“สนธิ” ปราศรัยงานครบรอบ 3 ปี พันธมิตรฯ ย้ำการต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด ยังให้กำลังใจ “มาร์ค” แต่ขอส่งสัญญาณถึง ปชป.บางคนที่กำลังทรยศพรรค ลั่นหากหมดความอดทน เป่านกหวีดทันที เผยเตรียมจัดงานใหญ่พันธมิตรฯ ปีละ 4 ครั้ง 9 ก.พ., 25 พ.ค., 7 ต.ค. และ 3 ธ.ค. ประกาศภายใน พ.ค.นี้เปิดเวทีสัญจรที่เชียงราย ก่อนบุกเชียงใหม่ปลายปี
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยบนเวทีย่อยหน้าบ้านเจ้าพระยา สำนักงานเอเอสทีวี เนื่องในงานครบรอบ 3 ปีการก่อตั้งพันธมิตรฯ โดยได้ย้อนความเป็นมาของการก่อตั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 9 ก.พ.2549 ว่า เริ่มมาจากเดือนกันยายน 2548 ที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สั่งยุบรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่ตนเป็นผู้ดำเนินรายการ่วมกับนางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ ทางช่อง 9 อสมท. โดยอ้างสาเหตุที่ปลดเพราะตนพูดเรื่องการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรี ทำพิธีในวัดพระแก้ว โดยนายธงทอง จันทรางศุ ออกมาแถลงข่าวทำให้ตนเสียหาย จึงได้ตัดสินใจว่าคงจะหยุดอยู่แค่นั้นไม่ได้ จึงออกมาจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร เริ่มครั้งแรกที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นายสนธิ กล่าวต่อว่า วันแรกที่จัดที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรายังไม่รู้ว่าแฟนรายการของเราจะรู้สึกอย่างไร ก็กลัวว่าห้องประชุมที่จะได้ 700 คน แต่ปรากฏว่ามีคนไปถึง 2 พันกว่าคนจนล้นห้องประชุมออกมา สัปดาห์ต่อมาเราจึงไปจัดที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งจุได้ 3 พันคน ซึ่งก็มีคนไปจำนวนมากล้นออกมา ในขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณมองว่าประชาชนคงไม่ให้ความสนใจ โดยหารู้ไม่ว่านั่นคือการเอาความจริงออกมาบอกประชาชน ซึ่งสื่อมวลชนยุคนั้นยังไม่กล้า และก็ยังไม่กล้ามาจนถึงวันนี้
หลังจากนั้น ความเกรงใจมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่อาจจะถูกกลั่นแกล้ง จึงย้ายไปที่สวนลุมพินี ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นและเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่ในอันตราย จึงเป็นที่มาของการทำเสื้อ “เราจะสู้เพื่อในหลวง” และความจริงก็ปรากฏขึ้นทีละน้อยๆ จนวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนอย่างนายใจ อึ๊งภากรณ์ ไปขึ้นเวทีคนเสื้อแดง คนอย่างนายจักรภพ เพ็ญแข คนอย่าง ดา ตอร์ปิโด พูดจาจาบจ้วง ตลอดจนคนเสื้อแดงในภาคเหนือบางกลุ่มที่ต้องการจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์อย่างแน่ชัด
เราชุมนุมที่สวนลุมพินี ผ่านความเป็นความตายมา ระหว่างจัดงานก็มีพวกป่าไม้ที่อยู่ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่นายยุงยุทธ ติยะไพรัช เป็นรัฐมนตรี พากันขนคนมาจะปะทะ มีการจุดประทัดยักษ์ โยนระเบิดก่อกวน หลังจากนั้นตนเห็นว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วจึงตัดสินใจที่จะแสดงพลังให้เห็น เป็นที่มาของการชุมนุมใหญ่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า (วันที่ 4 ก.พ.49) ซึ่งตอนแรกก็นึกไม่ถึงว่าผู้คนจะมากันเป็นจำนวนมาก และอยู่กันทั้งคืนจนกระทั่งเช้า เป็นจุดเริ่มต้นของการแสดงพลังของประชาชนที่มีจิตวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะมาทำงานเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายสนธิกล่าว
“หลังจากนั้น ผมเห็นว่าการต่อสู้ครั้งนั้นไม่ใช่ของผมคนเดียว เป็นการต่อสู้ของคนทั้งชาติ เป็นที่มาของการเชิญชวนผู้นำมวลชนหลายๆ ฝ่ายเข้ามา นั่นคือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ที่พิภพ พี่สมศักดิ์ พล.ต.จำลอง อาจารย์สมเกียรติ ล้วนเป็นตัวแทนของกลุ่มมวลชนทั้งหลายที่ขึ้นมา
ผมจำได้ว่า ผมกลับจากการแสดงตัวในภาคใต้ มีคนพาผมไปพบพี่ลอง (พล.ต.จำลอง ศรีเมือง) ที่บ้านลับแห่งหนึ่ง พี่ลองบอกว่าผมขอเข้าร่วมขบวนการด้วย เพราะผมรู้สึกผิดที่ผมเป็นคนสร้างทักษิณขึ้นมา ผมต้องเป็นคนที่เข้ามาแก้ไขปัญหานี้ พี่ลองบอกสนธินำไปเลย ผมบอก พี่ลองงานนี้ไม่มีใครนำใคร มีแต่ประชาชนนำพวกเรา เราต้องเป็นผู้รับใช้ของประชาชน”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า กาต่อสู้ในอดีตนั้นผู้นำมวลชนจะใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ แต่การต่อสู้ของพันธมิตรฯ นั้น ประชาชนจะใช้แกนนำเป็นเครื่องมือ ตอนแรกเมื่อเรามี 5 คน เราอยู่ด้วยความหวาดระแวง เพราะยังไม่รู้จักซึ่งกันและกัน เช่น นายพิภพก็กลัวว่า พล.ต.จำลองจะเคลื่อนมวลชนจนเกิดความรุนแรง เมื่อแกนนำแต่ละคนขึ้นเวทีก็จะมีกลุ่มคนของตัวเองล้อมรอบแต่ละคน มีการกั๊กกันไปมาเหมือนเล่นเผ จนกระทั่งการต่อสู้พัฒนาไปเรื่อยๆ และนับเป็นบุญกุศลของบ้านเมือง เมื่อนายสมศักดิ์ได้เป็นตัวแทนสมาพันธ์ประชาธิปไตย มาร่วมเป็นแกนนำ เพราะถ้าสมาพันธ์ฯ ให้ นพ.เหวง โตจิราการ มาเป็น คงฉิบหายแน่ๆ เพราะเคยด่า พ.ต.ท.ทักษิณมีหลักฐานให้เห็นชัดเจน แต่แล้วกลับไปชื่นชม พ.ต.ท.ทักษิณเหมือนเป็นพ่อ
นายสนธิ กล่าวต่อว่า เวทีการต่อสู้พัฒนามาจนเกิดเหตุการณ์ 19 ก.ย.2549 ความไม่ไว้วางใจระหว่างแกนนำหมดไปทีละนิดๆ จนหมด หลังการยึดอำนาจ 19 ก.ย. แกนนำได้พบกัน และมีคำพูดระหว่างกันที่ซาบซึ้งกินใจอย่างมาก ต่างคนต่างขอโทษที่เคยไม่ไว้ใจกัน และหลังจากนั้นแต่ละคนก็เชื่อใจกัน 100% ไม่มีอะไรสงสัยอีก และคนที่รักสินติที่สุดกลายเป็น พล.ต.จำลอง ส่วนคนที่บู๊กลายเป็นนายสมศักดิ์ และนายสมเกียรติ
นายสนธิ กล่าวอีกว่า อย่าว่าแต่คน 8 คนที่ตายไประหว่างการชุมนุมเลย แค่คนเดียวหัวร้างข้างแตกพวกเราก็ช้ำใจมากแล้ว เพราะเรายึดหลักอหิงสามาตลอด ส่วนพี่น้องที่เสียชีวิตไปก็เพราะสัตว์นรกที่ฆ่าพวกเขา ด้วยเหตุนี้จึงหล่อหลอมให้พี่น้องเข้มแข็ง ไม่กลัวอะไรอีกทั้งสิ้น เพราะเรารู้ว่าเราใช้ธรรมนำหน้า ให้รู้ว่าเราไม่กลัวสัตว์นรก เพราะถ้าเรากลัวพวกมันจะยึดครองประเทศไทย พระเจ้าอยู่หัวจะลำบาก พวกเราพร้อมตายเพื่อพระเจ้าอยู่หัว เราจึงไม่กลัวแม้แต่นิดเดียว
“การต่อสู้วันนี้ยังไม่สิ้นสุด ในขณะนี้เราได้แต่ให้กำลังใจนายกฯ อภิสิทธิ์ แต่เราไม่รู้ว่าคุณอภิสิทธิ์จะทนได้นานแค่ไหน แค่ไหนก็แค่นั้น พี่น้องย่อมรู้ว่าเมื่อชาติต้องการ นกหวีดถูกเป่า จะออกมาหรือไม่ออก (ออก) สู้ไม่สู้ (สู้ๆ) นี่คือสัญญาณที่พวกเราต้องส่งให้พวกสัตว์นรกนั้นรู้ นี่คือสัญญาณที่เราต้องส่งให้พรรคประชาธิปัตย์บางคนที่กำลังทรยศต่ออุดมการณ์ของพรรคเขา ให้รู้ว่าจริงๆ แล้ว คุณไม่มีมวลชนหรอก มวลชนอยู่กับความถูกต้อง ใครเอาความถูกต้อง เอาธรรมนำหน้า กล้าตัดสินใจยืนอยู่บนความถูกต้อง พวกเราจะอยู่กับเขา”
นายสนธิ กล่าวว่า วันนี้พวกเรามากันที่นี่ เพราะรู้ว่ามีงานครบรอบ 3 ปี และมากันมาก ซึ่งในแต่ละปีเราจะมีงานใหญ่ นอกจากวันนี้แล้ว งานต่อไปคือวันที่ 25 พ.ค. ครบวันที่ประชาชนยาตราออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นจุดเริ่มต้นของการชุมนุม 193 วัน วันต่อไปคือ 7 ตุลาคม เป็นวันที่พวกเราจะไม่มีวันลืมเลือนการตายของพี่น้องเรา และจะไม่มีวันลืมถึงความบัดซบของพวกสัตว์นรกทั้งหลาย ไม่ต้องเอ่ยชื่อก็รู้ว่าใครบ้าง ไม่ว่าตำรวจ นักการเมือง ขอให้บอกไปถึงลูกถึงหลาน เอ่ยชื่อมันไปเรื่อยๆ ให้รู้ว่ามันชื่ออะไร โคตรเหง้ามันชื่ออะไร และวันสุดท้ายที่เราต้องฉลองคือวันที่ 3 ธ.ค. ปีหนึ่งเราจะมี 4 วัน ที่เราจะไม่มีวันลืมเลือน โดยเฉพาะวันที่ 9 ก.พ. และวันที่ 7 ต.ค. ส่วนวันที่ 25 พ.ค.อาจลืมได้ ถ้าต้องมีการชุมนุมใหม่ และวันที่ 7 ต.ค.ที่จะถึงนี้ เราต้องจัดงานรำลึกวีรบุรุษวีรสตรีของพวกเราให้ยิ่งใหญ่ที่สุด ให้สังคมไทยได้รับรู้กันให้หมด
นายสนธิกล่าวถึงการจัดกิจกรรมของพันธมิตรฯ ในจังหวัดต่างๆ ว่า นอกจากวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งจะจัดที่อุดรธานีแล้ว ขอรับประกันว่าไม่เกินเดือนพฤษภาคม เราจะบุกไปจัดที่เชียงราย และปลายปีนี้ เราจะขึ้นเชียงใหม่ และขอถือโอกาสนี้ขอบคุณพี่น้องพันธมิตรฯ ที่สหรัฐฯ ที่ประชุมเมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมา แล้วให้คำมั่นว่าจะร่วมกับพันธมิตรฯ ที่ไปปรากฏตัวที่ลอสแองเจลิส ร่วมกันจัดงานให้ยิ่งใหญ่ สมกับเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ชมแกนนำฯ ปราศรัยงานครบรอบ 3 ปีพันธมิตรฯ
สนธิ ลิ้มทองกุล(56K) |(256K)
พิภพ ธงไชย(56K) |(256K)
สมศักดิ์ โกศัยสุข(56K) |(256K)
สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์(56K) |(256K)
แกนนำพันธมิตรฯ รุ่นที่ 2 ปราศรัย
สาวิทย์ แก้วหวาน(56K) |(256K)
สำราญ รอดเพชร(56K) |(256K)
ศิริชัย ไม้งาม(56K) |(256K)
มาลีรัตน์ แก้วก่า(56K) |(256K)
ศรัณยู วงศ์กระจ่าง(56K) |(256K)
เพลง“เทียนแห่งธรรม”-พันธมิตรฯ สระบุรีมอบเงินรายได้จากงาน ให้ ASTV(56K) |(256K)
ดนตรี “ซูซู-เศก ศักดิ์สิทธิ์-ตั้ว ศรัณยู”(56K) |(256K)