“บุญจง” ฟิตประชุมทีมเฉพาะกิจล้อมคอกสถานบันเทิง พร้อมออกกฎกระทรวงคุมป้องกันภัยพิบัติ ยกเหตุ “ซานติก้า” เป็นตัวอย่าง จี้ทุกสถานบันเทิงทำประกันภัยนักเที่ยวเจ็บ-ตาย จ่าย 1 แสน พบละเมิดไม่ต่อใบอนุญาตให้ ปัดตอบสื่อ ป.ป.ช.เรียกสอบแจกเงิน ย้ำพร้อมชี้แจงทุกองค์กร ลั่น “ท้อได้ แต่อย่าถอย”
วันนี้ (30 ม.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจตรวจสอบสถานบริการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดอื่นๆ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
นายบุญจง แถลงผลการประชุมว่า คณะกรรมการได้จัดทำร่างกฎกระทรวง ซึ่งจะพิจารณาให้แล้วเสร็จไม่เกินวันจันทร์ที่ 2 ก.พ.นี้ โดยมีสาระสำคัญ คือ การป้องกันข้อบกพร่องในสถานบริการ โดยเฉพาะเรื่องประตูหนีไฟ ระบบป้องกันอัคคีภัย และป้องกันความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ โดยได้มีการเชิญผู้เกี่ยวข้องทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ ผู้มีประสบการณ์มาร่วมให้ข้อมูล ซึ่งคณะกรรมการจะดูแลในแนวทางสำคัญ คือ 1.ให้ความรู้กับผู้ประกอบการสถานบริการ ให้ปฏิบัติตามกติกาเรื่องความปลอดภัย 2.ตรวจสอบสถานบริการ ถ้าพบว่ามีปัญหาก็จะตักเตือนให้มีการปรับปรุงแก้ไข 3.ให้ความรู้กับผู้ใช้บริการ กรณีการเที่ยวจะต้องรู้ว่ามีทางหนีไฟและระบบป้องกันภัยอย่างไร โดยกระทรวงมหาดไทย และตำรวจจะมีชุดเฉพาะกิจในการดูแล ส่วนสถานบริการในพื้นที่ภาคใต้นั้น อยู่ในความดูแลของนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย
นายบุญจง กล่าวต่อว่า สำหรับกฎกระทรวงฉบับนี้จะไม่มีบทลงโทษ เพราะเราต้องการส่งสัญญาณให้ผู้ประกอบการเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่ซานติก้าผับ เป็นตัวอย่างที่สร้างความเสียหายและความสูญเสีย จึงต้องกำหนดระบบต่างๆ ให้ถูกต้อง อีกทั้งบทลงโทษหากมีการกระทำผิด ก็มีอยู่ในกฎหมายฉบับอื่นอยู่แล้ว โดยหลังจากนี้จะเรียกผู้ประกอบการมาหารือให้รับทราบด้วย อย่างไรก็ตาม กฎกระทรวงฉบับนี้จะมีเงื่อนไขใหม่ คือ สถานบริการจะต้องทำประกันภัยให้ผู้ใช้บริการ มิฉะนั้นจะไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตเปิดสถานประกอบการ ซึ่งสถานประกอบการต้องขอต่อใบอนุญาตปีต่อปี กฎกระทรวงจะทำให้มีลักษณะเหมือนประกันภัยรถยนต์ ที่ต้องต่ออายุ พ.ร.บ.ทุกปี โดยวงเงินประกันนั้น กรณีผู้เสียชีวิต ผู้ประกอบการต้องจ่าย 1 แสนบาท กรณีบาดเจ็บจนทุพพลภาพ ต้องจ่าย 1 แสนบาท หากบาดเจ็บ ต้องมีการรักษา จ่ายไม่เกิน 1 แสนบาท เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้ใช้บริการ
นายบุญจง กล่าวต่อว่า สำหรับการสุ่มตรวจนั้น ใน กทม.มีสถานบริการที่ขออนุญาตเปิด 800 กว่าแห่ง แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าจะสุ่มตรวจจุดใดเป็นพิเศษ และยังไม่ทราบว่า สถานบริการใดที่เปิดโดยผิดแบบบ้าง ซึ่งช่วงแรกจะมีการสุ่มตรวจช่วงกลางวัน โดยจะมีการแจ้งผู้ประกอบการให้ทราบล่วงหน้าก่อน ส่วนช่วงกลางคืนเป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่จะดูรวมไปถึงการเปิดเกินเวลา การให้เยาวชนต่ำกว่า 18 ปีเข้าเที่ยว และเรื่องยาเสพติด ส่วนที่ว่าการประกันภัยจะทำให้ผู้ประกอบการต้องรับภาระเพิ่มเรื่องค่าใช้จ่ายหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่า เขาจะทำประกันภัยกับบริษัทอะไร และเราจำเป็นต้องใส่เข้ามา เพื่อให้มีมาตรการดูแลผู้เสียหายได้ เราต้องอธิบายให้ผู้ประกอบการทราบต่อไป ทั้งนี้ คาดว่ากฎกระทรวงคงไม่สามารถเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ทันในวันที่ 3 ก.พ.นี้ แต่จะเร่งเพื่อให้สามารถบังคับใช้ได้ราวกลางเดือน ก.พ.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามกรณีการแจกเงินให้กับประชาชน พร้อมนามบัตรว่าจะต้องไปชี้แจงกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อใด นายบุญจงได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามและรีบลุกจากเก้าอี้ทันที โดยนายบุญจงมีสีหน้าที่เคร่งเครียดและซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัดเจน
เมื่อถามต่อว่า ถือเป็นการบกพร่องโดยสุจริตหรือไม่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รีบกล่าวขอบคุณสื่อมวลชนที่มาทำข่าวทันทีพร้อมกล่าวว่า “วันนี้ขอชี้แจงเรื่องการทำงานเท่านั้น ส่วนเรื่องส่วนตัวถ้าผมมีความคืบหน้าอะไรจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง และผมพร้อมที่จะไปชี้แจงต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประตูหน้าห้องทำงานนายบุญจงพบว่า มีการติดสติกเกอร์ขนาดใหญ่ที่มีข้อความ “ท้อได้แต่อย่าถอย” ภายหลังกระแสข่าวดังกล่าวทำให้รมช.มหาดไทยกลายเป็นเป้าทางการเมือง และก่อนหน้านี้นายบุญจงออกมาระบุท้อแท้ในการทำงาน ในกรณีการแจกเงินและนามบัตรจนถูกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์
