ่ายค้าน ทั้งนี้ ผู้นำฝ่ายค้านก็ต้องมาจากหัวหน้าพรรคการเมือง โดยเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหา เนื่องจากตอนนี้เหลือเพียงขั้นตอนของพรรคเพื่อไทยที่จะเรียกประชุมวิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคเท่านั้น หลังจากนั้นก็ค่อยเสนอให้ กกต.พิจารณา อย่างไรก็ตาม กกต.คงไม่จำเป็นต้องเร่งพิจารณา หากพรรคเพื่อไทยเสนอการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากสมัยประชุมสภายังมีอีกเป็นเดือน เชื่อว่าทันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีผู้ไม่อยากรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากเกรงปัญหาด้านกฎหมายที่จะตามมา นายประพันธ์กล่าวว่า ไม่ต้องกลัวว่าหากเป็นกรรมการบริหารพรรคแล้วจะมีปัญหาทางกฎหมาย เพราะถ้าไม่ทำผิดกฎหมาย อาทิ กฎหมายเลือกตั้งก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องกลัวเรื่องนี้
นายประพันธ์ กล่าวชี้แจงถึงข่าวที่ระบุว่า กกต.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ โดยไม่ได้เรียกมาชี้แจงข้อกล่าวหาว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เราต้องแจ้งข้อกล่าวหาอยู่แล้ว ฝ่ายสืบสวนสอบสวนเขารู้ระเบียบดีเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่แจ้งข้อกล่าวหา แต่เมื่อ กกต.มาพิจารณาดูอาจจะเห็นว่ายังไม่ครบถ้วนหรือไม่ชัดเจน จึงให้ไปแจ้งให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน โดยไม่มีเจตนาที่จะไปช่วยเหลือหรือกลั่นแกล้งใคร
นายประพันธ์กล่าวถึงกรณีที่นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วมจะพ้นจากตำแหน่งในเดือน มี.ค.นี้ว่า กกต.ที่เหลืออีก 4 คน สามารถทำงานต่อได้หรือแม้แต่ในระหว่างนั้น หากมี กกต.ลาออกอีก 1 คน กฎหมายใหม่ก็ระบุว่า กกต.เพียง 3 คนก็ทำงานต่อไปได้