“สุนัย”หอบหนังสือแถลง อ้างรัฐยัดไส้หนังสือเรียนฟรี โก่งราคาเท่าตัว

“เห้สุนัย” แฉรัฐบาล “มาร์ค” โกงหนังสือเรียนฟรีแอบสอดไส้ เพิ่มราคาเท่าตัว เย้ยบัตรเครดิตยังหาย จะรักษางบแสนล้านได้อย่างไร เหน็บงบกลางปีแค่ “งบประชาธิปัตย์นิยม” เชื่อปรับ ครม.เล็ก โบ้ยสื่อฟังผิด อ้างไม่ได้พูด “เห้...” แต่พูดว่า “เนี่ย”

วันนี้ (28 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตนจะแฉถึงนโยบายการเรียนฟรีของรัฐบาล โดยเฉพาะการแจกหนังสือและเสื้อผ้านักเรียนฟรี ซึ่งดูผิวเผินแล้วเหมือนจะดูดี แต่จากการตรวจสอบในฐานะที่ตนเคยดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา รมว.กระทรวงศึกษาธิการ พบว่ามีการสอดไส้ ตกแต่งงบประมาณกันเกิดขึ้น จากราคาเมื่อก่อนที่ไม่เท่าไหร่ โดยเฉพาะราคาหนังสือที่เนื้อหาได้รับการรับรองจากคุรุสภาเหมือนกันและสามารถนำไปสอนได้เช่นกัน แต่กลับเปลี่ยนปก สอดไส้ เพิ่มราคาเป็น 1 เท่า จากเมื่อก่อน 50 บาทเป็น 100 บาท ซึ่งจะคล้ายกับกรณีปลากระป๋องเน่าเข้าไปทุกทีแล้ว

“เพราะนโยบายความไม่มั่นใจของท่านนายกฯ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) คือท่านจับอะไรไม่มั่น ท่านพูดแต่ว่าสวยๆ หรูๆ ให้มันเท่ๆ เท่านั้น อยากถามนายกฯ ว่าบัตรเครดิตที่อยู่ในกระเป๋ายังรักษาไม่อยู่ ยังหายเลย และคนใช้ยังนำไปเบิกเงินได้ มาวันนี้งบประมาณเป็นแสนๆ ล้าน จะรักษาอย่างไร” นายสุนัยกล่าว

นายสุนัย กล่าวอีกว่า วันนี้มีกลิ่นตุๆ ถึงการทุจริตแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรณีปลากระป๋องเน่า กรณีการแจกเงินของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย หรือกรณีหนังสือสอดไส้ ของกระทรวงศึกษาธิการ นายอภิสิทธิ์ในฐานะนายกฯ เทพประทาน ควรจะสำนึกหน่อย เมื่อมาเป็นนายกฯ แล้วไม่เห็นว่าจะดูแลเรื่องการทุจริตให้เข้มงวด หรือปกป้องภาษีของประชาชน เลย มาวันนี้จะของบกลางปีเป็นแสนๆ ล้านอีก ที่เรียกว่างบประชาธิปัตย์นิยมเพราะจะมีการกินตามน้ำในหลายเรื่อง ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรีคิดว่าคงไม่มีการปรับใหญ่ แต่ถ้าจะเก็บเนื้อร้ายไว้ก็จะลามไปยังนายอภิสิทธิ์

นายสุนัย ยังกล่าวถึงการสบถคำว่า “เห้” กลางที่ประชุมรัฐสภาด้วยว่า เมื่อประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลแล้วควรฟังฝ่ายค้าน อย่าแขวะฝ่ายค้าน ควรทำตัวเป็นคนหูหนักๆ เข้าไว้ แบบนี้ถึงจะเดินไปได้ ส่วนคำด่าว่า “ไอ้เห้” ขอเรียนว่าตนไม่ได้ด่าเป็นสัตว์ร้ายเช่นนั้น แต่ตนพูดว่า “ไอ้เนี่ย” แล้วสื่อก็ตีความไปลงกันเอาเอง แต่ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร

เปิดโต๊ะ แถลงรอบ 2

เมื่อเวลา 17.15 น. วันที่ 28 ม.ค. ที่รัฐสภา ภายหลังจากที่นายสุนัย ได้อภิปรายถึงการใช้งบประมาณของกระทรวงศึกษาในการจัดซื้อชุดนักเรียนและหนังสือเรียนฟรีกลางที่ประชุมสภาแล้ว ก็ได้ลงมาแถลงรายละเอียดเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวที่ห้องแถลงข่าว ประจำรัฐสภา โดยมีนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เข้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด

นายสุนัย แถลงว่า ตนมีเอกสารเป็นรายงานการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักกระทรวงศึกษาธิการครั้งที่ 1/2552 ลงวันที่ 12 ม.ค. 2552 ซึ่งมีนาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.ศึกษาธิการเป็นประธาน โดยมี รมช.ศึกษาธิการ 2 คน พร้อมผู้บริหารกระทรวงเข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียง ในรายงานการประชุมระบุเนื้อหางบประมาณที่ใช้สำหรับจัดซื้อหนังสือเรียนจำนวน 6,429,987,792 บาท และค่าเครื่องแบบนักเรียนจำนวน 4,649,001,370 บาท พร้อมกับมีการกำหนดว่าการจัดซื้อให้ใช้ราคากลางชององค์การค้าคุรุสภา ซึ่งมีราคาแพงกว่าของเอกชนชนิดครึ่งต่อครึ่ง เช่น หนังสือแบบเรียนวิชางานเครื่องมือกลเบื้องต้น ของอาชีวะศึกษา ของสำนักพิมพ์เอมพันธ์ จำกัด จำหน่ายราคา 49 บาท แต่ขององค์การค้าคุรุสภา จำหน่ายในราคา 148 บาท ทั้งที่เนื้อหาและคุณภาพกระดาษแทบจะไม่มีความแตกต่างกัน

นายสุนัย กล่าวต่อว่า ขณะที่ชุดนักเรียนหากไปซื้อตามตลาดทั่วไปราคาจำหน่ายชุดนักเรียนอนุบาล อยู่ที่ราคา 125 บาทต่อชุด ประถม 180 บาทต่อชุด มัธยม ราคา 225 ต่อชุด ซึ่งราคาถูกกว่าของ มอก.ถึง 2 เท่า อีกทั้งกทม. ซึ่งมีคนของพรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าผู้บริหารดูแลอยู่ ได้เสนอราคาดังกล่าวมาให้พิจารณา แต่ทำไมรมว.ศึกษาธิการ ไม่เชื่อหรือว่าแกล้งไม่รู้ ไม่ทราบ

“ดูแล้วเหมือนว่านายกรัฐมนตรีของเรา พูดเก่ง พูดเพราะ แต่น่าจะทำงานไม่เป็น โดยเฉพาะเรื่องการระวังเงินทองของราษฎร ผมสังเกตตั้งแต่ปลากระป๋องเน่า 2 สัปดาห์แล้ว นายกฯ ก็ยังไม่แสดงท่าทีอะไร แล้วจะมาดูแลงบเป็นแสนล้านมันจะไหวหรือ นี่เป็นตัวอย่างเดียวของเฮลิคอปเตอร์มันนี่ ที่จะต้องติดตามว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร แต่ผมเสนอให้แจกเป็นเงินสด ให้ผู้ปกครองไปเลือกซื้อเอาเองตามใจชอบจะดีกว่า” นายสุนัย กล่าว

นายสุนัย กล่าวอีกว่า การจัดซื้อหนังสือเรียนเมื่อถูกกำหนดให้ใช้ราคากลางขององค์การค้าคุรุสภา ก็จะเกิดส่วนต่างของราคาที่เอกชนจัดพิมพ์จำหน่าย และของราคากลางถึงครึ่งหนึ่ง ซึ่งเงินจะไหลไปที่ไหนก็ไม่ทราบ แต่จะเป็นการกินตามน้ำ อีกทั้งจะทำให้ราคาหนังสือในตลาดทั้งหมดดีดตัวสูงขึ้น นอกจากนี้จะมีขบวนการถอดปกหนังสือแล้วไปพิมพ์ปกใหม่ จำหน่ายในราคาที่สูงขึ้น ตรงนี้ถือเป็นการทุจริตเชิงนโยบายของแท้ เรื่องนี้ยังไม่เกิด ตนไม่ได้บอกว่าทุจริต แต่ออกมาท้วงติงก่อนว่ามีกระบวนการดังกล่าวที่หากินกันง่าย ๆ ทำกันลวกๆ

ด้านว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านจะตั้งกรรมการขึ้นมาติดตามและศึกษาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยที่ผ่านมาต้องสูญเสียงบประมาณจำนวนมากกับราคาส่วนต่างจากโครงการลักษณะดังกล่าว หลังมีการกำหนดราคากลาง ก็จะมีขบวนการแอบฮั้วกับเจ้าของสำนักพิมพ์ ถอดปกหนังสือออกไปพิมพ์ราคาจำหน่ายใหม่ให้สูงขึ้น ที่ผ่านมาก็เคยมีการกระทำความผิดจนเกิดเป็นคดีความมาแล้วตามที่ปรากฏเป็นข่าวเรื่องการจัดซื้อหนังสือเรียนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ จ.อุดรธานี

แย้มรายชื่อผู้เข้าประชุม-ปัดมอบเอกสารให้รัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเอกสารรายงานการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักกระทรวงศึกษาธิการครั้งที่ 1/2552 ที่นายสุนัย ไม่ยอมให้กับ รมว.ศึกษาธิการ ตามที่ได้ร้องขอในที่ประชุมสภา โดยอ้างว่าเอกสารมีรายละเอียดที่จะทำให้สามารถติดตามตัวผู้ที่แอบนำเอกสารมามอบให้ตัวเองได้นั้น ในการแถลงข่าวนายสุนัยก็ไม่ยอมแจกจ่ายให้กับผู้สื่อข่าว แต่เปิดให้อ่านต่อหน้าภายในเวลาไม่นาน โดยมีเนื้อหาหน้าแรก เป็นรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุมวันดังกล่าว ได้แก่ นายจุรินทร์ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานที่ประชุม นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ น.ส.นริศรา ชวาลตันติพัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ นายชินภัทร ภูมิรัตน์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา และนายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา

ส่วนเอกสารแผ่นที่ 2 และ 3 เป็นรายละเอียดแสดงจำนวนงบประมาณที่ต้องใช้ในการจัดซื้อและหลักการและเหตุผล ซึ่ง ส.ส.ฝ่ายค้านไม่ยอมให้บันทึกรายละเอียดมากนัก อย่างไรก็ตาม ภายหลังการแถลงข่าวนายสุธรรม ระหงส์ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินเข้ามาหานายสุนัยและเพื่อน ส.ส.ฝ่ายค้าน เพื่อขอเอกสารจากนายสุนัย แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ