“สาทิตย์” ดักคอเสื้อแดง “บุกทำเนียบเป็นกบฏ”- เตือนอย่าทำเพื่อสนองคนบางคน

“สาทิตย์” ดักคอ “ม็อบเสื้อแดง” เคยว่าคนอื่นบุกรุกทำเนียบเป็นกบฏ คงไม่ทำตาม กระตุกสำนึกให้คิดถึงบ้านเมือง อย่าทำเพียงเพื่อสนองคนบางคนจนสร้างความเสียหาย เตรียมฟัน 6 วิทยุชุมชน หลังมีหลักฐานชัดใช้ข้อมูลเท็จยุยงปลุกปั่น เชื่อ “ไข่แม้ว” เดินเกมก่อความรุนแรง นปช.ก่อม็อบ-ส.ส.ป่วนสภา-สื่อเทียมปลุกระดม

วันนี้ (30 ม.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในนามของแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) หรือ คนเสื้อแดง จะชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ว่า เป็นเรื่องของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ทำเนียบรัฐบาล เลขาธิการนายกฯ ต้องเตรียมการ รองรับสถานการณ์ แต่คงมีการเตรียมการไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางรัฐบาลมีแผนการรองรับอย่างไร นายสาทิตย์ กล่าวว่า ทางฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายตำรวจ คงมีแผนในการดูแล แต่ฝ่ายเสื้อแดง ได้ประกาศว่า จะเคลื่อนไหวโดยไม่ทำอะไรผิดกฎหมาย ถ้าเป็นเช่นนั้น คงไม่มีอะไร แต่ถ้าบุกเข้ามาในทำเนียบก็มีความผิด ฐานบุกรุกสถานที่ราชการ ความจริงแล้ว แกนนำเสื้อแดง ก็เคยกล่าวหาคนอื่นที่บุกรุกสถานที่ราชการว่าเป็นกบฏ คงรู้ว่าแนวคิดที่เคยกล่าวหาคนอื่นไว้อย่างไร คงไม่ทำอย่างนั้น

เมื่อถามว่า ถ้าเกิดมีการบุกเข้ามาในทำเนียบ จะมีการสลายการชุมนุมหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่คงมีแผนอยู่แล้วว่าจะดำเนินการอย่างไร และรัฐบาลไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมแต่เจ้าหน้าที่คงต้องรักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม แกนนำเสื้อแดงต้องพิจารณาว่า สิ่งใดที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองหรือว่าเป็นเพียงตอบสนองความต้องการของคนบางคนโดยไม่คำนึงถึงความเสียหาย บ้านเมือง

เมื่อถามว่า อาจจะมีการถ่ายทอดสดทาง ดีสเตชั่น หรือประชาสัมพันธ์ทางวิทยุ จะมีการดำเนินการหรือไม่นายสาทิตย์ กล่าวว่า การเสนอข่าวเป็นเรื่องปกติของสื่อและสื่อต้องทำอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นไปในลักษณะที่มีการปลุกระดม เพราะจากข้อมูลความมั่นคง มีวิทยุชุมชนหลายแห่งกำลังปลุกระดมและใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จในการสร้างความเข้าใจผิด และปลุกระดมประชาชน ซึ่งในเรื่องนี้ทางฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามอยู่ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเหตุการณ์วันที่ 31 ม.ค.ซึ่งหลายฝ่ายกังวลใจ เพราะบ้านเมืองกำลังเดินได้ไปด้วยดี อย่าไปทำอะไรที่กระทบ กับความสงบเรียบร้อย

“เรื่องของวิทยุชุมชนที่ดำเนินการไม่ถูกต้อง ในสัปดาห์นี้ ผมได้เชิญอนุกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ไว้แล้ว ซึ่งเมื่อวานก็มีข้อมูลที่ปลุกระดมส่งมา ผมฟังเอง เป็นของจังหวัดอุดร ส่วนในระแวกกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก็กำลังมีคนติดตมอยู่อย่างใกล้ชิด” นายสาทิตย์ กล่าวว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีการถ่ายทอดสดตลอด 24 ชั่วโมงจะมีการดำเนินอย่างไร นายสาทิตย์ กล่าวว่า ถ้าดำเนินการโดยไม่มีอะไรผิดกฎหมายก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าผิดกฎหมาย ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายรักษากฎหมายต้องไปดำเนินการ และเท่าที่ฟังดู นายอดิศร เพียงเกษ แถลงข่าว ก็ได้พูดว่า ประสงค์จะทำหน้าที่สื่อตามปกติ ตนก็อยากให้เป็นเช่นนั้น ไม่อยากให้มีอะไรแอบแฝงในลักษณะที่ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองซึ่งดีอยู่แล้ว รัฐบาลเองผ่านกรอบอาเซียนที่จะประชุมปลายเดือนหน้าแล้ว ผ่านงบประมาณรายจ่ายกลางปี เงินกำลังจะออกไปสู่ มือชาวบ้าน ไม่ควรที่จะทำให้เกิดความเสียหาย

เมื่อถามว่า จะดำเนินการวิทยุชุมชนที่ฝ่าฝืนเลยหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า จะนำข้อมูลมอบให้อนุกรรมการที่มีอำนาจทางกฎหมาย ซึ่งมีตำรวจอยู่ด้วย มีหน้าที่รักษากฎหมายโดยตรง คงรับเรื่องไปพิจารณา ซึ่งพยานหลักฐาน มีเทปบันทึกไว้อย่างชัดเจน และข้อความก็ชัดเจน เข้าข่ายที่กฎหมายจะดำเนินการได้ และเท่าที่ดูตอนนี้มี 6 สถานี ส่วนในรอบกรุงเทพ ก็มี 3-4 สถานี ที่ต้องดำเนินการ เพราะใช้สิทธิ์เกินเลยกว่ารัฐธรรมนูญกำหนด ว่าเป็นวิทยุชุมนุม ต้องเพื่อประโยชน์ชุมชนแต่กลับมาทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศ

เมื่อถามว่า เนื้อหาเป็นการปลุกระดม หรือเป็นการพาดพิงสถาบัน นายสาทิตย์ กล่าวว่า เท่าที่มีข้อมูลเป็นเรื่องปลุกระดม ข้อมูลเท็จ และการหมิ่นประมาท ส่วนหมิ่นสถาบันทางฝ่ายที่ดูแลมีข้อมูลอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะมีการตั้งวอร์รูม ติดตามสถานการณ์หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นตั้งวอร์รูม เพราะฝ่ายความมั่นคง โดยมี รองสุเทพ ดูแล และมีการติดตามอย่างใกล้ชิดตลอด เพราะเราได้ประเมินสถานการณ์อยู่ ว่า มีคนกลุ่มหนึ่งไม่ประสงค์ให้เกิดความเรียบร้อยในบ้านเมือง ที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามขอร้องอะไรที่มันเกินเลยกว่าขอบเขตกฎหมายก็ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด

เมื่อถามว่า เมื่อต้องมีการตัดสินใจฉุกเฉินขึ้นอยู่กับรองนายกฯ ใช่หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจโดยฝ่ายที่มีหน้าที่รักษากฎหมาย ใครรักษาตรงไหนอย่างไรก็ดำเนินการไปตาม รองฯ สุเทพ เป็นคนคุมนโยบาย ทั้งนี้ การรักษาความปลอดภัยในทำเนียบมีการรักษาการตามปกติ ถ้ามีการรุกล้ำ คงมีแผนดำเนินการ ทุกอย่างดำเนินไป เพื่อให้เหตุการณ์บ้านเมืองสงบเรียบร้อย และสามารถแก้ไขปัญหาประชาชนได้

“ผมมองว่า การชุมนุมต้องการให้เกิดความรุนแรง เพราะเกมทุกอย่างเดินไป ไม่ว่าเป็น ดีทีวี วิทยุชุมชน มีหน้าที่ สร้างข่าว ในสภามีการป่วนการประชุม ทางกลุ่มเสื้อแดง มีการชุมนุมเป็นระลอก แต่ทุกอย่างจะไม่สำเร็จ ถ้าประชาชนอยากเห็นความสงบมากกว่าความวุ่นวาย และคงไม่มีการนองเลือดเพราะรัฐบาล จะไม่มีการทำอะไรรุนแรงอย่างที่รัฐบาลในอดีตเคยทำ” นายสาทิตย์ กล่าว

ขรก.หวั่นประวัติศาสต์ซ้ำรอย ขนของจ้าละหวั่น เตรียมทำงานข้างนอก

เมื่อเวลา 16.30 น.วันเดียวกัน ข้าราชการที่ทำงานภายในทำเนียบรัฐบาล ต่างเริ่มถยอยเก็บของเครื่องใช้ส่วนตัวและอุปกรณ์สำนักงานที่เป็นทรัพย์สินของทางราชการ เนื่องจากมีกระแสข่าวที่จะมีการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลของกลุ่ม นปช. ในวันพรุ่งนี้

ข้าราชทำเนียบรายหนึ่งเปิดเผยว่า ตนได้เก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวต่าง ออกไปหมดแล้ว และอุปกรณ์บางส่วน คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรือพัสดุต่างๆ แม้ว่าจะเป็นของทางราชการแต่ก็จะนำกลับบ้านเพื่อรักษาด้วย และเป็นการเตรียมพร้อมไปในตัวหากมีเหตุการณ์ยึดทำเนียบเกิดขึ้นอีกครั้ง ก็สามารถที่จะทำงานที่อื่นได้ต่อ

“พันธมิตรฯ ยึดทำเนียบครั้งที่แล้ว พวกเราก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาช่วยเหลือจากทรัพย์ที่สูญหายไป ซึ่งก็ยังรู้สึกน้อยใจอยู่ อยากฝากว่าไม่ว่าจะทะเลาะกันขนาดไหน ที่สุดแล้วข้าราชการในทำเนียบก็ได้รับความเดือดร้อนอยู่ดี เพราะไม่มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยอย่างดีพอ ข้าวของที่เสียหายก็ล้วนเป็นเงินที่มาจากภาษีของประชาชน ขอวิงวอนว่าอย่าได้ทำลายทรัพย์สินของทางราชการอีกเลย”

เขากล่าวทิ้งท้ายว่า ตอนที่พันธมิตรฯ บุกเข้ามา ก็ต้องย้ายไปอยู่ที่ดอนเมือง และเมื่อพันธมิตรฯ บุกไปที่ดอนเมืองอีก ก็ต้องย้ายไปที่บ้านมนังคศิลา ครั้งนี้คงต้องไปรออยู่ที่บ้านมนังคศิลา เลยมั้ง

สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยภายในทำเนียบรัฐบาล เป็นไปอย่างปกติไม่ได้มีกำลังเสริมแต่อย่างใด มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยประจำอยู่บริเวณประตูต่างรอบทำเนียบตามปกติ ทั้งนี้ภูมิทัศน์โดยรอบทำเนียบรัฐบาลก็ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม บำรุงให้แล้วเสร็จแต่อย่างใด โดยเฉพาะหญ้าบริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้าก็ยังไม่งอกงามแต่อย่างใด